วาฟเฟิลปลัดขิกดังแต่อยู่ไม่นาน! ธันยวัชร์ ติงอย่าคิดสั้นๆ-คนซื้อฉะหยุดโลกสวย (คลิป)

จากกรณีที่สังคมออนไลน์กำลังพูดถึงขนมวาฟเฟิลของแม่ค้ารายหนึ่ง ที่ดึงจุดขายเป็นการทำเป็นรูปทรงอวัยวะเพศชาย ซึ่งทางเจ้าของร้านเองเผยว่าได้รับไอเดียมาจากต่างประเทศ และผลตอบรับก็ดี จนได้กำไรวันละ 2,000 บาท ส่วนกระแสที่ออกมาทางเจ้าของร้านยอมรับว่ารู้สึกเครียดแต่ยืนยันที่จะขายวาฟเฟิลต่อตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุด วันนี้ (25 ก.ย.60) ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมาพบ อาจารย์ธันยวัชร์ ไชยตระกูลชัย ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดชื่อดัง โดยอาจารย์ธันยวัชร์ ให้ความคิดเห็นกรณีวาฟเฟิลปลัดขิกว่า บางครั้งการที่ต่างประเทศสามารถมีหรือทำสิ่งใดอย่างเสรีได้ แล้วในสังคมไทยจะสามารถทำได้เสมอไปนั้น ส่วนตัวมองว่าโลกยุค 4.0 เต็มไปด้วยสังคมโซเชียล ซึ่งทุกคนต่างมีความคิดว่าจะทำอย่างไร พร้อมให้ข้อมูลหรือสิ่งที่จะนำเสนอลงไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย สามารถทำให้คนรู้สึกตกใจ ตื่นเต้น และเกิดการแชร์กัน อย่างหลายกรณีที่ผ่านมา มีคนทำขนมเค้กเป็นรูปสุนัข หรืออุจจาระ เรื่องเช่นนี้สามารถรับรู้ได้ทันทีว่า เมื่อนำลงไปในโซเชียลมีเดียจะเกิดการแชร์ทันที แต่คำถามที่อยากให้คิดคือเป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ที่จะทำ อย่างเช่นบางเรื่องในต่างประเทศอาจมองว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ในประเทศไทยแม้จะเกิดการแชร์ต่อกันเยอะ แต่จะมีกระแสวิจารณ์ตามมา จนถูกตำหนิ หรือด่ากันจำนวนมาก ในหลายครั้งสามารถทำให้ดังได้จริง แต่ไม่สามารถทำการขายได้ต่อไป ส่วนตัวมองว่าการทำธุรกิจในยุคนี้ จะทำให้เกิดกระแสในโซเชียลมีเดีย เพียงเพื่อให้ดังชั่วข้ามคืนแล้วถูกด่า ซึ่งตนอยากให้ลองมองว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้น เป็นสิ่งที่ยั่งยืนหรือไม่ หลายครั้งที่เคยมีคนใช้การตลาดหลายรูปแบบ ทั้งเกาะกระแสสังคม หรือการใช้คำหยาบมาตั้งชื่อธุรกิจนั้น ตนมองว่าสามารถทำให้ชื่อเสียงผลิตภัณฑ์ดังได้ แต่จะอยู่ได้ไม่นาน แล้วก็หายไปจากสังคม

สำหรับวาฟเฟิลรูปลักษณ์คล้ายปลัดขิก ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องของวัฒนธรรม ซึ่งวัฒนธรรมบางอย่างในต่างประเทศอาจเป็นเรื่องปกติ แต่สังคมไทยไม่สามารถทำได้ เพราะบางเรื่องสังคมไทยยังยึดถือวัฒนธรรมเดิมอยู่ โดยบางครั้งคนรุ่นใหม่อาจมองว่า การที่มีขนมรูปลักษณ์คล้ายอวัยวะเพศชายเป็นเรื่องสนุก แต่ตนอยากให้คิดว่า ส่วนใหญ่สังคมไทยเป็นอย่างไร อยากให้คิดว่าในตอนนี้สามารถทำขนมรูปอวัยวะเพศชายได้ อนาคตก็อาจมีขนมอวัยวะเพศหญิง หรือต่อไปอาจจะไปถึงขั้นนำขนมมาร่วมเพศกัน ตนมองว่าเรื่องนี้จะไปกันใหญ่ หากไม่มีใครออกมาตักเตือน สังคมนี้อาจอยู่ลำบาก เพราะในปัจจุบันคนในสังคมมีหลายกลุ่มคน หลายรุ่น คนรุ่นใหม่อาจไม่ได้สนใจในเรื่องวัฒนธรรมไทย แต่ในสังคมก็ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่คิดต่างออกไปในเรื่้องวัฒนธรรมอยู่ ส่วนในมุมมองของอาจารย์ธันยวัชร์ ไม่เห็นด้วยกับการทำการตลาดดังกล่าว จึงอยากให้ลองนึกภาพว่า เมื่ออาหารมีรูปลักษณ์คล้ายอวัยวะเพศชาย แล้วผู้หญิงรับประทานอยู่ หากถ่ายรูปแชร์ตามโลกออนไลน์ อาจทำให้กลายเป็นสังคม 18+ ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ต่อไป คงมีธุรกิจอีกหลายรูปแบบที่ใช้วิธีนี้ เพราะว่าเคยมีคนทำแล้ว และประสบความสำเร็จ อย่างกรณีในอดีต เคยมีการขายครีมนวดทรวงอก แล้วนำเสนอการนวดแบบโจ่งแจ้งต่อสาธารณะ จากนั้นหน่วยงานของรัฐฯ ไม่อนุญาตให้จัดจำหน่าย เพราะมองว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสม ทั้งนี้ อยากฝากว่า ปัจจุบันเรื่องเพศอาจมองเป็นเรื่องธรรมดา แต่สิ่งใดที่ไม่ถูกต้องควรออกมาพูด หรือออกมาตักเตือนไม่ใช่ทำเพื่อประโยชน์อย่างเดียว เพราะถ้าปล่อยไปสังคมไทยจะกลายเป็นสังคมที่สามารถทำอะไรก็ได้เพื่อเงิน และการทำธุรกิจขอให้คิดถึงผลในระยะยาว อย่ามองแค่กระแสในระยะสั้นเท่านั้น ขณะที่ ทีมข่าวได้เดินทางมาที่ตลาดอินดี้ ย่านดาวคะนอง อีกครั้ง แต่กลับพบว่าร้านดังกล่าวปิด จากการสอบถามข้อมูลจากคุณปารณีย์ ดิฉลอง แม่ค้าร้านใกล้เคียง เปิดเผยว่า ยอมรับว่าภายหลังจากมีกระแสในสังคมออนไลน์ก็มีวัยรุ่น หนุ่มสาว เข้ามาซื้อและโพสต์ท่าทางประกอบ อย่างสนุกสนาน ซึ่งตนคิดว่านี้คือการตลาดของแม่ค้าร้านวาฟเฟิล หากถามว่า วาฟเฟิลปลัดขิกนั้นเหมาะสมหรือไม่ คุณปารณีย์ บอกว่า ตนถือว่าเป็นของแปลกใหม่ แต่คงไม่เหมาะสมกับวัฒนธรรมชาวพุทธ เนื่องจากผู้ใหญ่บางท่าานมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่เรื่องการให้ใครชอบหรือไม่ชอบนั้น เป็นความลอบส่วนบุคคลซึ่งตนไปตัดสินไม่ได้

ขณะที่ คุณกันกัน (นามสมมติ) ผู้ที่มาซื้อขนม เปิดเผยว่า ตนเดินทางมาจากสาย 4 เพื่อมาซื้อขนมวาฟเฟิลรูปอวัยวะเพศชาย แต่เมื่อมาถึงร้านกลับปิด ยอมรับว่าเสียใจมาก แต่ยืนยันที่จะมาซื้ออีกแน่นอน ส่วนสาเหตุที่คุณกันกัน เดินทางมาเพื่อที่จะซื้อวาฟเฟิล เนื่องจากตนเคยไปที่ญี่ปุ่นและมีขนมในรูปแบบอวัยวะเพศชายขาย และตนก็ชอบจึงได้ซื้อกิน แต่พอมาครั้งนี้ที่ประเทศไทยมีขายตนเลยคิดจะลอง เพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ และอยากลองชิม ซึ่งถ้าหากมีอวัยวะเพศหญิงออกมาขายตนก็คิดว่าดี เพราะมีของผู้ชายแล้วต้องมีของผู้หญิงด้วย ทั้งนี้ ที่มีประชาชนบางส่วนบอกว่า ขนมดังกล่าวทำให้สังคมเสื่อมเสีย ตนคิดว่า ประเทศไทยควรเปิดกว้าง เพราะต่างชาติก็เปิดกว้าง ส่วนที่บอกว่าเด็กกินแล้วดูไม่ดี ตนคิดว่ามันเป็นแค่ขนม เด็กไม่ได้กินของจริง จึงอยากให้มองเช่นนี้ ขณะที่ทีมข่าวได้โทรศัพท์สอบถาม นางเกตน์นิตา ประเสริฐสมบูรณ์ เจ้าของร้าน ซึ่งเจ้าตัวไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์สื่อ แต่ให้ได้เพียงข้อมูลโดยเมื่อนักข่าวถามว่าทำไมถึงปิดร้าน โดยทางเจ้าของร้านบอกว่า ที่ตนปิดร้านเพราะวันนี้ตนติดธุระ ไม่ได้ปิดร้านเพื่อหนีกระแสแต่อย่างใด และที่ทำวาฟเฟิลปลัดขิกขายเพราะตนได้ไอเดียมาจากต่างประเทศเท่านั้น และตนจะขายวาฟเฟิลปลัดขิกต่อไป  และในอนาคตก็จะทำวาฟเฟิลในรูปแบบอื่นๆออกมา