ช่างต่อผมร้านดัง ถูกสาวแสบ หลอกต่อผม ก่อนชิ่งหนี เบี้ยวไม่จ่ายตังค์

18 พ.ค. 67

ช่างต่อผมร้านดัง ตลาดเลียบด่วนรามอินทรา ร้องสายไหมต้องรอด ถูกจิ้งจอกสาวสุดแสบ หลอกต่อผมก่อนชิ่งหนีเบี้ยวไม่จ่ายตังค์ 

วันที่ 18 พ.ค. 67 ที่เพจสายไหมต้องรอด  เขตสายไหม กทม. น.ส.วัชราภรณ์ รัตนพลที อายุ 34 ปี เจ้าของร้าน Kk.Salon ซึ่งเป็นร้านต่อผมชื่อดัง ย่านตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา เดินทางเข้าพบ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ  ที่ปรึกษารมว.มหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือ กรณีถูกจิ้งจอกสาว แฝงตัวมาเป็นลูกค้าต่อผม ก่อนชิ่งหนีไม่จ่ายตังค์ 

น.ส.วัชรภรณ์  กล่าวว่า ตนเปิดร้านเสริมสวยและรับต่อผมได้ประมาณ 5 ปี ที่ผ่านมามีลูกค้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนิสิต นักศึกษา และวัยรุ่น ในวันเกิดเหตุคือวันที่ 11 พ.ค. เวลา 19.50 น. มีลูกค้าสาวรายหนึ่งเดินทางมาใช้บริการต่อผม โดยลูกค้าได้เลือกชุดต่อผมที่มีราคาแพงที่สุด มีราคารวมค่าต่ออยู่ที่ 6,500 บาท  

ในระหว่างที่ลูกค้าเลือกสีผมที่จะต่อ ตนก็รู้สึกเอะใจแปลกๆ เนื่องจากสีผมของลูกค้ามีสีน้ำตาล แต่ลูกค้ากลับเลือกผมต่อเป็นสีดำสนิท แต่ก็คิดว่าลูกค้าอาจจะไปทำสีผม จึงไม่ได้ถามอะไรมากมาย จากนั้นตนได้เริ่มลงมือต่อผมให้ลูกค้า พอต่อไปได้สักพักลูกค้าได้แจ้งว่าปวดปัสสาวะขอไปเข้าห้องน้ำ ตนก็ให้ลูกค้าไปห้องน้ำ เพราะเห็นว่ากระเป๋าของลูกค้าก็ยังวางอยู่ที่ร้าน  

ผ่านไปประมาณ 10 นาที ลูกค้าก็กลับมาที่ร้าน คราวนี้ระหว่างต่อผมลูกค้าทำทีคุยโทรศัพท์กับแฟนว่าให้นำเงินมาจ่ายค่าต่อผมให้ด้วย ตอนนี้กำลังต่อผมอยู่ที่ร้านอยู่นะ ตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร สักพักลูกค้าก็แจ้งกับตนว่าขอไปห้องน้ำ เพื่อเปลี่ยนผ้าอนามัย เนื่องจากประจำเดือนมา โดยคราวนี้ลูกค้าถือกระเป๋าของตัวเองไปด้วย ตนก็เข้าใจว่าในกระเป๋าคงมีผ้าอนามัยจึงไม่เอะใจอะไร พอเวลาผ่านไปประมาณ 30 นาที เห็นว่าลูกค้ายังไม่เดินกลับมาตนจึงเดินไปดูที่ห้องน้ำ พบว่าลูกค้าไม่อยู่แล้ว หายไปอย่างไร้ร่องรอย หายไปทั้งๆ ที่ผมยังต่อไม่เสร็จ  

เมื่อตนกลับมาทบทวนเรื่องราวต่างๆ ดูจึงพบว่าลูกค้าคนดังกล่าวน่าจะเป็น จิ้งจอกสาว ซึ่งวางแผนมา เพื่อมาเอาผมต่อของที่ร้านไปแบบฟรีๆ โดยใช้อุบายหลอกว่าจะไปห้องน้ำ ตนจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความที่ สน.คันนายาว เพื่อดำเนินคดีกับจิ้งจอกสาวรายนี้ให้ถึงที่สุด และตัดสินใจนำเรื่องนี้มาร้องกับเพจสายไหมต้องรอด เพื่อไม่ให้ร้านต่อผมรายอื่นๆ ต้องตกเป็นเหยื่ออีกต่อไป 

ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่า ต้องฝากถึงผู้ก่อเหตุ หากได้ดูข่าว ถ้าคุณไม่ได้ตั้งใจจะโกงหรือลืมจ่ายตังค์ ก็ขอให้รีบมาติดต่อเจ้าของร้านเพื่อนำมาจ่าย แต่ถ้าตั้งใจจะมาโกงก็รอรับหมายเรียก หมายจับอยู่ที่บ้าน เพราะขณะนี้ผู้เสียหายแจ้งความไว้แล้ว คลิปจากกล้องวงจรปิดเห็นหน้าชัดเจน เชื่อว่าตำรวจจะตามตัวได้อย่างแน่นอน

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส