เมียหลวงอุ้มลูกจับผัวซุกกิ๊กถึงบนเตียง ขอหย่าพร้อมเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว อีกฝ่ายโต้แค่เพื่อน (คลิป)

จากกรณีเฟซบุ๊กแฟนเพจ HoneyCris โพสต์คลิปวิดีโอพร้อมข้อความอธิบายว่า ภรรยาหลวงหอบลูกน้อยบุกมาถึงห้องเช่าของหญิงสาวรายหนึ่ง ซึ่งถูกกล่าวหาว่าคบกับสามีของผู้อื่น พร้อมระบุว่า "#ตีเมียต่อหน้าลูก​ #สงสารลูกสุดเลย​ สงสารจับใจเลยหนูเอ้ย​ ไม่ควรมารู้มาเห็นอะไรแบบนี้​ บอกเลยฝังใจไปตลอดชีวิต" โดยมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความเป็นห่วง และสงสารเด็กที่ต้องมารับรู้เหตุการณ์เช่นนี้ 

ล่าสุดวันที่ 16 เม.ย.63 ทีมข่าวได้เดินทางมายังหอพักแห่งหนึ่งที่ ต.ปลวกแดง อ.ปลวกแดง จ.ระยอง เป็นสถานที่เกิดการทะเลาะกันระหว่างสามีภรรยา และหญิงสาวที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นเมียน้อย เมื่อมาถึงหอพัก ทางหอพักไม่อนุญาตให้ทีมข่าวเข้าไปด้านใน เนื่องจากเป็นสถานที่ส่วนบุคคล จากการสอบถามพนักงานหน้าหอพัก แจ้งว่าได้ยินเสียงทะเลาะกันในวันเกิดเหตุ แต่ไม่ได้เดินเข้าไปดู เพราะคิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัว

ทั้งนี้ทีมข่าวยังได้เดินทางมาที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เพื่อพบกับ น.ส.อาทิตยา ตรีอินทอง อายุ 30 ปี ภรรยาที่ตามไปพบสามีอยู่กับเมียน้อย เปิดเผยว่า เหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดขึ้นกับตนมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อปลายปี 62 ตอนนั้นตนเช่าห้องอยู่กับสามี และตนออกมาทำงานปกติ ซึ่งพออกไปแล้วปรากฎว่าลืมของจึงแวะกลับมาที่ห้อง เมื่อไขประตูห้องเข้าไป บผู้หญิงคนดังกล่าวกับสามีของตน มีเพศสัมพันธ์กันอยู่บนเตียงนอน ตนรู้สึกโกรธมาก ๆ จึงสั่งให้แฟนเลิกทำตัวแบบนี้ ซึ่งแฟนก็หยุดและไม่ได้ติดต่อกับหญิงคนนั้น

กระทั่งเมื่อวันที่ 15 เม.ย.63 เป็นเวลาผ่านมาร่วม 4 เดือนหลังจากเกิดเหตุการณ์แรก ครั้งนี้จับได้ว่าทั้งคู่ยังแอบคุยกัน ตนจึงตามไปที่ห้องผู้หญิงเพราะตนรู้อยู่แล้วว่าห้องผู้หญิงอยู่ที่ไหน เมื่อขึ้นไปที่ห้องตนก็เห็นเหมือนผู้หญิงกำลังใส่เสื้อคลุม และตนมองไปที่ผนังห้องเห็นรูปภาพของทั้งคู่ติดอยู่ ตนยิ่งโมโห ตอนนั้นลูกสาววัย 5 ขวบก็ร้องไห้อยู่ด้วย แต่ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร

ในวันดังกล่าวหลังเกิดเรื่อง ทั้งคู่ก็บอกว่าเป็นเพียงแค่เพื่อน ซึ่งตนไม่เชื่อว่าทั้งคู่คบกันในสถานะเพื่อน ตนไม่เคยเชื่อเพราะตนรู้ทุกอย่าง หากจะให้ตนฝากบอกทั้งคู่ ขอไม่พูดอะไร ตนไม่โกรธแล้ว และตนกำลังทำเรื่องหย่าขาดจากสามี ตนจะตัดขาดผู้ชายคนนี้ จะไม่มีการกลับมาคบกันอีกแล้ว ทั้งนี้หากหย่ากันไปแล้ว ตนก็ภาวนาขอให้ทั้งคู่ไปดี ไม่ต้องกลับมาอีก ส่วนตนก็ดูแลตัวเองและลูก ไม่จำเป็นต้องมีสามี และลูกก็ไม่จำเป็นต้องมีพ่อแบบนี้ เหตุการณ์นี้ตนถือเป็นความผิดพลาดของตัวเองที่เลือกคนผิด

จากนั้นทีมข่าวจึงติดต่อไปยังหญิงที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นเมียน้อย ทราบชื่อ น.ส.หน่อย (นามสมมติ) กล่าวว่าตนไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ด้วยการบันทึกภาพ ซึ่งหลังจากเกิดเรื่องก็รู้สึกเครียด อยากอยู่แบบส่วนตัว เพราะเป็นปัญหาส่วนตัว อีกทั้งตนไม่ได้อยู่ที่หอพักแล้ว กำลังเตรียมตัวย้ายออกจากหอพักดังกล่าว โดยสิ่งที่เมียหลวงทำกับตนครั้งนี้ ครั้งที่แล้วก็เคยทำกับตนมาแล้วเมื่อปลายปี 62

ทั้งนี้ตนไม่ได้คุยกับนายแจ็ค (นามสมมติ) สามีของผู้หญิงคนดังกล่าวมานานแล้ว ก่อนวันเกิดเหตุนายแจ็คโทรศัพท์มาหาตนบอกว่าทนไม่ไหวแล้ว ไม่อยากอยู่ที่นี่ ซึ่งแฟนของแจ็คน่าจะเช็กโทรศัพท์แล้วรู้ว่ามีการติดต่อกัยตน จึงตามมาที่ห้องตน ตนก็นึกว่าจะมาคุยกันดี ๆ แต่ผู้หญิงคนนี้เข้ามาก็มีแต่จะใช้กำลังอย่างเดียว ตนเลยบอกให้นายแจ็กพาภรรยาออกไปจากห้องของตน ซึ่งตนเห็นว่ามีเด็กมาด้วย ตนก็สงสาร เพราะไม่อยากให้เด็กมาเห็นเหตุการณ์แบบนี้

ตอนนี้มีเพจต่าง ๆ ในเฟซบุ๊กนำคลิปไปแชร์ เท่าที่ตนทราบคือทั้งคู่มีปัญหากันอยู่แล้ว ตนยอมรับว่าเคยคุยกับนายแจ็ค แต่ก็ห่างหายไปนานมากแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างตนและนายแจ็ค เป็นเสมือนเพื่อน ซึ่งพอวันหนึ่งนายแจ็คมีปัญหาก็แต่โทรศัพท์มาปรึกษาตน เพราะช่วงที่ห่างกันไปไม่ได้ผิดใจกัน มีปัญหาก็สามารถกลับมาพูดคุยกันได้เสมอ

จากในคลิปดังกล่าวอาจจะดูเหมือนเป็นการทำร้ายกัน แต่ตนยืนยันว่าไม่ได้มีการทำร้าย ไม่ได้มีการตบตีอะไรแน่นอน เป็นเหตุการณ์เพียงแค่ผู้หญิงเข้ามา และจะกระชากสามีออกไป ซึ่งผู้หญิงบุกรุกเข้ามาที่ห้องของตนโดยไม่บอกกล่าว ทั้งที่ก็รู้เบอร์โทรศัพท์ของตน หากถามถึงเรื่องจะคบนายแจ็คต่อไหม ค่อนข้างตอบยาก เพราะตอนนี้ตนก็ไม่ได้คบกันในฐานะแฟน แค่คบกันเป็นเพื่อนเท่านั้น และล่าสุดตนยังไม่ได้คุยกับฝ่ายชาย เพราะหายไปตั้งแต่เกิดเหตุแล้ว