32 ปี พุ่มพวง ดวงจันทร์ กับ 32 เรื่อง ของดวงจันทร์ในดวงใจ

13 มิ.ย. 67

ครบรอบ 32 ปี การจากไปของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ กับ 32 เรื่องในชีวิต ของดวงจันทร์ที่ยังอยู่ในดวงใจของคนไทยตลอดกาล

ครบรอบ 32 ปี การจากไปของราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ เสียงเพลงของเธอยังคงถูกเปิดและขับขานมาจนถึงปัจจุบัน และนี่คือ 32 เรื่องในชีวิต ของดวงจันทร์ที่ยังอยู่ในดวงใจของคนไทยตลอดกาล

1.กำเนิดดวงจันทร์ในดวงใจ

พุ่มพวง ดวงจันทร์ มีชื่อจริงว่า รำพึง จิตรหาญ เป็นบุตรคนที่ 5 จาก พี่น้องทั้งหมด 12 คน เกิดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2504 ที่ อำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท ก่อนครอบครัวจะย้ายไปปักหลักที่อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี

2.อ่านหนังสือไม่ออกแต่จำบทเพลงได้หมด

พุ่มพวง ดวงจันทร์ ได้เรียนหนังสือเพียงแค่ชั้นประถมปีที่ 2 แม้จะอ่านหนังสือไม่ออก แต่ความจำเป็นเลิศ เพียงแค่ได้ยินการร้องและเนื้อเพลงจากครูเพลงก็สามารถจดจำได้ทันที

138746788_1213239205741185_27

3.ฉายแววความดังตั้งแต่ยังเป็นเด็กหญิง

พุ่มพวง เริ่มประกวดร้องเพลงตามงานวัดในนาม น้ำผึ้ง ณ ไร่อ้อย ตั้งแต่อายุยังไม่ถึง 10 ขวบ คว้ารางวัลมากมาย เรียกได้ว่าบางครั้งถ้าเธอมาประกวดก็จะโดนกรรมการบอกว่าให้พอก่อน เพราะถ้าลงแข่งเมื่อไหร่ คว้าตำแหน่งชนะเลิศมาได้ทุกที

4.เพชรในตม ร้องเพลงหลังเวที สะกดทุกคนให้หันมามอง

ไวพจน์ เพชรสุพรรณ เคยเล่าว่า ตอนที่พ่อแม่ของพุ่มพวงนำตัวมาหาหลังเวทีนั้น พุ่มพวงได้ก้มกราบที่ตัก เขาจึงให้ลองร้องเพลงให้ฟัง หลังจากที่เปล่งเสียงออกมา ทุกคนหันมามองหมดเลย ตอนนั้นนึกในใจกูเจอแล้ว เจอเพชรในตมแล้ว เดี๋ยวไปขัดเอา ก็ให้พุ่มพวงขึ้นเวทีเลย

5.เริ่มต้นชีวิตในวงการลูกทุ่งด้วยการเป็นหางเครื่อง

ด้วยความที่เสียงดีมีพรสวรรค์ทำให้ พุ่มพวง ได้รับการเอ็นดูจาก ครูไวพจน์ เพชรสุพรรณ รับเป็นลูกบุญธรรมและให้มาทำงานอยู่ในวงดนตรี พุ่มพวงรอโอกาสเป็นนักร้องอยู่นานแต่ยังไม่ได้เป็นเสียที โดยเธอให้สัมภาษณ์ในรายการจันทร์กะพริบว่า เปรี้ยวปากอยากร้อง แต่เขาไม่ให้ร้อง เลยไปขอเขาเต้น แต่ก็ได้แต่ซ้อมยังไม่ได้ขึ้นเวที จนวันหนึ่งครูสอนเต้นไม่มาเลยสบโอกาสขึ้นไปเต้น ได้ค่าตัวมา 80 บาท เธอออกลีลาการเต้นจนเข้าตาได้เป็นหางเครื่องสมใจ

122119172_209338713882916_794

6.บทเพลงแรกในชีวิต

หลังสู้อดทนฟันฝ่าเก็บประสบการณ์ในวงการลูกทุ่ง "พุ่มพวง ดวงจันทร์" ก็ได้รับโอกาสให้ขับร้องและได้บันทึกอัดลงแผ่นเสียงเป็นชุดแรกคือเพลง "แก้วรอพี่" ในปี 2519

226338478_1340835499648221_18

7.ชื่อแรกในวงการ ที่หลายคนไม่คุ้นหู

ไวพจน์ เพชรสุพรรณ แต่งเพลง “แก้วรอพี่” ให้ร้องเป็นเพลงแรก และตั้งชื่อให้ว่า "น้ำผึ้ง เมืองสุพรรณ" แม้เพลงแก้วรอพี่จะมีคนรู้จักบ้างพอสมควรแต่ก็ยังไม่ส่งให้เธอโด่งดังเป็นพลุแตกสมใจ

227630220_1340720509659720_30_1

8.นักร้องบ้านนอก แต่งจากชีวิตจริง

พุ่มพวงเคยให้สัมภาษณ์ว่า ตอนที่จากบ้านเข้ามาเป็นนักร้อง คนข้างบ้านแซวว่า "คนบ้านนอกน่ะนะ โธ่! นักร้องน่ะเหรอ จะเป็นนักร้องให้เขาล้วงไปอัดแผ่นน่ะนะ สามแผ่นบาทหรือเปล่า มันจะดังได้ยังไง หนังสือจบแค่ ป.2 ป.3" ทำให้เรื่องนี้กลายมาเป็นเพลง นักร้องบ้านนอก พร้อมท่อนที่หลายคนจำได้ว่า "ก่อนจากบ้านมา เพื่อนมันว่าให้ช้ำทรวง ไปเป็นนักร้องให้เขาล้วง มันเจ็บในทรวงไม่หาย ไม่เด่นไม่ดัง จะไม่หันหลังกลับไป ทุกวันคืนนอนร้องไห้ อีกเมื่อไหร่จะโชคดี"

s__116252711

9.รักครั้งแรกของ น้ำผึ้ง เมืองสุพรรณ

หลังจากบันทึกแผ่นเสียงครั้งแรกในเพลง “แก้วรอพี่” ปีเดียวกันนั้นเอง เธอตกลงปลงใจอยู่กินกับ “ธีระพล แสนสุข” นักดนตรีและนักแต่งเพลง ลูกวงดนตรีไวพจน์ หลังจากแต่งงานแล้วได้แยกตัวออกจากวงไวพจน์ไปเช่าบ้านอยู่ด้วยกัน ก่อนที่จะเลิกรากันไปในภายหลัง

10.ที่มาของชื่อ พุ่มพวง ดวงจันทร์

“มนต์ เมืองเหนือ” ครูเพลงลูกทุ่งชื่อดังตั้งชื่อใหม่ในวงการลูกทุ่งให้ว่า “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ตอนแรกจะใช้ชื่อ "พุ่มพวง เพชรอีสาน" เพราะช่วงนั้นลูกทุ่งอีสานมาแรง แต่เธอแย้งว่า หนูไม่ใช่คนอีสาน เดี๋ยวใครมาพูดอีสานด้วยแล้วหนูพูดไม่ได้คนจะว่าเอา ครูเพลงเลยเปลี่ยนเป็น พุ่มพวง ดวงจันทร์ พุ่มก็ใหญ่ พวงก็ใหญ่ ดวงจันทร์ก็อยู่สูง ชื่อเสียงจะได้ยิ่งใหญ่สูงกว่าใคร สุดท้ายก็เป็นจริง

s__63930706

11.ดวงจันทร์เริ่มฉายแสงความดัง

พุ่มพวง ดวงจันทร์ เริ่มมีเพลงติดหูคนฟังจากอัลบั้ม สาวนาสั่งแฟน (ปี 2526) ตามติดด้วย นัดพบหน้าอำเภอ (2526) และ คนดังลืมหลังควาย (2528)

12.ขึ้นสู่จุดพีก ยอดขายล้านตลับ

อัลบั้ม "อื้อฮือ หล่อจัง" (ปี 2528) มีเพลงดังมากมายที่ผู้คนยังเปิดฟังกันอยู่ถึงทุกวันนี้ เช่น กระแซะเข้ามาซิ, อื้อฮือหล่อจัง นอนฟังเครื่องไฟ, อายแสงนีออน, สุดแค้นแสนรัก ฯลฯ สามารถทำยอดขายได้ถึง 1.5 ล้านตลับ นับว่าเป็นอัลบั้มที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของ พุ่มพวง ดวงจันทร์

s__116252703

13.ศิลปินเพลงลูกทุ่งคนแรกที่ได้ขึ้นแสดง โลกดนตรี

วันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2528 พุ่มพวง ดวงจันทร์ ขึ้นแสดงลานโลกดนตรีครั้งแรก (โลกดนตรี เป็นรายการเพลงที่โด่งดังที่สุดในยุคนั้น) และยังสร้างตำนานเป็นศิลปินเพลงลูกทุ่งคนแรกที่ได้ขึ้นแสดง แฟนๆ แห่กันเข้ามาดูจนรายการต้องงดออกอากาศถึง 10 นาทีเพื่อเคลียร์คนดู ซึ่งพุ่มพวงถือว่าเป็นคนเปิดทางให้วงดนตรีลูกทุ่งอื่นๆ ได้ขึ้นโชว์หลังจากนั้นเป็นต้นมา

14.งานแสดงเรื่องแรกในชีวิต

หลังเริ่มประสบความสำเร็จในวงการเพลง พุ่มพวง ดวงจันทร์ ได้แสดงภาพยนตร์เรื่องแรกในชีวิต รับบท “พุ่มพวง” ในภาพยนตร์เพลง “สงครามเพลง” ที่ออกฉายเมื่อปี 2526 กำกับโดย ฉลอง ภักดีวิจิตร นอกจากนั้นผลงานอื่นๆ เช่น นักร้องนักเลง, รอยไม้เรียว, คุณนายป.4, เสน่ห์นักร้อง, หลงเสียงนาง, ผ่าโลกบันเทิง, สาวนาสั่งแฟน, ขอโทษที ที่รัก, มนต์รักนักเพลง

435703800_968627941287319_193

15.พบรักกับ ไกรสร แสงอนันต์ พระเอกรูปหล่อ

พุ่มพวง ดวงจันทร์ ได้แสดงภาพยนตร์เรื่อง "มนต์รักนักเพลง" เป็นโอกาสให้ได้พบกับพระเอกหนุ่มรูปหล่อในเวลานั้นอย่าง "ไกรสร แสงอนันต์" ก่อนจะปลูกต้นรักกันในเวลาต่อมา และมีบุตรด้วยกัน 1 คน คือ น้องเพชร ลีละเมฆินทร์ ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น เพชร พุ่มพวง

440750386_993485678801545_261

16.ตั้งครรภ์ตอนออกอัลบั้ม ตั๊กแตนผูกโบว์

พุ่มพวงทำอัลบั้ม ‘ตั๊กแตนผูกโบว์’ ปี 2529 โดยอัลบั้มนี้ยกกองไปถ่ายมิวสิควิดีโอกันถึงประเทศจีน แต่ยังไม่ทันออกขายก็ตั้งครรภ์เสียก่อน ซึ่งสมัยนั้นการเป็นดารานักร้องเรื่องมีครอบครัวจะต้องปกปิด แต่พุ่มพวงไม่ทำแบบนั้น เธอคิดว่าการที่มายืนจุดนี้ได้ก็เพราะความสามารถ การที่แฟนเพลงจะรู้เรื่องมีลูก มีครอบครัวก็ไม่แปลก จึงตัดสินใจเดินหน้าทำงานต่อ ปรากฏว่าแฟนเพลงยิ่งให้ความสนใจ เวลาไปเดินสายก็มีคนแห่มาดู ด้วยเหตุผลที่ว่า อยากมาดูท้องพุ่มพวง ร้องจนถึง 6 เดือนถึงได้ขอพักงาน

334940468_724020512806683_114

17.กลับมาเปรี้ยงปัง เพราะคำว่า "หนูไม่รู้"

ชื่อเสียงของพุ่มพวงซบเซาไปช่วงนึงหลังมีลูก ต้นสังกัดปฏิเสธทำเพลงให้อีกเพราะมีครอบครัวแล้ว เธอจึงโทรไปขอให้ ‘ครูลพ บุรีรัตน์’ ครูเพลงคู่บุญแต่งเพลงให้ อาจารย์ก็ถามกลับมาว่าจะไม่มีปัญหาเหรอ เธอก็ตอบคำเดียว หนูไม่รู้ๆ จนกลายเป็นเพลง ‘หนูไม่รู้’ ที่โด่งดังสุดในปี 2531

18.เพลงนี้ไม่ต้องร้องเพราะ ขอสำเนียง "แรด"

ลพ บุรีรัตน์ ครูเพลงคู่บุญของพุ่มพวง เคยให้สัมภาษณ์ในรายการทีวีว่า พุ่มพวงเป็นศิลปินที่มีพรสวรรค์และเนื้อเสียงที่ดี แต่บางครั้งบางเพลงก็ต้องบอกให้ร้องใหม่ ไม่ต้องร้องเพราะมาก และให้มีสำเนียงการร้องที่ "แรด" นั่นจึงเป็นที่มาของเพลงดังหลายเพลงที่ฟังแล้วสนุกสนาน ฟังดูมีจริตจก้านแพรวพราวนั่นเอง

19.ยิงยาวความดัง ด้วยเพลงฮิตติดหูคนไทย

หลังจากเพลง หนูไม่รู้ พุ่มพวงสานต่อด้วยบทเพลงที่คนไทยยังร้องตามได้ถึงทุกวันนี้ เช่น หนูไม่เอา ฉันเปล่านาเขามาเอง อีกหน่อยก็ลืม ขอให้โสดทีเถอะ (2531) พี่ไปดูหนูไปด้วย เงินน่ะมีไหม (2532) ขอให้รวย รู้แล้วรู้แล้ว (2533)

20.ห้อยพระเป็นพวงเสริมดวงช่วงเบญจเพส

พุ่มพวงเชื่อเรื่องเบญจเพส ว่าเมื่ออายุ 25 ปีจะเป็นช่วงที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ทำให้ช่วงนั้นพุ่มพวงแขวนหลวงพ่อเต็มคอ ช่วงปี 2529 ในการทำงานแต่ละครั้ง พุ่มพวงไม่เคยถอดพระออกจากคอ ไม่ว่าจะถ่ายมิวสิควิดีโอ หรือขึ้นคอนเสิร์ต เพื่อความสบายใจ

272307764_1458244791240624_10

21.ตัวแม่แฟชั่น นักร้องลูกทุ่งที่ได้ขึ้นปกนิตยสารดัง

พุ่มพวง ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าแม่แฟชั่น ทุกครั้งที่ไปทำการแสดงที่ต่างประเทศ ก็จะแวะไปดูคอนเสิร์ตของศิลปินต่างๆ เธอได้นำมาสไตล์ปรับใช้กับโชว์ของตัวเอง ทั้งเสื้อผ้าหน้าผม รูปแบบการแสดง ความดังของเธอทำให้นิตยสารหลายฉบับต้องเปิดใจให้มาขึ้นปก เช่น ดิฉัน ขวัญเรือน สตรีสาร ฯลฯ ซึ่งไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน โดยพุ่มพวงเคยพูดถึงเรื่องนี้ว่า การขึ้นปกทำให้คนที่ไม่รู้จักเพลงลูกทุ่งได้รู้จักพุ่มพวง พร้อมกล่าวติดตลกว่า พอคนเห็นก็อาจจะคิดว่า ลูกทุ่งคนนี้หน้าตาก็พอไปวัดเช้าๆ ได้

441580173_995112395305540_878

22.ตั๊กแตนผูกโบว์ ได้แรงบันดาลใจจาก "มาดอนน่า" ไอดอลคนโปรด

"มาดอนน่า" ขึ้นชื่อว่าเป็นไอดอลสุดโปรดของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ ทั้งการแต่งตัว เสื้อผ้า หน้าผม ล้วนแต่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก "มาดอนน่า" เกือบทั้งหมด พุ่มพวงสะสมผลงานและสิ่งของต่างๆ มาพัฒนาโชว์ และมีครั้งหนึ่ง พุ่มพวงได้นำแฟชั่นต้นแบบชุดแต่งงานผูกโบสีขาวของมาดอนน่า ในคอนเสิร์ต "The Virgin tour" มาเป็นชุดขึ้นคอนเสิร์ตตั๊กแตนผูกโบ บนคอนเสิร์ต โลกดนตรี ในปี 2529 อีกด้วย

23.เปิดประตูสู่ไฮโซ ตำนานชุดลายเสือ ได้แสดงสดที่โรงแรมดุสิตธานี

โรงแรมดุสิตธานี เป็นโรงแรมที่โก้หรูมากในสมัยนั้น และไม่เคยมีศิลปินลูกทุ่งคนไหนเคยไปเปิดการแสดง แต่ด้วยความดังแบบสุดขีด ในปี 2529 พุ่มพวง ดวงจันทร์ จึงสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นนักร้องลูกทุ่งหญิงคนแรกที่ขึ้นไปเปิดคอนเสิร์ตร้องเพลงลูกทุ่งที่ห้องนภาลัย โรงแรมดุสิตธานี ท่ามกลางกลุ่มไฮโซเมืองไทย และที่นี่ยังเป็นสถานที่สร้างอีกหนึ่งภาพจำของพุ่มพวง นั่นคือ ชุดลายเสือ โดยพุ่มพวงได้รับแรงบันดาลใจมาจากเสื้อโค้ทกันหนาวลายเสือดาวของมาดอนน่า

272008493_1454660044932432_85

24.รางวัลของความสำเร็จ

"พุ่มพวง ดวงจันทร์" ได้รับรางวัลเสาอากาศทองคำพระราชทาน จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากเพลง "อกสาวเหนือสะอื้น" เมื่อปี 2521 รางวัลกึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทย ครั้งที่ 1 เพลง “สาวนาสั่งแฟน” ปี 2532 รางวัลกึ่งศตวรรษเพลงลูกทุ่งไทย ครั้งที่ 2 เพลง “สยามเมืองยิ้ม” ปี 2534

418730855_919659556184158_699

25.เกียรติสูงสุดของในชีวิต

"พุ่มพวง ดวงจันทร์" ได้รับเลือกเป็นผู้ขับร้องเพลง "ส้มตำ" เพลงพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในปี 2534 ถือว่าเป็นเกียรติสูงสุดในชีวิต ความสำเร็จในวงการเพลงทำให้พุ่มพวงได้รับฉายาว่า "ราชินีลูกทุ่ง" สืบต่อจาก "ผ่องศรี วรนุช"

73301534_873449223053520_4435

26.เริ่มป่วยด้วยโรคเอสแอลอี หรือโรคแพ้ภูมิตนเอง

ปี 2534 "พุ่มพวง ดวงจันทร์" เริ่มป่วยด้วยโรคเอสแอลอี หรือ โรคแพ้ภูมิตนเอง ที่ทุกคนต่างสงสัย และปัจจุบันผู้คนยังเรียกโรคเอสแอลอีว่า โรคพุ่มพวง

27.พุ่มพวงได้กราบพระพุทธชินราชสมความตั้งใจ

พุ่มพวงเคยพูดกับคนใกล้ชิดว่า อยากจะมากราบไหว้พระพุทธชินราชเพื่อความเป็นสิริมงคล เพราะไม่เคยมีโอกาสมาสักครั้ง จนกระทั่งช่วงสุดท้ายของชีวิตครอบครัวได้นำพุ่มพวงเดินทางออกจากบ้านพักในกรุงเทพฯ โดยมีกำหนดการว่าหลังจากไหว้พระแล้วจะไปเยี่ยมน้องเพชรที่เชียงใหม่ แต่หลังจากกราบไหว้พระพุทธชินราชเมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. เกิดอาการช็อกและหมดสติ ญาตินำส่งโรงพยาบาลพุทธชินราช

28.ในวันที่ดวงจันทร์จากไป

พุ่มพวง ดวงจันทร์ เสียชีวิต ในเวลา 20.55 น. ของคืนวันที่ 13 มิ.ย. 2535 ที่จังหวัดพิษณุโลก ขณะอายุเพียง 31 ปี

161536269_1251034681961637_28

29.งานศพที่มีคนมาร่วมอาลัยนับแสนคน

วันที่ 25 มิ.ย. 2535 ครอบครัว "พุ่มพวง ดวงจันทร์" ได้จัดงานพิธีพระราชทานเพลิงศพขึ้นที่ วัดทับกระดาน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี โดยสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานในพิธี มีประชาชนมาร่วมอาลัย ส่งราชินีลูกทุ่งขึ้นสู่สวรรค์นับแสนคน

363028315_831396771677104_290

30.มรดกของพุ่มพวง ดวงจันทร์ ที่ทิ้งไว้

ในวันที่พุ่มพวงจากไป มรดกที่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ ได้แก่ อาคารชุดที่สยามคอนโดมิเนียม ราคา 4 ล้านบาท, อาคารชุดที่สีลมคอนโดมีเนียม ราคา 5 ล้านบาท, อาคารชุดที่จุลดิศแมนชั่น ราคา 6 ล้านบาท, บ้านพักที่ซอยราชครู ราคา 8 ล้านบาท, บ้านพักที่ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ที่ดิน จ.ลำพูน จำนวน 22 ไร่, ที่ดินรกร้างบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ 22 ไร่, ที่ดินใน อ.ชะอำ หัวหิน จำนวน 30 ไร่, เครื่องเพชร-ทอง ในตู้เซฟธนาคารกสิกรไทย สาขาเชียงใหม่

297435459_1587933388271763_68

31.หุ่นพุ่มพวง ตัวแทนความรักและศรัทธา

ปัจจุบัน หุ่นพุ่มพวงมีทั้งหมด 13 จุดทั่ววัดทับกระดาน มีการตั้งหุ่นตัวที่ 13 เป็นตัวสุดท้าย ที่น้องสาวและลูกสร้างขึ้นมาใหม่ ซึ่งก่อนหน้านี้ครอบครัวบอกไว้ว่าจะงดรับหุ่นแล้ว ขอให้จบที่หุ่นที่ 13 พราะเกี่ยวกับพุ่มพวงคือ เสียชีวิตวันที่ 13 ตอนอายุ 31

198653385_1307831096281995_52

32.ปริยศิลปิน "พุ่มพวง ดวงจันทร์"

ราชินีลูกทุ่ง "พุ่มพวง ดวงจันทร์" ไม่ได้รับเลือกเป็นศิลปินแห่งชาติ เนื่องจากอายุไม่ถึงเกณฑ์ แต่เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2552 กระทรวงวัฒนธรรม ได้มีมติประกาศยกย่องเชิดชูเกียรติให้ พุ่มพวง ดวงจันทร์ เป็น "ปริยศิลปิน" หรือ ศิลปินอันเป็นที่รักยิ่งของประชาชน

s__63930708

ขอบคุณภาพจาก เฟซบุ๊กเพจ พุ่มพวง ดวงจันทร์

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม