ศาลแขวงลำปาง ได้มีคำพิพากษากรณี พบผู้ที่อยู่ในกลุ่มเข้าข่ายเฝ้าระวังความเสี่ยงจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเขตพื้นที่อำเภอเถิน จังหวัดลำปาง เป็นชาย 1 รายซึ่งมีการฝ่าฝืนคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ เนื่องจากไม่แยกกักขังตนเอง14 วัน มีความผิดฐานพระราชบัญญัติโรคติดต่อตามกฏหมายพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 จึงให้กักขัง 15 วัน แทนค่าปรับ 7,500 บาท ที่สถานกักขังศาลจังหวัดลำปาง ตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย.63 เป็นต้นไป
ขณะที่ช่วงบ่ายวานนี้ (3เม.ย.63) เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลงาวได้เดินทางไปที่ร้านขายของชำภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.หลวงใต้ อ.งาว จ.ลำปาง ซึ่งเปิดเป็นร้านขายของชำ เพื่อนำบุคคลที่อยู่ในบ้านอีก 5 คน (ในจำนวนนี้มีเด็กอายุ 8-9 ปี จำนวน2คน)รวมอยู่ด้วย เพื่อนำไปกักตัวเผ้าระวัง ที่โรงพยาบาลงาว
หลังจากที่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา เจ้าของร้าน อายุ 59 ปี มีอาการป่วยมีไข้และเดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลงาวก่อนหลังการตรวจอาการทางทีมแพทย์ได้ทำการกักตัวไว้เนื่องจากสงสัยว่า อาจจะติดเชื้อโควิด-19 ล่าสุดผลตรวจออกมาแล้วว่า ติดเชื้อโควิด-19 และวันนี้ทางจังหวัดลำปางจะมีการแถลงข่าวอีกครั้งหนึ่ง
นายสาธิต กาแก้ว ผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า ในหมู่บ้านมีประชากรอยู่จำนวน 115 หลังคาเรือนจำนวนประชากร 234 คน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้เข้ามาที่หมู่บ้านเพื่อสอบสวนเกี่ยวกับที่มาของเชื้อไวรัสโควิด-19 และจากนั้นจะทำการปิดหมู่บ้านห้ามเข้าออก 14วัน และจะทำการพ่นยาฆ่าเชื้อภายในหมู่บ้านด้วย
อาสาดับไฟป่าถูกหมีควายตะปบหน้า ระหว่างไปดับไฟบนเขา
ลุงอาสาสมัครดับไฟป่า ถูกหมีควายตะปบหน้าระหว่างไปดับไฟบนเขา ได้รับบาดเจ็บ จึงแกล้งตายทำให้รอดมาได้
