ร่างทรงทักให้ญาติเดินเท้าเปล่าถึงเจอร่าง "ผอ.อ้อย" พิลึก ชี้จุดฝัง ใต้ต้นสะตอ (คลิป)

7 ก.ย. 60
จากกรณี ที่น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน หรือ ผอ.อ้อย อายุ 37 ปี ผอ.กองการศึกษาฯ อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ หายตัวปริศนาเป็นเวลาครบ 2 เดือนแล้ว พ่อแม่ สามี และญาติออกตามหาอย่างไรก็ไม่พบ จนทางครอบครัวได้ตั้งรางวัลใครชี้เบาะแสจนพบร่างมีรางวัล 1 แสนบาท ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (6 ก.ย.) นายบุญเลิศ และนางแหลม อุ่นอ่อน บิดามารดา ผอ.อ้อย พร้อมด้วยญาติพี่น้องได้เดินทางไปทำบุญเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด ครบ 37 ปี ของผอ.อ้อย ที่วัดป่าลานพยอมธรรมสถาน โดยบรรยากาศภายในวัด ระหว่างพิธีพระสวดนางแหลม อยู่ในอาการโศกเศร้า และน้ำตาคลอ ก่อนเปิดเผยว่า วันนี้มาทำบุญให้ลูกสาว เนื่องจากเป็นวันคล้ายวันเกิด เพื่อให้กุศลผลบุญดลบันดาลให้หาร่างของ ผอ.อ้อย ให้พบโดยเร็ว เพราะตนรู้สึกคิดถึงลูกมาก อยากเจอลูก ปกติทุกปีในวันเกิดลูกสาวจะต้องมาทำบุญที่วัด และเลี้ยงอาหารเพื่อน แล้วตนก็ต้องมาด้วยทุกครั้ง
นายบุญเลิศ และนางแหลม อุ่นอ่อน บิดามารดา ผอ.อ้อย
ด้านนายบุญเลิศ เปิดเผยว่า วันนี้ได้ทำบุญให้ลูกสาวก็รู้สึกสบายใจขึ้น ส่วนการหาร่างก็ยังดำเนินต่อไป ซึ่งส่วนใหญ่จะหาจากเบาะแสของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และจุดที่มีพยานหลักฐาน โดยยอมรับว่ามีคนโทรเข้ามาให้เบาะแสเป็นจำนวนมาก บางส่วนเป็นร่างทรง ซึ่งก็ไม่ได้ทำตามทั้งหมด
นายสนองศักดิ์ ยินทนานนท์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 บ้านซำเม็ง ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
ทางด้านนายสนองศักดิ์ ยินทนานนท์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 บ้านซำเม็ง ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วยญาติ น.ส.จุฑาภรณ์ อุ่นอ่อน หรือ ผอ.อ้อย ชาวบ้าน และเจ้าหน้าที่ป่าไม้รวมกว่า 20 คน ลงพื้นที่ค้นหาร่างของ ผอ.อ้อย ที่บริเวณลำห้วยผึ้ง อุทยานแห่งชาติภูจองนายอย จ.อุบลราชธานี ซึ่งจุดดังกล่าว มีชาวบ้านเคยให้เบาะแสว่า พบชายแต่งกายคล้ายทหาร จำนวน 4 คน เดินออกมาจากป่า รวมถึงพบกองเลือด และเป็นจุดที่ญาติพบงูจงอางความยาวกว่า 4 เมตร ซึ่งทีมข่าวเคยนำเสนอไปก่อนหน้านี้
ชาวบ้านได้ทำพิธีเปิดป่า ขอให้เจ้าป่าเจ้าเขาเปิดทางในการค้นหา
โดยในวันนี้ ชาวบ้านได้ทำพิธีเปิดป่า ขอให้เจ้าป่าเจ้าเขาเปิดทางในการค้นหา โดยจุดธูปเทียนใช้ข้าวเหนียว อาหารวางไว้ ก่อนราดด้วยเหล้า น้ำเปล่า และนม เพื่อเซ่นไหว้เจ้าที่ขอนำร่างผอ.อ้อยกลับบ้าน ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินขึ้นไปสำรวจ บริเวณพลาญแสนคำ ซึ่งเป็นเนินเขาอยู่ถัดจากลำห้วยผึ้ง เป็นจุดที่ชาวบ้านได้กลิ่นเหม็นเน่าตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา โดยบริเวณดังกล่าว มีลักษณะเป็นลานหิน ที่ค่อนข้างลาดชัน แต่วันนี้ไม่ได้มีกลิ่นตามเบาะแสของคนในพื้นที่ โดยชาวบ้านทั้งหมดได้กระจายกันเดินปูพรมเพื่อค้นหา
นายโรจน์ศักดิ์ นรดิษฐ์ ชาวบ้านที่ให้เบาะแส
นายโรจน์ศักดิ์ นรดิษฐ์ อายุ 55 ปี ชาวบ้านซึ่งได้กลิ่นเหม็นเน่า และเป็นผู้ที่เคยให้เบาะแสเรื่องกองเลือด รวมถึงเห็นชายแต่งกายคล้ายทหารเดินออกมาจากป่า เปิดเผยว่า เมื่อวานที่ผ่านมาตน และเพื่อนอีก 2 คน เดินเข้าป่ามาช่วยญาติหาร่างของผอ.อ้อย จนถึงบริเวณพลาญแสนคำ ได้กลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรง จึงพยายามขุดหาต้นตอ แต่ก็ไม่พบจึงแจ้งทางญาติให้มาช่วยกันหา โดยยืนยันว่าตนมาช่วยด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่หวังผลตอบแทนใดๆ
นายปกรณ์ พรหมจรรย์ ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้ที่อ้างว่ามีจิตสัมผัส
ซึ่งในวันนี้ นายปกรณ์ พรหมจรรย์ อายุ 55 ปี ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้ที่อ้างตัวว่ามีจิตสัมผัส ได้มาร่วมค้นหาด้วย โดยเล่าว่า ตนมาร่วมค้นหาเป็นครั้งที่ 2 แล้ว รอบแรกมาช่วงปลายเดือนสิงหาคม แต่ยังไม่พบและรู้สึกคาใจจึงเดินทางมาอีกครั้ง โดยฝึกสมาธิเห็นภาพผอ.อ้อย อยู่ในนิมิตว่าถูกฝังอยู่ข้างแหล่งน้ำ ใกล้ต้นไม้ใหญ่คล้ายต้นสะตอ ตนอยากพิสูจน์จึงเดินทางมาตรวจสอบด้วยตัวเอง ซึ่งพื้นที่พลาญแสนคำก็เป็นจุดที่มีความเป็นไปได้สูง แต่ต้องเดินปูพรมค้นหา ทั้งนี้ ตนไม่ได้หวังเงินตอบแทนจำนวน 100,000 บาทตามที่ครอบครัวตั้งไว้ ยืนยันหากพบร่างจะไม่รับเงินเพราะอยากทำบุญช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งหลังทำการค้นหาประมาณ 30 นาทีแต่ไม่พบเบาะแส หรือสิ่งผิดปกติ ช่วงบ่ายชาวบ้านทั้งหมด ได้เดินปูพรมค้นหาบริเวณป่าห้วยผึ้ง โดยเน้นจุดที่มีใบไม้ทับถม ซึ่งมีการเขี่ยใบไม้ออก ก่อนใช้จอบขุดเป็นหลุม และใช้ไม้ดมกลิ่น โดยระหว่างการค้นหา ได้มีร่างทรงรายหนึ่ง โทรเข้ามาหาญาติ และแจ้งว่า ร่างของผอ.อ้อย อยู่ในป่าแห่งนี้ ซึ่งตนได้ทำพิธีเปิดตาให้กับนายสนองศักดิ์ ยินทนานนท์ ผู้ใหญ่บ้านซำเม็งแล้ว ซึ่งผู้ใหญ่บ้านเป็นคนเดียวที่สามารถเห็นจุดที่ ผอ.อ้อยถูกฝังและนำกลับบ้านได้ โดยต้องถอดรองเท้าเดินหาจุดดังกล่าว
ผู้ใหญ่บ้านซำเม็งถอดรองเท้าเดินสำรวจ
ซึ่งผู้ใหญ่บ้านซำเม็ง ก็ได้ถอดรองเท้า ก่อนเดินสำรวจทั่วบริเวณป่า และพยายามหาจุดที่มีหน้าดินฝังกลบใหม่ ซึ่งอาจจะเป็นหลุมฝังร่าง โดย นายสนองศักดิ์ เปิดเผยว่า เหตุที่มาค้นหาจุดเดิมเพราะเบาะแสจากชาวบ้านทั้งเรื่องกองเลือด และเรื่องกลิ่นเน่า รวมถึงมีร่างทรงที่โทรมาให้เบาะแสว่า ผอ.อ้อยถูกฝังในท่านั่ง ให้หาบริเวณใต้ต้นไม้ใหญ่ รวมถึงเน้นย้ำให้ตนเป็นคนนำร่างผอ.อ้อยกลับบ้านในวันนี้ให้ได้ ซึ่งต้องถอดรองเท้าเดินค้นหา โดยยอมรับว่าไม่ได้เชื่อร่างทรงทั้งหมด แต่ก็ต้องทำตามเพราะหมดหนทาง แม้วันนี้จะไม่พบเบาะแส เพราะป่าค่อนข้างกว้าง แต่ยังเชื่อว่าร่างผอ.อ้อยน่าจะอยู่ในบริเวณนี้ ซึ่งคาดว่าพรุ่งนี้จะลงพื้นที่เดิมเพื่อค้นหาอีกครั้ง
นายวิทยา เกษแก้ว สามี ผอ.อ้อย
โดยทั้งหมดใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงในการเดินค้นหารอบรัศมีกว่า 2 กิโลเมตร แต่ไม่พบเบาะแสใดๆ จึงยุติการค้นหา ก่อนกลับมารวมตัวกันที่บริเวณไร่มันสำปะหลัง ทางเข้าป่า โดยจุดนี้ทีมข่าวได้พบกับ นายวิทยา เกษแก้ว สามี ผอ.อ้อย เปิดเผยว่า วันนี้ตนแยกไปค้นหา บริเวณโนนผีปู่ ฝั่งตรงข้ามกับลำห้วยผึ้ง เนื่องจากได้รับเบาะแสมาว่า ก่อนน้ำหลากช่วงเดือนกรกฎาคม มีคนกลุ่มหนึ่งประมาณ 3-4 คน ได้เข้าไปนอนเฝ้าในพื้นที่ จึงเข้าไปตรวจสอบแต่ก็ไม่พบเบาะแสใดๆ ซึ่งตนคิดว่าพื้นที่บริเวณลำห้วยผึ้งมีเบาะแสหลายอย่าง จึงมีความเป็นไปได้สูงที่ผอ.อ้อยอาจจะถูกฝังที่บริเวณนี้ โดยหลังเข้ามาค้นหาหลายวันก็กังวลว่าคนร้ายอาจเคลื่อนย้ายร่างไปฝังที่อื่นจึงฝากให้ชาวบ้านในพื้นที่ช่วยเป็นหูเป็นตา ส่วนวันเกิดผอ.อ้อยในวันนี้ ตนยังไม่มีโอกาสไปทำบุญแต่อย่างใด เพราะค่อนข้างยุ่งในการตามหาร่าง แต่ปกติทุกปีหากมีเวลาว่างก็มักจะพาครอบครัวไปทำบุญด้วยกัน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ