เชียงใหม่วิกฤตหนัก ค่ามลพิษทางอากาศครองแชมป์โลก 3 วันซ้อน

14 มี.ค. 63
วันนี้(14มี.ค.) มีรายงานข่าวว่า สภาพตัวเมือง จ.เชียงใหม่ ถูกปกคลุมด้วยฝุ่นควันหนาทึบ มองเห็นด้วยตาเปล่าและสามารถรับรู้ถึงกลิ่นเหม็นไหม้ได้อย่างชัดเจนแม้อยู่ภายในบ้าน โดยข้อมูลจากเว็บไซต์ airvisual ซึ่งรายงานคุณภาพอากาศจากทั่วโลกพบว่า จ.เชียงใหม่ ครองแชมป์เมืองที่มีคุณภาพอากาศเลวร้ายที่สุดติดต่อกันเป็นวันที่ 3  โดยเมื่อ 09.00 น. ที่ผ่านมา ค่า PM2.5 ของตัวเมืองเชียงใหม่ สูงถึง 266.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และดัชนีคุณภาพอากาศอยู่ที่ 317 AQI ขณะที่ค่ามลพิษของเว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (Climate Change Data Center ChiangMai University)  พบว่าที่ข่วงประตูท่าแพ ในตัวเมืองเชียงใหม่วัดค่า PM2.5 ได้สูงถึง 438 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สูงที่สุดรอบปีนี้ ด้านข้อมูลของกรมควบคุมมลพิษรายงานค่า PM2.5 จากสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษในต.ช้างเผือกและ ต.ศรีภูมิ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ วัดได้ 127, 126 และ 124 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินค่ามาตรฐาน50ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ด้านศูนย์บัญชาการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 จังหวัดเชียงใหม่ รายงานจุดความร้อนจากดาวเทียมเวียร์ที่เกิดขึ้นในจ.เชียงใหม่ พบว่ามีจำนวน 199 จุดซึ่งลดลงจากเมื่อวานนี้(13 มี.ค.) ที่เกิดขึ้น 683 จุด เกิดในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 79 จุดป่าอนุรักษ์ 11 จุด และพื้นที่เกษตรอีก 9 จุดลุกลามจากจุดเดิมรอบบ่ายวานนี้ 16 จุด โดยพบมากที่สุดในอ.อมก๋อย 38 จุด รองลงมาคืออ.พร้าว 31 จุด เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนเร่งระดมกำลังเข้าดับไฟในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เชียงใหม่ นอกจากนี้ยังมีการตรวจพบกลุ่มหมอกควันหนาแน่นมากและหนาแน่นปานกลางปกคลุมเหนืออนุภูมิภาคแม่โขงสอด คล้องกับจุดความร้อนจำนวนมากในพื้นที่ประเทศไทยที่อยู่เหนือพื้นที่ภาคตะวันตก ภาคกลางและภาคเหนือ ประกอบกับลมตะวันตกเฉียงใต้และตะวันตกเฉียงเหนือพัดหมอกควันจากประเทศเมียนมาและด้านตะวันตกของประเทศไทยไปสะสมในภาคเหนือตอนบน อากาศยกตัวได้น้อยในช่วงค่ำต่อเนื่องถึงเช้า เมื่อเกิดไฟป่าและการเผาในช่วงกลางคืนจึงทำให้ฝุ่นละอองสะสมเป็นจำนวนมาก ซึ่งจ.เชียงใหม่มีสภาพภูมิประเทศเป็นแอ่งกระทะทำให้เกิดการสะสมของหมอกควันมากขึ้น นายเจริญฤทธิ์ สงวนสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่าจังหวัดเชียงใหม่ได้ประกาศปฏิบัติการ SetZero โดยเป็นการระดมเจ้าหน้าที่จากทุกภาคส่วน เข้าดับไฟป่าในพื้นที่ที่มีไฟป่าเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งบางพื้นที่สามารถดับได้แต่บางพื้นที่ไม่สามารถเข้าดับไฟได้เนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่มีความลาดชันยากต่อการเข้าถึง  ทั้งนี้ขอให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมและออกกำลังกายกลางแจ้งและสวมหน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กเมื่อออกนอกบ้านหากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว ทั้งนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ออกหนังสือเรื่องขอให้เร่งรัดการควบคุมการเผาและไฟป่าในทุกพื้นที่ ซึ่งได้สั่งการให้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดทุกจังหวัด เร่งรัดประสานงานและจัดส่งข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการบูรณาการสั่งการของผู้ว่าราชการจังหวัดในการควบคุมสถานการณ์ดับไฟและแก้ไขปัญหาการเผาในที่โล่งและมลพิษหมอกควัน เพิ่มความเข้มงวดในการดำเนินมาตรการและการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กPM2.5 โดยใช้จำนวนจุดความร้อนจากดาวเทียม SuomiNPP ของสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารเทศ(องค์การมหาชน) เป็นตัวชี้วัดผลการดำเนินงานร่วมกับข้อมูลคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษ . สำหรับจังหวัดชายแดนขอให้เร่งประสานประเทศเพื่อนบ้านระดับพื้นที่ตามแนวชายแดนในการลดและควบคุมการเผาอย่างเร่งด่วนควบคู่ไปกับการดำเนินงานร่วมกับกองทัพภาคทั้งการควบคุมและแก้ไขปัญหาในพื้นที่และในประเทศเพื่อนบ้านจัดทำแผนเผชิญเหตุและเร่งดำเนินการตามแผนสำหรับกรณีการเพิ่มสูงขึ้นของจุดความร้อนในพื้นที่และให้รายงานผลการปฏิบัติให้สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทราบ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ