ศาลไม่ให้ประกัน แซน มือสังหารน้องหมิง เนื่องจากเป็นคดีมีอัตราโทษสูง ลักษณะการก่อเหตุเป็นคดีสะเทือนขวัญ
ความคืบหน้ากรณีคดี นายธนากรณ์ หรือ แซน อายุ 18 ปี ก่อเหตุฆาตกรรม น.ส.วรัญญา หรือ หมิ๊งหมิง อายุ 18 ปี แฟนสาว ห่อศพสภาพเปลือยกายทิ้งหมกป่าหญ้าข้างทางใต้ทางด่วน พื้นที่ ม.4 ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี เพื่อหวังอำพรางคดี ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
โดยช่วงเช้าวันที่ 7 มิ.ย. 67 พนักงานสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต จะคุมตัวผู้ต้องหาไปส่งฝากขังผลัดแรกที่ศาลจังหวัดปทุมธานี ถูกดำเนินคดีใน 4 ข้อหาหนัก ได้แก่ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , ซ่อนเร้นอำพรางศพ , เคลื่อนย้ายศพ และเคลื่อนย้ายศพ ก่อนหน้าที่เจ้าหน้าที่จะไปถึง
โดยทางพนักงานสอบสวนได้ยื่นคัดค้านการประกันตัวท้ายคำร้องก่อนขอฝากขัง เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง และเป็นคดีอุกฉกรรจ์ เกรงว่าหากผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวอาจจะหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรืออาจฆ่าตัวตายได้ จึงสมควรที่จะได้รับการฝากขังเพื่ออยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด
ตลอดการคุมขังเมื่อคืน ตำรวจได้จัดกำลังตำรวจเฝ้าเวรยามผลัดเวรกันตลอดทั้งคืน บริเวณหน้าห้องผู้ต้องขัง เพื่อเฝ้าจับตาพฤติกรรม และเฝ้าระวังป้องกันไม่ให้ทำร้ายตัวเอง เบื้องต้นพบว่ายังสามารถนอนหลับได้ตามปกติ ไม่แสดงอาการท่าทีเครียดหรือวิตกกังวลแต่อย่างใด
ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 มิ.ย. 67 ที่ สภ.ปากคลองรังสิต จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดกำลังเตรียมนำตัว นายแซน ผู้ต้องหาขึ้นรถไปฝากขังที่ศาลจังหวัดปทุมธานี มีทั้งตำรวจและเจ้าหน้าที่อาสากู้ชีพร่วมกตัญญู โดยเจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันหามตัว นายแซน ออกจากห้องขัง เนื่องจากมีลักษณะไร้เรี่ยวแรง และไม่ยอมลืมตา
โดยมีพ่อและแม่เดินนำหน้าออกมาก่อน ตามหลังมาด้วยตัวผู้ต้องหากับตำรวจและเจ้าหน้าที่ ซึ่งระหว่างที่มีการนำผู้ต้องหาออกมา ผู้สื่อข่าวได้พยายามเข้าไปสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่เจ้าตัวยังคงหลับตานิ่งและไม่ตอบคำถามใดๆ กับสื่อมวลชน
ซึ่งจังหวะที่สื่อมวลชนกำลังสอบถามอยู่นั้น พี่ชายของนายแซน พยายามจะลากตัวสื่อมวลชนออกจากวงสัมภาษณ์ โดยเข้าล็อกคอผู้ช่วยช่างภาพของทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ออกมาจนเกือบจะเกือบปะทะกัน โดยอ้างว่าไม่ต้องการให้สื่อมวลชนเข้าไปรุม เพราะน้องชายยังเดินไม่ได้ จึงต้องให้เจ้าหน้าที่ช่วย จนแฟนของพี่ชายและตำรวจต้องเข้ามาห้าม
ขณะที่ตัวนายแซน ไม่ยอมตอบคำถามใดๆ และหลับตา ตลอดการเดินจากห้องผู้ต้องหาไปขึ้นรถควบคุมผู้ต้องขัง แต่ผู้สื่อข่าวสังเกตว่ามีบางจังหวะที่ลืมตามาพยายามมองหน้าสื่อมวลชน แต่เมื่อเห็นว่ามีคนมองอยู่ก็จะหลับตาลงทันที ทีมข่าวพยายามสอบถามว่า อยากจะขอโทษคนตายหรือครอบครัวของคนตายหรือไม่ แต่ก็ปิดปากเงียบ หลับตา และไม่ตอบคำถามใดๆ กับสื่อมวลชน
ส่วนการสอบปากคำตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ปรากฎว่า ผู้ต้องหายอมที่ให้การยอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา บอกว่าเป็นคนลงมือทำ แต่ไม่ขอลงรายละเอียด ซึ่งตลอดสอบปากคำมีอาการสะลึมสะลือตลอดเวลา
ล่าสุดศาลไม่ให้ประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีมีอัตราโทษสูง ลักษณะการก่อเหตุเป็นคดีสะเทือนขวัญ ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว เกรงว่าจะหลบหนี.
