กรณีหนุ่มแกร็บส่งเรื่องราวร้องเรียนพร้อมคลิป ระบุว่า “ผมอยากขอให้เป็นกระบอกเสียงให้ผมหน่อย เรื่องมีอยู่ว่า ผมเป็นพนักงานขับแกร็บ ได้มีลูกค้าชาวต่างชาติสั่งอาหารให้ไปส่ง พอไปถึงพยายามติดต่อลูกค้าประมาณครึ่งชั่วโมงกว่า จากนั้นผมจึงแจงให้ยกเลิกรายการ หลังจากนั้นชาวต่างชาติโวยวายลงมา และทำร้ายร่างกายตนเองได้รับบาดเจ็บ อ้างว่าไม่พอใจที่โดนยกเลิกออเดอร์” นั้น
วันที่ 4 เม.ย. 63 นายนิพล ไตรมงคลวิวัฒน์ หรือ โอ๊ต อายุ 39 ปี พนักงานแกร็บ เปิดเผยว่า เวลา 14.30 น. ของวันที่ 2 เม.ย. ตนเองได้รับออร์เดอร์จากลูกค้า ให้รับพิซซ่าไปส่งที่คอนโดฯ ย่านนิมมานเหมินทร์ จ.เชียงใหม่ ตนเองจึงไปรอรับพิซซ่า แล้วรีบไปส่งตามเวลา ซึ่งไปถึงหน้าคอนโดฯ เวลา 15.00 น. ตนเองได้ทักแชตและโทรศัพท์ไปกว่า 12 สาย ใช้เวลาติดต่อกว่า 20-30 นาที ก็ไม่มีคนรับสาย สอบถามนิติบุคคล ก็ระบุว่าไม่มีลูกค้าลงมารอ ตนเองจึงต้องแจ้งแอปฯเพื่อยกเลิกออร์เดอร์ เพราะคิดต่อลูกค้าไม่ได้
แต่ภายหลังยกเลิกได้เพียง 1-2 นาที มีลูกค้าซึ่งเป็นชาวต่างชาติลงมาพร้อมกับอาการมึนเมา มีกลิ่นแอลกอฮอล์ โวยวายใช้คำไม่สุภาพ เป็นภาษาต่างชาติ ไม่พอใจที่ถูกยกเลิกออร์เดอร์ ซึ่งต่างชาติอ้างว่า “ตนเองรอนานมาก หิว ทำไมแกร็บไม่ติดต่อเมื่อมาถึง มีสิทธิ์อะไรยกเลิกออร์เดอร์”
ซึ่งในตอนนั้นมีการยกเลิกออร์เดอร์ไปแล้ว ถ้าลูกค้าต่างชาติจะรีบพิซซ่า ต้องจ่ายเงินสด เพราะตอนยกเลิกระบบได้ยกเลิกการจ่ายเงิน 269 บาท และค่าส่ง 15 บาท ออกจากระบบไปแล้ว ดังนั้น จึงต้องจ่ายเงินสดใหม่ เพื่อตนเองจะได้ไม่ต้องนำของกลับไปเคลมกับร้านเอง แต่ลูกค้าต่างชาติยืนยันว่าจะรับพิซซ่า อ้างว่าหิว แสดงอาการไม่พอใจ เข้ามาประชิดตัว ใช้ไหล่กระแทกตนเอง ซึ่งฝรั่งสูง 190 ซม. แต่ตนเองสูง 170 ซม. จากนั้นเขาก็ทำร้ายร่างกายตน ตบเข้าที่กกหูอย่างแรง ตนมึนไปพักหนึ่งและหูอื้อ มีรอยช้ำที่หู เจ็บที่กกหูเล็กน้อย แต่ไม่ได้มีการโต้ตอบ
จากนั้น ทางนิติบุคคลคอนโดฯ จึงได้แจ้งตำรวจ 191 ทันที เมื่อตำรวจมาถึง ลูกค้าต่างชาติแจ้งตำรวจว่าโดนตนทำร้ายร่างกาย ซึ่งตอนนั้น ตนเองก็ยืนงง เพราะไม่คิดว่าจะโดนกล่าวหา จึงขอให้เปิดดูกล้องวงจรปิดทั้งหมด จนทราบความจริง ตำรวจให้มีการไกล่เกลี่ย
ผ่านไปไม่ถึง 2 ชั่วโมง เวลาประมาณ 17.00 น. ช่วงที่ตนเองยังวิ่งรับงานส่งของลูกค้ารายอื่น หน้าจอแอปฯปรากฏข้อความ “ระงับ และตัดสิทธิ์การให้บริการ” ซึ่งตนเองก็งงว่าเกิดอะไรขึ้น จึงได้ติดต่อไปที่สำนักงานแกร็บ จนทราบว่าตนเองถูกลูกค้าต่างชาติร้องเรียนว่าปฏิบัติตัวไม่เหมาะสม มีการทำร้ายร่างกายลูกค้า ตนเองจึงต้องตัดสินใจเดินทางไปแจ้งความเอาผิดกับลูกค้าต่างชาติ และขอใบบันทึกประจำวันไปของกล้องวงจรปิดคอนโดฯ เพื่อยืนยันกับทางแกร็บ ให้ตนกลับมาทำงานได้ปกติ
