สุดเศร้า ญาติรับศพน้องหมิง กลับบ้านเกิด

ครอบครัวเศร้า รับร่างน้องหมิง เชิญวิญญาณ ก่อนนำกลับไปบำเพ็ญกุศลบ้านเกิด - แม่ร่ำไห้เรียกลูกกลับบ้าน

ความคืบหน้ากรณีคดี นายธนากรณ์ หรือ แซน อายุ 18 ปี ก่อเหตุฆาตกรรม น.ส.วรัญญา หรือ หมิ๊งหมิง อายุ 18 ปี แฟนสาว ห่อศพสภาพเปลือยกายทิ้งหมกป่าหญ้าข้างทางใต้ทางด่วน พื้นที่ ม.4 ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี เพื่อหวังอำพรางคดี ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ 

ช่วงประมาณ 16.30 น. ภายหลังจากที่แม่ของนางสาววรัญญา เดินทางไปทำเรื่องเอกสารเพื่อมาขอรับศพลูกสาว เสร็จสิ้น ก็เดินทางกลับมาถึง สถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรมครอบครัวของเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้นำร่าง นางสาววรัญญาใส่ในโลงไม้สีขาว  ก่อนที่พี่สาวจะออกมาจุดธูป 1 ดอก บอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเรียกวิญญาณน้องสาวกลับบ้าน โดยพี่สาวร้องไห้ระหว่างที่บอกกล่าว ดวงวิญญาณของน้อง พร้อมบอกว่า “กลับบ้านกันนะ กลับบ้านกับพี่”

และก่อนนำร่างออกมาขึ้นรถกู้ภัย ทางครอบครัวได้นำแมวตัวโปรดที่พ่อของผู้ก่อเหตุนำมาให้ ชื่อ โคบี้ แมวเพศผู้ มาให้ร่างของนางสาววรัญญา ดูแล้วบอกว่า “โคบี้มาส่งนะ” ก่อนเคลื่อนร่างออกมาขึ้นรถกู้ภัย ซึ่งผู้เป็นแม่ถือรูปหันรูปเข้าหาตัวตามความเชื่อ นำร่างขึ้นรถกู้ภัย พร้อมด้วยพระสงฆ์ 1 รูป มุ่งหน้าไปยังจุดเกิดเหตุ เพื่อทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ ก่อนจะกลับไปทำพิธีทางศาสนาที่จังหวัดอุตรดิตถ์

เมื่อมาถึงจุดทิ้งศพ บริเวณใต้ทางด่วนรถตู้ที่ เคลื่อนย้ายร่างของนางสาววรัญญา จอดเทียบ จุดที่ร่างถูกนำมาทิ้งไว้ก่อนที่ ครอบครัวจะลงมาทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ โดยมีพระสงฆ์ 1 รูปประกอบพิธี ซึ่งคุณแม่นำก๋วยเตี๋ยว น้ำอัดลม และน้ำเปล่า มาจุดธูปเรียกลูกกินข้าวก่อนกลับบ้าน จุดธูป ร่ำไห้เรียกชื่อลูกสาว ก่อนจะบอกว่า “แม่มารับแล้วนะลูก น้องหิวไหมลูก มากินข้าวนะ แม่มารับแล้วนะลูก กลับบ้านเรานะลูก เดี๋ยวแม่พาไปวัดบ้านเรา ตามแม่มานะลูก แม่เอาโคบี้ กลับเลี้ยงให้แล้วนะลูก”

โดยภายหลังที่ ครอบครัวทำพิธีเชิญดวงวิญญาณเสร็จสิ้น แม่ของ นางสาววรัญญา ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอีกครั้ง ทั้งน้ำตา เปิดเผยว่า ลูกสาวคนนี้เป็นเหมือนเสาหลักของครอบครัว ทำงานขายนมเปรี้ยวส่งตัวเองเรียน และยังส่งเงินไปจุนเจือแม่ด้วย ที่ผ่านมา น้องเคยพา ผู้ก่อเหตุไปที่บ้านที่จังหวัดอุตรดิตถ์ 2 ครั้ง ตอนที่ไป แม่ก็ได้คุยกับแซน เห็นว่าดูเป็นคนพูดจาดี ดูจิตใจดี แซนได้บอกกับแม่ว่า ให้ช่วยบอกลูกสาวว่า อย่าเลิกกับตน หลังเรียนจบจะช่วยกันทำงาน เก็บเงิน มาแต่งงานด้วยกัน แม่ก็ไม่เคยคิดว่าจะมาทำกับลูกแม่แบบนี้

โดยมีครั้งหนึ่งที่ลูกสาว เคยมาบอกแม่ว่าอยากกลับบ้าน แต่ก็ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟัง เพิ่งมารู้ทีหลังว่า วันเดียวกันนั้น น้องไปเล่าให้พี่สาวฟังว่าถูกแซนจับมัดมือมัดเท้า เอาคัตเตอร์จี้คอ แต่ลูกไม่บอกตนเพราะไม่อยากให้ไม่สบายใจ

ส่วนสาเหตุการเสียชีวิต แม่ไม่อยากรับรู้ว่าเกิดจากอะไร เพราะวันนี้ลูกแม่ไม่สามารถฟื้นกลับมาได้แล้ว สิ่งที่แม่ทำได้ คือปล่อยวาง และอโหสิกรรม ยอมรับความเป็นจริง แต่ขอให้ครอบครัวของฝ่ายชาย ปล่อยให้การดำเนินการตามกฎหมาย เป็นไปอย่างเที่ยงธรรม ใครทำอะไรไว้ก็ต้องได้รับผลตามนั้น และงานศพ หากครอบครัวของนายแซนจะเดินทางไปร่วมงาน ก็ยินดี แต่ขอให้ไปด้วยใจบริสุทธิ์ เพราะเข้าใจว่าเหตุการณ์แบบนี้พ่อแม่ไม่ได้อยากให้ลูกเขามาฆ่าลูกเรา แต่เหตุเกิดแล้ว ก็ต้องรับผิดชอบ เพราะคนที่ทำลูกเราคือลูกคุณ.