รวบ “อี๊ด สายไหม” ติดเชื้อ HIV ขืนใจหลานสาวตั้งแต่ 7 ขวบ

28 พ.ค. 67

สืบนครบาลรวบ “อี๊ด สายไหม” ติดเชื้อ HIV ข่มขืนผู้หลานสาวตั้งแต่วัย 7 ขวบในเล้าเป็ดเกือบ 10 ปี โวหลบหนีเนียนแล้ว ตามจับได้ยังไง

 

เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2567 ตรำวจร่วมกับจับกุมตัว นายหนูการณ์ พวงแก้ว หรืออี้ด อายุ 59 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยใช้กำลังประทุษร้าย”

โดยจับกุมตัวได้ที่ บริเวณลานจอดรถหน้าบริษัทแห่งหนึ่ง ต.แสนภูดาษ อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา

หลังจากที่ น้องบี นามสมมติ อายุ 16 ปี ร้องเรียนผ่านเพจสายไหมต้องรอดว่า ถูก “ตาเลี้ยง” ข่มขืนตั้งแต่อายุเพียง 7 ขวบ ซ้ำร้ายมีข้อมูลว่าผู้ก่อเหตุเป็นผู้ติดเชื้อ HIV ด้วย โดยตลอดระยะเวลาที่เธอพักอาศัยอยู่ย่านสายไหม จ.กรุงเทพฯ เธอถูก “ตาเลี้ยง” ใช้จังหวะที่ยายไม่อยู่บ้านลงมือข่มขืนเธออยู่เป็นประจำ โดยทุกครั้งจะไม่สวมถุงยางอนามัย ซึ่งความเลวร้ายที่สุดคือ “ผู้ต้องหารายนี้เป็นผู้ติดเชื้อ HIV” และยังกล่าวอีกว่าเธอยังถูกข่มขืนมาตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ตั้งแต่ที่เธออยู่ที่ อ.องครักษ์ จ.นครนายก นาทีนั้นเธอยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าสิ่งที่เธอถูกกระทำนั้นคืออะไร รู้เพียงว่าเธอเจ็บและกลัวมาก แต่ก็ไม่กล้าขัดขืน เพราะถูกข่มขู่ห้ามบอกใครไม่งั้นจะขังเธอไว้ในเล้าเป็ดและพาไปขายซ่อง

ล่าสุดเธอเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับคนร้ายรายนี้ที่ สน.บางเขน เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 67 ที่ผ่านมา และในปัจจุบันได้มีการออกหมายจับแล้วคือ นายหนูการณ์ อายุ 59 ปี พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ส่งชุดสารวัตรแจ๊ะติดตามจับกุมตัว แต่การสืบสวนติดตามนั้นกลับกลายเป็น “งานหิน” เพราะผู้ต้องหานี้ทราบข่าวแล้วไหวตัว “หลบหนีสุดชีวิต”

จนกระทั่งได้รับเบาะแสจากพลเมืองดีว่าเคยเห็นผู้ต้องหารายนี้ขับรถรับจ้างบนถนนบูรพาวิถี บริเวณจุดรอรถริมถนนของห้างอีเกียร์บางนา ชุดสืบสวนใช้ความพยายามขับรถไปๆมาๆอยู่บนถนนบูรพาวิถีกว่า 3 วัน 3 คืน ไล่ดูหน้าคนขับ Taxi , รถตู้ และรถทัวร์ กินนอนกันบนรถ

กระทั่งเช้าของวันที่ 28 พ.ค. 67 ได้พบกับรถทัวร์ลายกัปตันแจ็คแสปโรว์ ที่คนขับกำลังเปิดกระจกมาจ่ายค่าทางด่วน สารวัตรแจ๊ะสั่งชุดสืบสวนไล่ล่าติดตาม กระทั่งรถคันดังกล่าวไปจอดส่งพนักงานโรงงานที่ริมถนนใน จ.ฉะเชิงเทรา ชุดสืบสวนจึงบุกเข้าจับกุมตัวได้ในที่สุด

นายหนูการณ์ฯ ให้การรับสารภาพ ว่า หลังเลิกงานได้ชักชวนหลานเลี้ยงมาคุยเล่นกัน จึงเกิดอารมณ์ทางเพศ จนทนไม่ไหวได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วย ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการข่มขืน แต่เพราะหลานเลี้ยงมายั่วตนก่อน ส่วนเรื่องตนเองนำเชื้อ HIV ไปติดหลานเลี้ยงนั้นไม่เป็นความจริง เพราะตนไม่เคยตรวจเลือด และไม่มีอาการของโรค HIV และไม่อยากที่จะตรวจ ส่วนโรคประจำตัวจะเป็นก็แค่โรคความดันต่ำ

คดีนี้ตนรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ยอมรับว่าได้มีอะไรกับหลานสาวทั้งหมด 6 ครั้ง หลังเกิดเรื่องตนโทรไปเคลียร์แล้ว แต่เคลียร์ไม่รู้เรื่อง และมีการออกข่าวเรื่องราวนี้ ตนจึงหลบหนีไปอยู่แถวสมุทรปราการ และได้แฝงตัวเข้าไปเป็นลูกจ้างรายวัน (คนขับรถทัวร์) โดยใช้ชีวิตหลบๆซ่อนๆ สวมหมวก สวมแว่นเพื่อปิดบังอำพลางมิให้ใครรู้ ใช้ชีวิตกินนอนในปั๊มไม่นอนที่พัก แต่ก็มาถูกตำรวจสืบนครบาลมาจับกุม ตอนถูกจับกุมยอมรับว่าหน้ามืดจะเป็นลมเพราะคิดว่าตนเองหนีได้เนี๊ยบแล้วไม่คิดว่าจะมาถูกจับกุมได้”

หลังจับกุมตัว ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางเขน เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย

 

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส