จากกรณีเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็ก จ.สระบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี นำกำลังเข้าตรวจสอบและช่วยเหลือ ด.ญ.แหม่ม (นามสมมติ) อายุ 7 ปี นักเรียนชั้น ป.1 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี หลัง น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 28 ปี แม่ของเด็กร้องขอความช่วยเหลือไปยังนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี โดยมีหลักฐานสำคัญเป็นภาพ ด.ญ.แหม่ม ถูกมัดพันธนาการด้วยสายไฟไพล่หลัง ในที่พักเป็นตู้คอนเทรนเนอร์ ภายในแคมป์ที่พักคนงานเฝ้าไร่ไม่มีชื่อ ริมทางเข้าวัดหนองผักกรูด หมู่ 7 หมู่บ้านหนองผักหนอก ต.หนองย่างเสือ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
วันที่ 4 เม.ย. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่บ้านของแม่เด็กวัย 7 ขวบที่ อ.กัณทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ น.ส.บี (นามสมมติ) แม่ของเด็ก เปิดใจว่า ตนเองคบหากับนายนรินทร์ สามี มากว่า 10 ปี มีลูกด้วยกันอายุ 7 ขวบ กระทั่งเดือนมิถุนายน 2562 ความสัมพันธ์เริ่มห่าง นายรินเริ่มหึงหวง และทำร้ายตนเองด้วยการตบตี ตนและลูกคนเล็กอายุ 7 ขวบมากขึ้น
แม้กระทั่งนางสาวขวัญ (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ลูกสาวคนโต ที่เป็นลูกติดของตนจากสามีเก่า นายรินยังเคยขอร้องตนเองว่า “ขอมีเพศสัมพันธ์ด้วย บอกว่า "รักลูก บางทีเห็นหน้าลูกแล้วอดใจไม่ไหว" บางครั้งนายรินก็ให้ตนเองถ่ายรูปลูกสาวคนโตส่งให้เขาดู เพราะถ้าตนไม่ส่งรูปให้ เขาก็จะข่มขืนลูกสาวตน
ต่อมาประมาณช่วงเดือนธันวาคม 2562 ตนเองได้เลิกรากับนายริน แล้วมาอยู่กับสามีใหม่ ส่วนลูกสาววัย 7 ขวบของตน อยู่กับแม่ของนายริน ช่วงแรกที่เลิกกัน นายรินยังไม่ได้ทำร้ายร่างกายลูก กระทั่งช่วงเดือนมกราคม 2563 นายรินโทรศัพท์มาหาตนเอง และจะตบตีลูกให้ร้องไห้ ให้ตนเองได้ยินในสายโทรศัพท์ เพื่อต้องการให้ตนเองเห็นอกเห็นใจ และกลับไปคืนดีกับเขา
ต่อมาวันที่ 5 ก.พ. 63 นายรินส่งรูปลูกสาวของตน สภาพนอนอยู่บนที่นอนในห้อง มีถ่านที่ก่อไฟแล้วอยู่ในกระถางดินเผา 2 กระถาง วางไว้ที่ปลายเท้าของเด็ก มีควันไฟลอยอยู่ในห้อง ส่วนอีกภาพเป็นภาพที่นายรินนอนกอดลูกสาวของตน แล้วบอกกับตนว่า ถ้าตนไม่กลับไปคืนดีกับเขา ก็จะรมควันตายไปพร้อมกันทั้งพ่อทั้งลูก แล้วถ่ายรูปเซลฟี่ส่งมาให้ตนดู
จากนั้น วันที่ 29 ก.พ. 63 นายรินส่งรูปของเขาและลูกมาให้ตนเองดู ซึ่งลูกสาวของตนสภาพมีสายไฟรัดข้อมือ และสายไฟดังกล่าวก็ผูกติดกับการรัดข้อมือของเขาอีกด้วย ส่วนอีกภาพเป็นภาพที่นายรินต่อระบบเดินสายไฟในห้อง แล้วส่งข้อความมาขู่ตนเองว่าถ้าตนไม่กลับไปหาเขา ก็จะต่อสายไฟให้ช็อตเขาตายทั้งพ่อทั้งลูก โดยแชตดังกล่าว มีข้อความว่า "ไม่อยากพาลูกคิดสั้น แต่บางทีก็ไม่เว้นนะ จะเอาแบบนี้ไหม กลับมาหาลูกบ้าง"
นอกจากนี้ นายรินยังตบตีและใช้เท้าเหยียบหน้าอกลูก ซึ่งญาติของนายรินก็ไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน และพอตนเองสอบถามว่านายรินได้ตบตีลูกหรือไม่ ญาติก็บอกว่าเหตุการณ์ทุกอย่างปกติ ล่าสุดวันที่ 2 เม.ย. 63 นายรินส่งคลิปวิดีโอมาให้ เขาใช้ผ้าห่มตีลูกสาวของตนหลายครั้งขณะนอนอยู่บนที่นอน จนลูกสาวร้องไห้
ทั้งนี้ ตนเองก็คิดว่า นายรินเขาไม่ใช่แค่ข่มขู่ตนเองเท่านั้น เขาจะก่อเหตุจริง และตนก็สงสารลูกสาวมาก ที่ผ่านมาตนก็เอาตัวลูกสาวกลับมาไม่ได้แล้ว เพราะลูกเลือกตั้งแต่เเรกว่าจะอยู่กับย่า ส่วนลูกคนโตของตนโชคดีที่ตอนนี้ไปอยู่ที่บ้านกับแฟน ถ้าเขายังอยู่กับนายริน คงโดนข่มขืนไปแล้ว
ลูกสาวของตนรู้ตัวแน่นอน ว่าที่ผ่านมาถูกพ่อตบตีและทำร้ายร่างกาย แต่ทุกวันนี้ชินชากับการถูกพ่อทำร้าย จนเป็นเรื่องปกติ เมื่อวานนี้ตนเองยังได้คุยโทรศัพท์กับลูกสาว ลูกบอกว่าถูกพ่อตีทุกวัน หลังจากนี้ตนเองก็จะไปรับมาอยู่ด้วย เพราะทนไม่ได้อีกแล้ว
ล่าสุด หลังจากวานนี้เป็นข่าว เมื่อคืนที่ผ่านมา นายเอส่งข้อความแชตมาเย้ยว่า "กูโคตรดีใจที่ไม่ต้องเลี้ยงลูกแล้ว ขอบใจมากนะที่ให้เขามาเอาลูกไป กูไม่ลำบากแล้วโว้ย กูไม่ต้องมีภาระแล้วโว้ย เพราะลูกไปอยู่ในสถานสงเคราะห์" ซึ่งหลังเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่รับลูกสาว 7 ขวบไปอยู่ในการดูแลแล้ว