อดีตแอดมินเพจ นิรมิตเทวาจุติ แฉ น้องสอนหลักธรรมคำสอนยาวไม่ได้

17 พ.ค. 67

อดีตแอดมินเพจ นิรมิตเทวาจุติ ชี้ปัจจุบันน้องไม่มีฤทธิ์ ตามที่อ้าง แฉสอนหลักธรรมคำสอนยาวไม่ได้ ยกเว้นอยู่กับแม่

อดีตแอดมินเพจ นิรมิตเทวาจุติ ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากถอนตัวออกมาว่า แอดมินจะแบ่งหน้าที่ทำหลายส่วน ทั้งทำคลิป  tiktok ดูแลเพจ พร้อมระบุว่า ตอนแรกที่เข้าไปทำงานเข้าไปทำด้วยใจ ยืนยันได้ว่าไม่มีแอดมินคนไหนได้ค่าจ้างตอบแทน ช่วงแรกที่ได้สัมผัสกับตัวน้อง ถือว่าเป็นคนน่ารัก แต่ช่วงหลัง ๆ น้องเขาเริ่มใช้ความรุนแรงมากขึ้น และใช้คำไม่สุภาพ

ส่วนประเด็นที่น้องสอนหลักธรรมได้หรือไม่นั้น ส่วนตัวไม่ทราบว่ามีใครควบคุมอยู่เบื้องหลังหรือไม่ แต่ในกลุ่มของเขา จะมีญาติที่เป็นแม่ชีกับพระอยู่ ซึ่งเวลาที่แม่เขาเอาข้อธรรมของน้องมาเป็นใบโปรย หรือว่าอะไรยาวๆ ที่ให้นำออกมาทำคลิป เขาก็จะบอกว่าน้องบอก นี่คือคำสอนของน้อง แต่เวลาที่น้องพูดส่วนใหญ่แล้ว น้องก็จะพูดไม่ค่อยได้ยาว  ยกเว้นตอนที่อยู่กับแม่ เพราะตอนที่อยู่บนเวที หรือตอนเชื่อมจิตน้อง จะพูดไม่ค่อยยาว

ทั้งนี้สิ่งที่ทำให้เกิดความเชื่อเพราะบางคนมีการนั่งสมาธิแล้วเห็นนั่นเห็นนี่ ซึ่งบางคนมีการฝึกนั่งสมาธิมาก่อนอยู่แล้ว ซึ่งอาจเกิดจากการนั่งสมาธิมาหรืออาจเกิดจากจิตมโนก็เป็นไปได้ เพราะบางคนเห็นแต่บางคนก็ไม่เห็น แต่ส่วนของน้อง จะมีฤทธิ์หรือไม่ตนไม่ทราบ แต่ปัจจุบันไม่ใช่และไม่มีฤทธิ์

ส่วนประเด็นที่ทำให้ตนเองต้องออกจากแอดมิน เนื่องจากเคลือบแคลงสงสัยมานาน และรู้สึกว่าแนวทางไม่ถูกต้องไม่เหมือนเดิม เพราะตอนแรกที่เข้าไปทำงานเป็นแอดมิน จะเป็นเพียงการเชื่อมจิตทางออนไลน์ ทาง tiktok ซึ่งตอนนั้นก็เข้าใจว่า การพาคนมานั่งสมาธิเป็นจำนวนมากเป็นสิ่งที่ดี และได้กุสล แต่ช่วงหลังเริ่ม ขายคอร์ส  ทำหนังสือ ทำเสื้อโลโก้ออกมาขาย แถมยังมีการประมูลชุด ซึ่งผมมองว่ามันผิดหลักทางศาสนาไปไกลแล้ว ก็เลยตัดสินใจพาแฟนออกมาบอกลากันด้วยดี แต่เขากลับประกาศให้กับทีมงาน แอดมิน ของเขา หรือทีมงานที่อยู่ในกลุ่มนิรมิตเทวาจุติ   ว่าพวกผมทำผิดกฎของกลุ่ม มีความผิดร้ายแรงคือ การขายเครื่องรางของขลัง ซึ่งมันไม่จริง ทำให้ตนเองเสียหาย จึงแตกหักตั้งแต่นั้นมา

ส่วนประเด็นยอดเงินบริจาคนั้น ส่วนใหญ่แอดมินจะไม่รู้ไม่เห็น เพราะปกติแล้วหมอคนหนึ่งจะเป็นคนดูแลยอดเงินบริจาค รวมทั้งเงินบริจาคที่นำไปสร้างสถานประติธรรม และมีข้อมูลว่าที่ดินเป็นของแม่น้องนั้น ในฐานะแอดมินไม่มีใครรู้ และพึ่งมารู้ทีหลัง เพราะก่อนหน้านี้แม่น้องบอกว่ามีที่ดินผืนหนึ่งจะยกให้น้องสร้างสถานปฏิบัติธรรม แต่มารู้ทีหลังว่าเขาขาย

ส่วนที่น้องบอกว่าหลายๆ คน ในชาติปางก่อนเคยเป็นน้องเคยเป็นลูกนั้น ก่อนหน้านี้เขาเคยพูดว่าบุคคลคนนี้เป็นน้องแต่ วันดีคืนดีกลับบอกว่าเป็นลูก ซึ่งมีการกล่าวอ้างว่าในช่วงที่เป็นเพชรภัทรนาคราช เตรียมการลงมาข้างล่าง จึงมีการปั้นขึ้นมาจากขี้ไคล จากขี้เรื่อย และดึงดวงจิตที่รออยู่มาสู่สิ่งที่ปั้นไว้ แล้วให้เป็นน้องเป็นลูก เพื่อให้ลงมาช่วยงาน ส่วนตัวตนไม่เชื่อ ทั้งยังเคยบอกตนเป็นลูก ถูกปั้นมาจากขี้เรื่อย

ส่วนเรื่องการเทรดทอง มีการระบุว่าครอบครัวมีการเทรดมาก่อนหน้านี้มีทั้งเสียและได้ ซึ่งการจัดงานครั้งหนึ่ง น้องมีการไปเชื่อมจิตให้กับโค้ชที่เทรดทอง จึงชวนแอดมินลงทุนตามความสมัครใจ จนสุดท้ายหลายคนเสียเงินหลักแสนบาท และเคยรับปากว่าเงินที่เสียไปจะรับผิดชอบ โดยให้น้องเทรดทองใหม่ เพราะเทรดได้กำไรตลอด แต่ช่วงหลังอ้างว่าไม่มีเวลาเทรด แต่มีเวลาเล่นเกมส์ ดูหนังอื่นๆ

ขณะที่ ต้นอ้อ เพจเป็นหนึ่ง บอกว่า เรื่องที่ดินสร้างสถานปฏิบัติธรรม ความจริงแล้วจะมีคนบริจาคให้แม่ แต่ไม่ใช่ที่สุราษฎร์ฯ ซึ่งแม่ไม่รับ อย่างที่แม่บอกคือจะเอาที่ดินให้ลูก และเขาเคยลงขาย ที่ 5 แปลง ลงขายตั้งแต่ปี 2517 อยู่ในเพจซื้อขายที่ดินสุราษฎร์ธานี ลงราคา 700,000 กว่าบาท ตอนนั้นยังไม่อัพราคา ต่อมาปี 2018 เขาก็อัพราคาขึ้น จนขายออก 1 แปลง ที่ขายออกเพราะว่า ให้หมอท่านหนึ่ง เปิดบัญชีแยกออกมาเป็นอีกเพจหนึ่ง แล้วก็ให้คนบริจาคมาซื้อที่ของตัวเอง เพื่อจะให้ลูกตัวเอง กลับกลายเป็นว่าตอนนี้ก็คือมีผลประโยชน์เข้ามา เอาเงินที่ญาติธรรมโอนเข้ามา มาสร้างสถานปฏิบัติธรรมเพื่อซื้อที่ของตัวเอง ซึ่งจากที่เช็กราคาประเมินสูงสุดตารางวาละ 800 บาท  314 ตารางวา ตกที่ประมาณ 250,000 กว่าบาท แต่อัพราคาขึ้นมาเกือบ 7 ล้าน เกือบ 30 เท่า เรื่องนี้ต้องไปตรวจสอบ ว่าเป็นการฟอกเงินหรือไม่

พร้อมขอฝากถึงแอดมินคนไหนที่อยากออกมาหรือกำลังจะออกมา ให้ติดต่อมาหาอ้อได้เลย ทุกคนไม่ต้องกลัว เพราะเราจะกันไว้เป็นพยานทั้งหมด แต่ถ้า แอดมินคนไหนยังดื้อด้าน ยังคิดว่าสิ่งที่แม่หรือนักกฎหมายบางท่านบอกว่า สิ่งที่เราทำอยู่ตอนนี้ชนะแน่นอนเอาพวกมันได้แน่นอน ท่านก็เตรียมคุกรออย่างเดียว

นอกจากนี้ยังมีคนให้ข้อมูลว่าคุณแม่ของน้องเคยเป็นร่างทรงอยู่ในพื้นที่จังหวัดภาคอีสานนั้น ข้อมูลระบุว่าเป็นเรื่องจริงแต่จะอยู่ในจังหวัดภาคอีสานหรือไม่นั้นไม่ทราบ โดยเคยเป็นร่างทรงในช่วงที่เป็นวาว และได้มีการไปพบกับคุณพ่อ มีการมโนว่าเคยเป็นสามีมาก่อนในอดีตแต่ชาติซึ่งอาจจะเป็นเทคนิคในการจีบผู้ชายหรือไม่ตนก็ไม่ทราบ จึงได้เป็นสามีภรรยากันในชาตินี้ รวมถึงอาจจะช่วยเกื้อหนุนกันในเรื่องของธุรกิจซึ่งทางคุณพ่อมีธุรกิจเป็นคนมีฐานะอยู่แล้ว เมื่อมีลูกอาจจะเกิดการมโนหรือไม่ว่าตนเองเคยเป็นร่างทรงจึงต้องมีลูกที่วิเศษ.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส