จากกรณี มีหนุ่มผู้เสียหายโดนน.ส. ลักขณา กริ่มใจ หลอกโอนเงินหมดเงินไปกว่า 1 แสนบาท เพราะรูปไม่ตรงปก ซึ่งรูปสาวตัวจริงเป็นน้องสะใภ้เจ้าของหมู่บ้านหรูในจ.ชลบุรี แต่ตัวจริงของสาวคนนี้อ้วน โดยถูกหลอกให้โอนเงิน 26 ครั้ง รวม 107,450 บาท
เมื่อฝ่ายชายขอพบกลับถูก น.ส. ลักขณา บ่ายเบี่ยงก่อนจะความแตกปิดโทรศัพท์หนีไม่สามารถติดต่อได้ ฝ่ายชายจึงเข้าแจ้งความ ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ล่าสุด วันที่ 5 พ.ค.63 น.ส. ลักขณา กริ่มใจ ผู้ก่อเหตุ พร้อมด้วยญาติเดินทางเข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.องครักษ์ จ.นครนายก โดยทีมข่าวพยายามสอบถามถึงเหตุการณ์ที่้กิดขึ้น แต่น.ส.ลักขณา ไม่ให้สะดวกจะให้ข้อมูล
ซึ่งหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวผู้ก่อเหตุมาถึงห้องคุมขังญาติของผู้ก่อเหตุ บอกว่า น.ส.ลักขณา ยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวจริง แต่ทางครอบครัวไม่ทราบสาเหตุ หรือข้อมูลใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ด้าน นายกฤษดา จรัสอรุณฉาย กำนันหมู่8 บ้านลูกเสือ อ.องครักษ์ จ.นครนายก บอกว่า หลังจากทราบข่าวได้เข้าไปสอบถามข้อมูลกับทางครอบครัวผู้ก่อเหตุ จากการสอบถามทางครอบครัวของผู้ก่อเหตุไม่ได้รู้เรื่อง หรือมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการกระทำของผู้ก่อเหตุ โดยน.ส.ลักขณา ยอมรับสารภาพกับตนเองว่าเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยเจ้าตัวสำนึกผิดกับการกระทำที่เกิดขึ้น และยินดีจะชดใช้ค่าเสียหายให้กับผู้เสียหายทั้ง 2 รายทั้งหมด
เนื่องจากหลังเกิดเหตุครอบครัวของน.ส.ลักขณา ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก น.ส.ลักขณา และอยากขอเข้ามอบตัว ตนจึงพาเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนของกฎหมาย อย่างไรก็ตาม อยากจะขอสังคมให้อภัยน.ส.ลักขณา ที่ทำผิดพลาดได้กลับมาแก้ไขปรับปรุงตัวเองใหม่อีกครั้ง
ขณะที่ นายดรีม (นามสมมติ) ผู้เสียหายรายใหม่อีกราย บอกว่า ได้มีการพูดคุยกับหญิงคนหนึ่งที่ใช้ชื่อว่าในเฟซบุ๊กว่า “พราว” ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2562 โดยตนได้ไปกดไลค์รูปภาพจำนวนมาก จนหญิงคนดังกล่าวทักกลับมาว่า “พี่กดมาอะไรเยอะแยะ ก่อกวนหรือคะ” จากนั้นก็ได้มีการเริ่มคุยกัน แลกไลน์และเบอร์โทรศัพท์มีการสานความสัมพันธ์จนเรียกกันว่าที่รัก เพียงแต่ไม่เคยวีดีโอคอลหรือเจอกัน ต่อมาฝ่ายหญิงอ้างว่า ติดกิจวัตรประจำวัน กินข้าว ดูหนัง ฟังเพลง อยู่กับคนในครอบครัวไม่ว่างจะเจอ แม้กระทั่งบางเหตุการณ์ อ้างว่าไปร่วมงานศพเพราะญาติเสีย
ส่วนการโอนเงินให้เกิดขึ้นด้วยความเสน่หา เพราะในฐานะคนเป็นแฟนกัน ก็ต้องมีการซื้อของให้กัน โดยฝ่ายหญิงอ้างว่า ขอเงินไปซื้อกระเป๋า ต่างหู ลิปสติก แป้ง และเครื่องประดับต่าง ๆ โดยมีการโอนครั้งละตั้งแต่หลักร้อย ไปจนถึงหลักพัน จำนวนประมาณ 110 ครั้ง แต่ไม่ได้โอนเป็นจำนวนก้อนใหญ่ กระทั่งล่าสุดวันที่ 1 พฤษภาคม 2563 ได้โอนเงินไปให้ 940 บาท รวมเป็นเงิน 137,888 บาท ช่วงระยะเวลาตลอด 1 ปี 3 เดือน ไม่เคยคิดตะหงิดใจหรือสงสัยอะไรในตัวของผู้หญิงคนนี้ เพราะทั้งเรื่องโปรไฟล์ ความรู้ ภาษาที่ใช้ ทุกอย่างไม่สามารถที่จะแยกออกได้ว่ากำลังคุยกับตัวปลอม ยอมรับว่าผู้หญิงคนนี้ทำการบ้านมาเป็นอย่างดี
จนเช้าของวันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคม ที่ผ่านมา มาทราบความจริงจากข่าวในทีวีว่ามีผู้เสียหายหลายคนโดนแบบเดียวกัน จึงพยายามติดต่อไปหาฝ่ายหญิงซึ่งไม่สามารถติดต่อได้ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้โกรธ แต่รู้สึกเสียเวลาและไม่อยากให้เจ้าตัวไปทำกับใครอีก เนื่องจากหลายคนอาจหวังในเรื่องของความรัก แต่ไม่ได้หวังเรื่องของเพศสัมพันธ์
นอกจากนี้ นายโอ๊ค (นามสมมติ ) อายุ 38 ปี สามีของน.ส.พราว ปุณยวีร์ ที่ถูกแอบอ้างเฟซบุ๊ก เล่าว่า ต้นเดือนเมษายน2562 ซึ่งกำลังจะแต่งงานพอดี ตนเองมาทราบว่าหญิงไม่ตกปก ายนี้ปลอมชื่อพร้อมกับนำรูปแฟนสาวไปใช้ เพราะมีเพื่อนในเฟซบุ๊กของแฟนสาวทักมาถามว่าทำไมมีเฟซบุ๊ก2 แอคเคานท์ เพราะทั้งชื่อและหน้าเหมือนกันทุกอย่าง โดยผู้ก่อเหตุบล็อกทุกคนที่เกี่ยวข้องกับแฟนตนทำอย่างแนบเนียนมาก และเมื่อตนนำเฟซบุ๊กเข้าไปส่องดูตามชื่อที่เพื่อนบอกก็เข้าดูไม่ได้เพราะโดยบล็อกไปด้วย จนสุดท้ายต้องใช้เฟซบุ๊กชื่ออื่นเข้าไปดูก็พบว่ามีการปลอมขึ้นมาจริง ๆ
ตอนแรกคิดว่าสร้างเฟซบุ๊กปลอมขึ้นมาเฉย ๆ แต่พอดูข้อมูลลึก ๆ ลงไปพบว่าปลอมเฟซบุ๊กนี้ขึ้นมาตั้งแต่กลางปี 2561 หลังจากนั้นจึงไปแจ้งความที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีเพื่อป้องกันไว้ จนกระทั่งเดือนเมษายน 2563 มีเหยื่อที่จ.ขอนแก่นติดต่อมาหาว่าโดนหลอกลวง
