จากกรณีนายณรงค์ศักดิ์ ผู้ป่วยโรคไต นอนอยูที่ รพ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ วานให้ญาติเตียงข้าง ๆ เอาบัตร ATM ไปกดดูยอดเงิน หลังได้รับข้อความว่าได้รับเงินช่วยเยียวยา 5,000 บาท จากเว็บไซต์ เราไม่ทิ้งกัน.com สุดท้ายเงินหายไป 3,000 บาทจากบัญชี ตำรวจออกหมายเรียกผู้เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล และพร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ขณะที่นายสมปอง อายุ 34 ปี ผู้ถูกกล่าวหายืนยันกับอมรินทร์ทีวีก่อนหน้านี้ว่า ไม่ได้เป็นคนกดเงินออกจากบัญชีธนาคารไป เพียงแค่เช็กยอดเงินเท่านั้น แต่พนร้อมจะคืนเงิน 3,000 บาทให้กับผู้เสียหาย เนื่องจากไม่อยากเป็นคดีความ เพราะเสียเวลาทำมาหากินนั้น
(อ่านเพิ่มเติม : เปิดใจชายกดเงิน 5 พันให้ผู้ป่วย โต้ฮุบ 3 พันลั่นคืนให้จบเรื่อง เมียยันผัวธรรมะธัมโมเข็ดทำดี)
ล่าสุด วันที่ 29 เม.ย. 63 นายสมปอง สิมาเลาเต่า อายุ 34 ปี เดินทางเข้ามอบตัวกับ ร.ต.อ.มานพ รอยประโคน รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.นางรอง เจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันสอบปากคำ
จากการสอบสวนนายสมปอง ตอนแรกปฏิเสธว่าไม่ได้ถอนเงินไป แค่ไปกดเช็กเงินตามที่ผู้เสียหายฝากให้เช็กเท่านั้น แต่เมื่อตำรวจเค้นสอบ สุดท้ายยอมรับสารภาพว่า ได้นำบัตรเอทีเอ็มของนายณรงค์ศักดิ์ไปกดเช็กยอดเงินที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย หน้าโรงพยาบาลนางรอง เมื่อวันที่ 22 เม.ย. 63 เมื่อเห็นว่ามีเงินในบัญชี 5,000 บาท จึงก็เกิดความอยากได้ ถอนออกมา 3,000 บาท แต่ยังไม่ได้ใช้เงิน และพร้อมจะนำไปคืนให้กับผู้เสียหาย
โดยนายสมปอง อ้างว่าไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน แค่เห็นแล้วเกิดความอยากได้ ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลของทางธนาคารที่ตรวจสอบแล้วมีการถอนออกไปจากตู้เอทีเอ็ม เบื้องต้น ถูกแจ้ง 2 ข้อหา ลักทรัพย์ และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย
ด้านนายณรงค์ศักดิ์ ผู้เสียหาย บอกว่า ดีใจที่นายสมปองยอมรับสารภาพ เพราะตอนแรกเห็นว่าปฏิเสธ ทั้งที่ก็มีหลักฐานว่ามีการถอนเงินออกไปจริง และหากนายสมปองนำเงินมาคืนให้ก็พร้อมยอมรับคืน และก็ให้อภัย โดยไม่ติดใจเอาเรื่อง ส่วนเรื่องคดีก็แล้วแต่ทางตำรวจ ส่วนตนเองหลังจากนี้คงไม่กล้าฝากบัตรเอทีเอ็มให้ใครไปกดอีก และอยากฝากเป็นอุทาหรณ์กับประชาชนด้วยว่าอย่าไว้ใจใคร เพราะอาจะเกิดปัญหาเหมือนกับตนเองได้
