ตำรวจ หาม “แซน” ออกจากรพ.เข้าคุก แกล้งหลับตลอดเวลา

ตำรวจ หาม “แซน” ออกจาก รพ.เข้าคุก ทำทีหลับตลอดเวลา ขณะที่แพทย์ยืนยัน ผู้ต้องหาใช้ชีวิตได้ตามปกติแล้ว

ความคืบหน้ากรณี หนุ่ม 18 ฆ่าแฟนสาวห่อศพสภาพเปลือยกาย หมกป่าหญ้าข้างทางใต้ทางด่วน พื้นที่ ม.4 ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี  ผู้ก่อเหตุคือ นายธนากรณ์ หรือ "แซน" อายุ 18 ปี หลังจากลงมือฆ่า นางสาววรัญญา หรือ "หมิ๊งหมิง" อายุ 18 ปี แฟนสาวนำศพไปทิ้งอำพรางแล้วกลับมาบ้าน  ก่อนพยายามกินยาเพื่อหวังฆ่าตัวตายหนีความผิด แต่คนในครอบครัวมาพบเสียก่อน  

ล่าสุดวันนี้ (6มิ.ย.67)เวลา 16.40 น. ตำรวจชุดปฎิบัติการ จังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต คุมตัวนายธนากรณ์ ผู้ก่อเหตุ มาสอบปากคำที่โรงพัก หลังจากแพทย์ลงความเห็นว่าอาการเป็นปกติ

โดยเมื่อมาถึง สภ.ปากคลองรังสิต ตำรวจได้หามตัวนายธนากรณ์ ลงจากรถตู้ตำรวจ ผู้สื่อข่าวพยายามตะโกนสอบถามถึงสาเหตุที่ฆ่าแฟนสาว แต่นายธนากรณ์ ผู้ก่อเหตุ ไม่ได้ตอบคำถามใดๆ มีท่าทีอ่อนแรง และหลับตาตลอดเวลา ตั้งแต่ลงจากรถไปถึงห้องควบคุมผู้ต้องขังระยะทางประมาณ 50 เมตร

ต่อมา เวลา 17.00 น. พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี แถลงถึงความคืบหน้าคดี ว่า วันนี้ตำรวจสามารถติดตามหาชิ้นส่วนมือ 2 ข้างของผู้เสียชีวิตจนพบแล้ว หลังตำรวจชุดสืบสวนเร่งรัดตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดอีกครั้ง ก็พบว่าประมาณตี 4 มีการจอดรถพักที่กองบรรเทาสาธารณภัยแห่งหนึ่ง ก่อนจะมีการเหวี่ยงถุงสีดำลงข้างทาง จากนั้นขี่รถกลับมาที่หมู่บ้าน ก่อนที่จะพบว่านำศพไปทิ้งที่ใต้ทางด่วน ซึ่งหลังจากนี้จะส่งมือทั้ง 2 ข้างที่พบ ไปตรวจพิสูจน์ว่าใช่มือของผู้เสียชีวิตหรือไม่ รวมถึงตรวจเส้นผมที่พบในถุงขยะ ซึ่งมีลักษณะถูกตัดเป็นกระจุกใหญ่ ว่าเส้นผมเป็นของใคร

ส่วนอาการของผู้ก่อเหตุนั้น ตำรวจมีการประสานกับหมอแล้ว โดยหมอระบุว่า ผู้ต้องหาสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ตำรวจจึงประสานขอนำตัวกลับมาสอบสวนที่ สภ.ปากคลองรังสิต โดยมีพี่ชายของผู้ต้องหาตามมาดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งพี่ชายก็ให้ความร่วมมืออย่างดี

ส่วนอาการที่ผู้ต้องหา มีลักษณะคล้ายเป็นลม ตอนที่ถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวลงจากรถ จะเป็นการแกล้งเป็นลม หรือฤทธิ์ของยาหรือไม่ ตรงนี้ไม่สามารถให้คำตอบได้ แต่ตำรวจยึดตามคำสั่งของแพทย์ ที่ยืนยันว่า สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ซึ่งในเบื้องต้นตำรวจได้จัดกำลังดูแลผู้ต้องหาอย่างใกล้ชิด หากมีเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือป่วยจริง ก็สามารถนำตัวไปโรงพยาบาลได้ทันที

ส่วนอุปกรณ์ที่ตัดข้อมือ ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด ว่าเป็นอาวุธชนิดใด แต่ตำรวจตรวจยึดได้ พบ เขียง มีดปังตอ ความยาวประมาณ 1 ฟุต ที่มีคราบเลือดติดอยู่ ตอนนี้ได้ส่งไปตรวจที่นิติวิทยาศาสตร์แล้ว

ในขณะที่เรื่องอาการทางจิต ต้องดูประวัติการรักษา ทั้งนี้ผู้ต้องหายังใช้ชีวิตตามปกติได้ สามารทำงานเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อได้ และการรู้จักวิธีการทำลายศพ ยืนยันไม่กังวล ในการสอบปากคำ เพราะตำรวจเชื่อการประเมินจากหมอ ที่ยืนยันว่าผู้ต้องหาอาการปกติ เพราะฉะนั้น อาการที่เห็น จะเป็นการแกล้งทำหรือไม่ อย่างไรก็จะสามารถสอบปากคำได้