จากกรณีเว็บไซต์ "tlhr2014" ได้มีการนำเสนอข่าวตำรวจทำการจับกุมตัวคนเร่ร่อนและคนไร้บ้าน ดำเนินคดีในข้อหาฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ประกาศห้ามออกจากพื้นที่เคหะสถานในช่วงเวลาตั้งแต่ 22.00-04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวระบุว่าเกิดขึ้นในวันที่ 12-13 เม.ย.63 ที่ผ่านมา ตามที่ได้ปรากฎออกมาเป็นข่าว จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปอย่างมาก ถึงการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ รวมไปถึงเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ถึงการดำเนินการจับกุมในครั้งนี้
วันที่ 22 เม.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางลงพื้นที่ไปยังบริเวณย่านหลังตลาดวโรรส (กาดหลวง) ต.ช้างม่อย อ.เมืองเชียงใหม่สอบถาม นายสมเพชร วงค์สุทะ อายุ 37 ปี ชาวแม่ฮ่องสอน บอกว่า ตนนั้นมีอาชีพรับจ้างเข็นผักภภายในตลาดวโรรสหรือว่ากาดหลวง แต่ก่อนมีรายได้ต่อวันก็ประมาณ 3-4 ร้อยบาท แต่พอมาพักหลังที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 รายได้ก็ลดลงเหลือวันละประมาณ 100 กว่าบาท
โดยวันที่เกิดเหตุนั้นตรงกับวันที่ 4 เม.ย.63 เป็นเวลาประมาณ 4 ทุ่มกว่า ระหว่างที่กำลังนอนอยู่ริมถนนก็เกิดปวดปัสสาวะ จึงได้เดินข้ามถนนไปอีกฝั่งเพื่อทำธุระ จากนั้นระหว่างที่จะเดินกลับมานอนต่อก็มีเจ้าหน้าที่เข้ามาจับกุม หลังจากนั้นก็ถูกนำตัวไปควบคุมไว้ในห้องขังที่สภ.เมืองเชียงใหม่ เป็นเวลา 1 คืน จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปยังศาลแขวงเชียงใหม่ ซึ่งศาลได้ลงโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 1,500 บาท โดยโทษจำคุกให้รอการลงโทษเป็นเวลา 1 ปี โดยต้องไปรายงานตัวคุมประพฤติทุก ๆ 15 วัน และบำเพ็ญประโยนช์แก่สาธารณะ
ด้าน พ.ต.อ.ภูวนาถ ดวงดี ผกก.สภ.เมืองเชียงใหม่ บอกว่า เบื้องต้นทางตนได้รับทราบข้อมูลดังกล่าวที่ถูกนำเสนอข่าวในโซเชียลไปแล้วซึ่อยู่ระหว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการออกปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่องทุกวัน ซึ่งกรณีเกี่ยวกับกลุ่มบุคคลไร้บ้านหรือคนเรร่อนนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้พบเจอมาเช่นกันก็ได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกับกลุ่มบุคคลดังกล่าวให้เข้าใจถึงมาตรการที่ดำเนินการพ.ร.ก.ฉุกเฉิน
อีกทั้งหากเป็นบุคคลเร่ร่อนนั้นมักมีปัญหาในเรื่องของการตรวจสอบ และไม่รู้ว่าเป็นใครมาจากไหนการจับกุมจึงทำได้ยากเช่นกัน และที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการดำเนินการกับกลุ่มบุคคลเหล่านี้เป็นกรณีพิเศษ โดยมีการควบคุมกำกับดูแลไม่ให้เกิดความเดือดร้อนหรือไปสร้างความเดือดร้อน
