เลขา กกต. เเถลงภาพรวมการเลือกสว.ระดับอำเภอ เรียบร้อยดี เตรียมเดินหน้าเลือกระดับจังหวัด ย้ำ! คำร้องคัดค้านไม่กระทบไทม์ไลน์
นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้เเถลงภาพรวมผลการเลือกสมาชิกวุฒิสภาในระดับอำเภอ ทั่วประเทศ ว่า ณ วันนี้ได้ใช้เจ้าหน้าที่ ในการดำเนินการเเละดูเเลความเรียบร้อย ในทุกอำเภอที่มีการจับเลือกสว.ทั้ง 928 เเห่ง รวมทั้งสิ้นกว่า 167,000 กว่าคน ซึ่งภาพรวมถือว่าเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายได้ดี เเต่ก็พบว่าบางหน่วยอาจมีปัญหา ผู้สมัครมารายงานตัวมาไม่ทันเวลาตามกำหนด และมีผู้สมัครบางคนนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อย่างหูฟัง ติดตัวเข้าไปในพื้นที่ ที่จังหวัดนนทบุรี
นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้สมัครบางราย มีอาการเจ็บป่วยในระหว่างการลงคะแนน ทำให้เสียสิทธิ์ในการผ่านเข้ารอบที่สอง พร้อมทั้งยืนยันว่า ในทุกจุดที่จัดการเลือกสว. มีการจัดพื้นที่ให้ผู้สังเกตการณ์ได้ติดตามการเลือกทั้งการเข้าไปในพื้นที่เลือกสว. หรือการติดตั้งจุดถ่ายทอดโทรทัศน์วงจรปิดเเล้วเเต่ความเหมาะสมของสถานที่
ซึ่งหลังจากได้ผลคะเเนนการเลือกไขว้ในรอบที่สองเเล้ว ผอ.ในระดับอำเภอจะติดประกาศผลการนับคะแนนหน้าสถานที่เลือก ผู้ที่ได้รับคะเเนนสูงสุด 3 ลำดับเเรก จะเป็นผู้ผ่านเข้าสู่รอบเลือกในระดับจังหวัด เเละจะส่งผลการนับคะแนนเเละรายชื่อผู้ที่ผ่านการคัดเลือก ให้กับผู้อำนวยการการคัดเลือกในระดับจังหวัด พร้อมทั้งเผยเเพร่ในเว็บไซต์ของอำเภอเเละกกต.กลาง เเละไม่เกิน 3 วัน ผอ.ระดับจังหวัดจะจัดทำเอกสาร ข้อมูลเเนะนำตัวผู้สมัคร ให้กับผู้สมัครเเบบเดียวกับการเลือกในระดับอำเภอ
ทั้งนี้หากผู้สมัครเห็นว่าการดำเนินการเลือกสว.ในวันนี้ไม่ชอบด้วยกฎหมาย สามารถไปร้องคัดค้านที่ศาลฎีกา ภายใน 3 วัน
โดยนายเเสวง ได้ย้ำว่า การร้องคัดค้านการเลือกสว. ในเรื่องคุณสมบัติเเละลักษณะต้องห้าม ผู้ร้องจะยื่นต่อศาลฎีกา ซึ่งกฎหมายกำหนดว่าศาลจะต้องมีคำวินิจฉัยก่อนวันเลือกในระดับอำเภอ 1 วัน ส่วนการร้องคัดค้านการดำเนินการเลือกสว.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาก็ต้องวินิจฉัยก่อนวันเลือกในระดับจังหวัด 1 วัน เเต่ในกรณีร้องคัดค้านว่า การเลือกสว. ไม่สุจริตเเละเที่ยงธรรม ให้มาร้องที่ กกต. เเต่กฎหมายไม่ได้กำหนดกรอบเวลาในการตรวจสอบ ดังนั้น กฎหมายจึงกำหนดให้เลือกสว.ให้ได้ 200 คน โดยไม่มีเหตุให้ไปชะงัก
นายแสวง ได้เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้มีคำร้องเรื่องการเลือกสว. ทั้งหมด 22 คำร้อง ซึ่งก็ต้องอยู่กับข้อเท็จจริง รวมถึงการตั้งข้อสังเกตเรื่องการฮั้ว เช่น การเลือกกันเองในกลุ่มแต่ไม่ลงคะแนนให้ตัวเอง ว่า ก็ต้องไปดูว่ามีเรื่องดังกล่าวจริงหรือไม่ จะมาคาดคั้นให้มันมีไม่ได้ ถ้าไม่มีก็คือไม่มี ทุกคนต้องได้รับความเป็นธรรม การทำงานของสำนักงานเป็นเรื่องของการสืบสวนสอบสวน ไม่ใช่การประชาสัมพันธ์ เมื่อมีคนได้ก็ต้องมีคนเสีย มีคนที่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ในส่วนของการเลือกในระดับจังหวัด จะไม่ลำบากเท่ากับระดับอำเภอ เพราะถูกกรองในระดับอำเภอไปชั้น 1
จากนี้จะเข้าสู่ระบบ การคัดเลือกที่มีทุกกลุ่มอาชีพ จะสามารถเลือกได้ง่าย อีกทั้งผู้สมัครต้องเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่ศึกษาระเบียบการเลือก ส่วนเรื่องรางวัล 1 ล้านบาท สำหรับผู้ชี้เบาะเเสการทุจริตนั้น เลขากกต.ระบุว่า จะสามารถจ่ายได้ ก็ต่อเมื่อศาลพิจารณาเเละมีคำพิพากษาว่าเบาะแสดังกว่าวมีความผิดจริง
อย่างไรก็ตาม เลขากกต. ยืนยันว่า สำนักงานกกต.อำนวยความสะดวกในการจัดการเลือกสว. คนที่ตื่นตัวมากที่สุด คือคนที่มีเจตนาที่ดี เพื่อให้การเมืองของเราดี เเต่ในส่วนของประชาชน น่าจะมีความสนใจน้อย เพราะไม่ได้มีสิทธิ์ในการร่วมเลือกตั้งเเต่ต้น ซึ่งเป็นเพราะการออกแบบกฎหมาย กกต.อยากให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมือง ไม่ว่าจะรูปเเบบไหน เเต่เมื่อกฎหมายออกเเบบมาในลักษณะนี้ ให้โอกาสเฉพาะคนที่สมัครเท่านั้น จึงจะมีส่วนร่วมโดยตรง เลยทำให้ บางอย่างขาดหายไป ส่วนตัวเข้าใจว่าผู้ร่างกฎหมายมีเจตนาที่ดี เเต่ก็ต้องดูว่าเมื่อใช้เเล้ว มีปัญหาเกิดขึ้นหรือไม่ ในช่วงท้ายของการเเถลงข่าวมีผู้สื่อข่าวได้ถามว่า ในการเลือกสว.ในวันนี้มีอะไรไม่เป็นไปตามความตั้งใจหรือไม่ นายเเสวงกล่าวสั้นๆว่า “ ขอให้อยู่ในใจผมเเล้วกัน “
.jpg)
