เบื่อคำว่าลูกฉันเป็นคนดี! เหยื่อแฉเด็ก 14 แว้นชนแม่สาหัส ออกซิ่งถี่ยิบ ชี้เด็กไร้สำนึกต้องคุก (คลิป)

16 ส.ค. 60
จากกรณีที่สังคมออนไลน์ได้แชร์เรื่องราวของพยาบาลสาวรายหนึ่ง ที่กำลังจะเตรียมไปกราบเท้าแม่ แต่กลับต้องมานอนเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาลภายในห้องไอซียู เพราะคุณแม่ถูกเด็กแว้นวัยเพียง 14 ปี ขับรถมาชนจนทำให้อาการโคม่า จนต้องนอนเป็นเจ้าหญิงนินทรา ภายหลังก็มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าเด็กจะไม่ต้องรับโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นหรือ ล่าสุด วันนี้ (15 ส.ค.) คุณเบญจมาศ บัวศรี หรือคุณเบน เปิดเผยผ่าน รายการต่างคน ต่างคิด ออกอากาศเวลา 18.45 น. ว่า เมื่อวันที่ 12 ส.ค. เวลาประมาณ 04.00 น. ตนได้รับโทรศัพท์จากทางโรงพยาบาลว่าคุณแม่ตนประสบอุบัติเหตุให้รีบมาดูอาการโดยด่วน เมื่อมาถึงคุณหมอก็บอกว่าตอนนี้อาการของคุณแม่โคม่า ยอมรับว่าตกใจมาก เพราะวันแม่เป็นวันที่ดี คิดจะเอาของขวัญให้คือสร้อยทองที่แม่เคยไปจำนำไว้ ตนจึงไปไถ่ออกมาเพื่อมอบให้แม่แต่ทุกวันนี้กลับต้องเอามาให้ดูในขณะที่แม่นอนไม่รู้สึกตัว ภายหลังจากเกิดเรื่องคุณแม่ของทางคู่กรณีวัย 14 ปี ก็ได้เข้ามาขอโทษ พร้อมบอกว่า "แม่เลี้ยงลูกคนเดียว ให้อภัยลูกแม่เถอะ กลัวลูกจะเสียอนาคต" ตนก็บอกทางแม่เด็กว่า ตนก็เลี้ยงลูกคนเดียว ถ้าวันหนึ่งผู้ที่เจอเหตุการณ์เช่นนี้เป็นคุณแม่ แล้วจะเข้าใจว่าพร้อมจะให้อภัยหรือไม่ ขณะที่ตนก็ถามเด็ก 14 ว่า "ทำไมวันแม่ไม่กลับไปไหว้แม่ ตอนตี 4 ทำไมไม่เข้าบ้าน" แต่เด็กกลับหันหน้าหนีและไม่ขอโทษ ตนจึงคิดว่าการที่แม่ออกมาขอโทษแทน ทำทุกอย่างเพื่อลูกเหมือนกับพ่อแม่รังแกฉัน นอกจากนี้ คุณเบญจมาศบอกอีกว่า ตนอยากให้คู่กรณีวัย 14 ปี ได้รับผิด เพื่อให้สำนึก อยากให้รู้ว่าความผิดมีจริง ไม่ใช่คิดว่าเป็นเด็กแล้วจะทำอะไรก็ได้ โดยเฉพาะถ้าเด็กบางคนทราบว่าอายุ 14 ปีไม่ต้องติดคุกแค่อบรมเท่านั้น ก็อาจมีความคิดที่อยากจะกระทำความผิด แต่ในความเป็นจริง ถ้าเข้าไปเพื่ออบรมพ่อแม่เด็กก็ทำได้ และเด็กอายุ 14 สามารถมีกระบวนการคิดและตัดสินใจได้ดีแล้ว ไม่ควรโดนโทษแค่นี้ คุณเบญจมาศยังบอกอีกว่า ตนได้เข้าไปดูเฟซบุ๊กเด็กคนดังกล่าวพบว่า เด็กชอบออกขับรถจักรยานยนต์เพื่อเป็นสนามแข่ง ซึ่งทางผู้ที่เป็นแม่ก็ต้องรู้พฤติกรรมลูกว่าลูกมีนิสัยเช่นไร พร้อมฝากถึงผู้ปกครองเด็กว่า "อยากให้ดูแลลูกให้ดี เพราะวันหนึ่งอาจจะต้องมานั่งร้องไห้ต่อหน้าศพลูกตัวเองก็ได้" คุณเบญจมาศกล่าวทิ้งท้าย ทั้งนี้ ภายหลังจากจบรายการต่างคนต่างคิด คุณเบญจมาศก็ได้เปิดเผยว่า "ตนเริ่มเบื่อกับคำว่าลูกฉันเป็นคนดี" ขณะที่ ทนายเกิดผล แก้วเกิด บอกว่า กรณีเด็ก อายุ 14 ปี ก่อเหตุขับขี่รถจักรยานยนต์ไปเฉี่ยวชนผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บสาหัส หรือเสียชีวิต ตามประมวลกฎหมายอาญาสำหรับเด็กและเยาวชน อายุ 10 - 14 ปีเป็นเด็กไม่มีความผิดแต่เป็นการวางทัณฑ์บน ไม่ต้องเข้าสถานพินิจ ส่วนอายุ 15 - 18 ปีเป็นเยาวชนมีความผิดและต้องเข้ารับการอบรมภายในสถานพินิจ ในกรณีนี้เด็กมีความผิดแต่ไม่ต้องรับโทษแต่เป็นการวางทัณฑ์บนกับศาลเยาวชน เพื่อให้เด็กต้องเข้ารับการอบรม เช่นการนำไปเข้าค่ายปฏิบัติธรรม และช่วยเหลือสังคมต่างๆ และเมื่อถามถึงความผิดที่พ่อแม่ของเด็กจะได้รับ หากตรวจสอบแล้วว่าพ่อแม่เป็นผู้ซื้อ รถคันดังกล่าวให้เด็กนำไปขับขี่ พ่อแม่จะต้องรับโทษจำคุกหรือปรับตามที่ศาลจะพิจารณาเห็นแต่สมควร ทางด้าน คุณสุรีย์ฉาย พลวัน นักวิชาการด้านกฎหมาย สมาคมบัณฑิตสตรีทางกฎหมายแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ เผยว่า ในความเป็นจริงเด็กมีกระบวนการคิดแยกแยะได้ว่าสิ่งไหนที่ควรปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติ ซึ่งในทางกฎหมายของเด็กจะเน้นไปที่การฟื้นฟู เพราะคิดว่าการกักขังเด็กไม่มีประโยชน์ เพราะคิดว่าคนบางกลุ่มหากได้รับการฟื้นฟูและอบรมก็จะกลับตัวเป็นคนดีได้ ซึ่งหากเด็กถูกจำคุกก็อาจจะถูกตีตราและตัดสิทธิ์เด็กในการดำเนินชีวิต แต่ตนก็ยอมรับว่ากระบวนการฟื้นฟูยังไม่ดีมากนักจึงต้องมีการพัฒนาต่อไป

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ