ไขปมเรือ 3 ลำขายน้ำมันกลางทะเล ลุ้นเหลือเท่าไหร่จาก 3 แสนลิตร

17 มิ.ย. 67

ไขปมเรือ 3 ลำขายน้ำมันกลางทะเล ก่อนโทรบอกตำรวจให้ไปเอาเรือคืน – รอลุ้นน้ำมันหายไปเท่าไหร่ จาก 3 แสนลิตร

ความคืบหน้าคดีเรือของกลางสูญหาย พร้อมน้ำมันเถื่อนกว่า 330,000 ลิตร หายไปจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา ก่อนที่เมื่อวานนี้ (16มิ.ย.67) พบลอยลำในน่านน้ำสงขลา แต่ไร้ร่องรอยน้ำมันของกลาง 

ล่าสุดช่วงเช้าวันนี้ (17มิ.ย.67) บรรยากาศบริเวณท่าเทียบเรือ กองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ จังหวัดสงขลา มีตำรวจน้ำ จำนวนกว่า 10 นาย ใช้เรือลากจูงทำการเคลื่อนย้ายเรือประมง สัญชาติเวียดนาม จำนวน 3 ลำ ที่ลักลอบทำประมงผิดกฎหมายในน่านน้ำไทย ซึ่งมีการจับกุมตั้งแต่เดือนก่อน ออกจากท่าเทียบเรือ ไปจอดไว้บริเวณใกล้เคียง เพื่อเตรียมพื้นที่และรอเวลาที่ตำรวจน้ำ จะนำเรือของกลาง จำนวน 3 ลำ ประกอบด้วย เรือ เจ.พี. เรือซีฮอด และ เรือดาวรุ่ง ที่บรรทุกน้ำมันเถื่อนรวมกว่า 330,000 ลิตร และหายไปจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา เข้ามาท่าเทียบเรือ กองกำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจน้ำ จังหวัดสงขลา ซึ่งคาดว่า จะใช้เวลาอีกประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง จากนั้น พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมคณะ จะเดินทางมาแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับเรือน้ำมันที่สูญหาย ในวันนี้ (17 มิ.ย. 67)

1718535381820

สำหรับเรือทั้ง 3 ลำที่ถูกพบนี้ เบื้องต้นมีรายงานว่า ตำรวจน้ำ พบเรือทั้งหมด ถูกจอดลอยลำทิ้งไว้ โดยมีลูกเรือเหลืออยู่บนเรือทั้งหมด ประมาณ 6 - 7 คน จากเกือบ 20 คน ที่ได้รับแจ้งข้อมูลก่อนหน้านี้ แต่ไม่พบน้ำมันของกลางกว่า 330,000 ลิตร

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ตำรวจได้รับข้อมูลจาก “นายเล็ก” ซึ่งเป็นหนึ่งในลูกเรือที่จะต้องขึ้นเรือ 1 ใน 3 ลำนี้ด้วย แต่เมาหลับไป จึงไม่ได้ขึ้นเรือ

โดยอ้างว่า เรือทั้ง 3 ลำ มีเส้นทางไปยังเกาะกูด จังหวัดตราด เพื่อมุ่งหน้าออกไปยังน่านน้ำประเทศกัมพูชา เนื่องจากคาดว่า ได้รับคำสั่งจาก “โจ้ ปัตตานี” ที่หลบหนีคดีน้ำมันเถื่อนอยู่ในประเทศกัมพูชา เป็นผู้สั่งการให้เรือทั้ง 3 ลำ ไปขนย้ายน้ำมันขึ้นบก ที่ประเทศกัมพูชา แต่ต่อมากลับพบว่า เรือทั้ง 3 ลำ เลือลำอยู่ในน่านน้ำ จังหวัดสงขลา จึงมีความเป็นไปได้ว่า อาจจะเป็นการปล่อยข่าวให้เจ้าหน้าที่เกิดความสับสน

ส่วนที่พบเรืออยู่ในจังหวัดสงขลา ก็เชื่อว่า มีความเชื่อมโยงกับเจ้าของเรือตัวจริง เพราะเรือทั้งหมด มีถิ่นที่อยู่ในจังหวัดปัตตานี ในชื่อของ “นายโจ้ ปัตตานี”

1718593924216_0

ส่วนน้ำมันที่สูญหาย มูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท เชื่อว่า กลุ่มคนร้ายที่หลบหนีไปอีกประมาณ 10 คน จะเป็นผู้ลักลอบนำไปขายให้กับเรือประมงกลางทะเล ซึ่งกรณีนี้ ตำรวจต้องเร่งติดตามกลุ่มผู้ต้องหาที่หลบหนี และสืบสวนขยายผลว่า ได้นำน้ำมันไปขายให้ผู้ใดบ้าง และบุคคลใดเป็นผู้บงการ สั่งให้เรือทั้งหมดหลบหนีจากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ

ส่วนการขับเรือทั้ง 3 ลำ เชื่อว่า เป็นการใช้ประสบการณ์ และคำนวณจากแผนที่ โดยขับตามกันมา โดยตั้งใจนำน้ำมันส่งขายกลางทะเล ก่อนปล่อยเรือคืนตำรวจ

1718593934839_0

ทั้งนี้มีรายงานว่าเส้นทางการหลบหนีของเรือบรรทุกน้ำมันทั้ง 3 ลำ โดยออกจาก อ.สัตหีบ เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน จากนั้นมุ่งหน้าไปยังเกาะกูด จ.ตราด และล่องไปตามเส้นทางทะเลจนถึงประเทศเพื่อนบ้านกัมพูชา ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังประเทศเวียดนาม และกลับมาจอดที่ประเทศมาเลเซีย

โดยจุดที่มีการถ่ายน้ำมัน ยังไม่แน่ชัดว่าเป็นพื้นที่ใด ส่วนเส้นทางการเดินเรือ ใช้ร่องน้ำสากล กระทั่งเรือมาจอดเขต เศรษฐกิจพิเศษระหว่างมาเลเซียและประเทศไทย ตำรวจน้ำ จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ พร้อมตรวจยึดเรือดังกล่าว และเตรียมนำเข้าเทียบท่าเรือ กองกำกับการ 7 ตำรวจน้ำ จังหวัดสงขลา

1718594064189_0ขณะเดียวกันตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน เตรียมเข้าตรวจสอบ เรือของกลางดังกล่าวหลังจากที่มีการนำมาเทียบท่าเรือแล้ว โดยจะมีการตรวจเรื่องของวัตถุพยาน รวมทั้งดีเอ็นเอของผู้ต้องหาที่พบเจออยู่ในเรือขณะเข้าจับ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรืออย่างไรบ้าง  นอกจากนี้ ก็ยังจะมีการตรวจสอบ เรื่องของน้ำมันที่คาดว่ามีบางส่วนหลงเหลืออยู่ ว่าจะเป็นล๊อตเดียวกันกับที่ถูกจับก่อนหน้านี้หรือไม่

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส