ส.ต.อ. โดนอีกข้อหา ตรวจพบฉี่ม่วง รพ.ยันหนุ่มเมียนมาไม่ได้รบกวนพ่อฆาตกร

8 มิ.ย. 67

 ส.ต.อ. โดนอีกข้อหา ตรวจพบฉี่ม่วง รพ.ยันหนุ่มเมียนมาไม่ได้รบกวนพ่อฆาตกร สันนิษฐานจากอาการที่เกิดจากการเสพยาเสพติดหรือไม่

จากกรณีสิบตำรวจเอกวีระพงษ์ ใช้อาวุธปืน 9 มม.ยิงนาย KyawSwarAongZ(จอ-ชอ-อ่อง) สัญชาติเมียนมา กระสุนเข้าที่บริเวณตาด้านซ้ายทะลุท้ายทอยด้านขวาขณะที่กำลังนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงคนไข้ในอาคารศัลยกรรมระบบปัสสาวะชั้น 5 อาคาร 6 โรงพยาบาลขอนแก่น

โดยช่วงเช้าที่ผ่านมามารดาและภรรยาพามือปืนเข้ามอบตัวกับ ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น รับสารภาพว่าใช้อาวุธปืนยิงหนุ่มพม่าจริงแต่มือปืนยังมีอาการสับสนแต่หลังเข้ามอบตัวเจ้าหน้าที่สอบสวนเสร็จก็แจ้งข้อกล่าวหาและนำตัวไปคุมขังที่ห้องควบคุมสภ.เมืองขอนแก่น

24_2

ซึ่งภายหลังเข้าห้องควบคุมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดในร่างกาย เบื้องต้นพบว่าปัสสาวะเป็นสีม่วงคือมีสารเสพติดในร่างกายพนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาเพิ่มอีก 1 ข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า)โดยผิดกฎหมาย

เมื่อเวลา 16.00 น.( 8 มิ.ย.67)ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ว่า หลังคุมตัวผู้ต้องหาถึงสภ.เมืองขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ทำการตรวจปัสสาวะของผู้ต้องหาเพื่อหาสารเสพติดในร่างกายปรากฏว่า เป็นสีม่วง เท่ากับว่าผู้ต้องหามีการเสพยาเสพติด แต่เพื่อความเป็นธรรมกับผู้ต้องหาก็จะส่งตัวไปที่ รพ.ศูนย์ขอนแก่น ให้แพทย์ทำการตรวจซ้ำว่าปัสสาวะสีม่วงที่ตรวจพบในเบื้องต้นนั้นเป็นสารเสพติดจริงหรือไม่ รวมทั้งหากเป็นสารเสพติดที่มาจากการเสพยาบ้าก็จะทำการสอบสวนขยายผลหาที่มาของยาเสพติดว่าผู้ต้องหามีการติดต่อซื้อยาเสพติดจากผู้ใดมาเสพ และจะทำการจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดมาดำเนินคดีตามกฏหมาย

ในส่วนของการสอบสวนเพิ่มเติมนั้นผู้ต้องหายังพูดย้ำคำเดิมว่า ยิงจริงแต่ไม่รู้ยิงทำไมและไม่รู้จักกับคนตายมาก่อนซึ่งอาจสันนิษฐานได้ว่ามาจากอาการที่เกิดจากการเสพยาเสพติดหรือไม่ ซึ่งจะต้องให้แพทย์ทำการตรวจร่างกายของผู้ต้องหาก่อนจึงจะสรุปได้

22_10

ทางด้านนพ.เกรียงศักดิ์ วัชระนุกูลเกียรติ ผอ.รพ.ศูนย์ขอนแก่น กล่าวว่า ยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเต็มที่เพื่อคลี่คลายคดีที่เกิดขึ้นส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาอ้างว่ารู้สึกเหมือนหนุ่มพม่าก่อกวนพ่อของตัวเองที่มารับการรักษาในอาคารเดียวกันจนตัดสินใจใช้อาวุธปืนก่อเหตุดังกล่าวขึ้นโดยไม่รู้ตัวนั้น จากการตรวจสอบพบว่าบิดาของผู้ต้องหาได้เข้ามารับการรักษาที่อาคารศัลยกรรมระบบปัสสาวะชั้น 5 อาคาร 6 โรงพยาบาลขอนแก่นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.67 และพักรักษาตัวอยู่ที่เตียง 28 ติดกำแพงฝั่งระเบียงด้านหลัง ขณะที่หนุ่มเมียนมาร์เดินทางมารักษาตัวเมื่อวันที่ 6 มิ.ย.67 เวลา 10.00 น. ที่อาคาร 5 ก่อนจะย้ายมาอีกอาคารที่เตียง 26 ซึ่งเป็นเตียงที่เกิดเหตุในเวลา 11.00 น. ซึ่งอยู่ห่างจากเตียงของพ่อมือปืนถัดมาอีก 2 เตียง

จากข้อมูลของพยาบาลที่ดูแลในห้องที่ผู้ป่วยทั้ง 2 อยู่นั้น พบว่าเหตุการณ์เป็นไปอย่างปกติซึ่งหนุ่มพม่ายังจิตใจดีช่วยญาติผู้ป่วยคนอื่นๆยกของด้วยและไม่ได้มีปากเสียงกับใครแต่อย่างใด กระทั่งมือปืนเข้ามาในโรงพยาบาลเวลา 20.00 น. แล้วขึ้นมาหาพ่อก่อนก่อนจะลงไปซื้อน้ำดื่ม 3 ขวด ที่ร้านค้าสวัสดิการของโรงพยาบาลในเวลา 21.13 น. และหายไปประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนจะปรากฎในกล้องวงจรปิดมาก่อเหตุดังกล่าวขึ้นในเวลาประมาณ 22.30 น. โดยอ้อมเข้ามาทางด้านหลังระเบียง ซึ่งหลังก่อเหตุได้หลบหนีไปทันทีซึ่งก็เป็นไปได้ว่าอาจจะเกิดจากสาเหตุอื่นที่ไม่ได้เกิดจากหนุ่มพม่าแต่อย่างใด

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม