ทนาย อนันต์ชัย แท็กทีม แจ้งจับกลุ่มลัทธิเชื่อมจิต 10 ราย

13 พ.ค. 67

ทนายอนันต์ชัย แท็กทีม แจ้งจับกลุ่มลัทธิเชื่อมจิต 10 ราย ผิด พ.ร.บ.คอมฯ และอีกหลายข้อหา ลั่นไม่กลัวถูกฟ้องกลับ ทำเพื่อปกป้องศาสนา

 

ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ดร.ประยุทธ ประเทศเสนา หรือ มหาหมี รองประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม พร้อมด้วย ต้นอ้อ มูลนิธิเป็นหนึ่ง อี้ แทนคุณ ดร.อธิเทพ ผาทา อาจารย์รัก คำราม และแพรี่ ไพรวัลย์ วรรณบุตร เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มลัทธิเชื่อมจิต ในข้อหา พ.ร.บ.คอม ฯ และข้อหาอื่นฯ

โดย ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม ระบุว่าวันนี้ที่เรามาในฐานะที่เราเป็นพุทธศาสนิกชน เพื่อรักษาสถาบันหลักของชาติ ก็คือสถาบันศาสนา ปกติแล้วมูลนิธิทนายกองทัพธรรมจะทำในเรื่องพระภิกษุสงฆ์ แต่ ณ วันนี้มันไม่ใช่ภาระนั้นแล้ว มันเป็นภาระแห่งชาติ เกี่ยวกับเรื่องการสอนธรรมะ โดยผิดไปจากพระธรรมวินัย หรือ ผิดพระไตรปิฎก

1715575671035

ตนจึงเชิญชวนผู้ที่เกี่ยวข้องมาแจ้งความวันนี้ อยากจะบอกว่า จากการที่เราได้ทำมูลนิธิกองทัพธรรม ได้รับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพระสงฆ์เยอะมาก คณะสงฆ์เราอ่อนแอมาก เวลามีเรื่องคณะสงฆ์จะไม่ค่อยมาแอ็คชั่น อย่างเช่น กรณีการสอนผิดพระธรรมวินัย รวมถึงลัทธิเชื่อมจิต ตนเป็นคนแรกที่พูดถึงเรื่องนี้ และก็พูดมาตลอด เพราะเป็นการสอนบิดเบือนพระไตรปิฎก

พอมีเรื่องแบบนี้ คณะสงฆ์ปล่อยปละละเลย สำนักงานพระพุทธศาสนาไม่ดำเนินการหรือกำจัด ซึ่งพบว่ามีลัทธิแบบนี้เยอะมาก วันนี้เราไม่ได้ให้มองแค่ลัทธิเชื่อมจิต เรามองไปไกลกว่านี้ว่าเราอยากมีองค์กรหนึ่ง ซึ่งเป็นองค์กรตรวจสอบเกี่ยวกับการสอนธรรม คำสอนพระพุทธศาสนา 

1715575695483

ทนายอนันต์ชัย ระบุอีกว่า ที่ผ่านมาให้โอกาสสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติมาแล้ว ให้โอกาส พม.มาแล้ว แต่ไม่ทำ อยากฝากทนายของน้องไนซ์ว่าให้ฟ้องตนได้เลย เพราะตนอยากจะขึ้นศาลหมือนกัน ที่ผ่านมาทนายคนดังกล่าวเหน็บตนบ่อยเหลือเกิน 

สรุปที่มาวันนี้ก็คือเกี่ยวกับลัทธิเชื่อมจิต มันเกิดจากการวางแผนของพ่อแม่คู่หนึ่ง เป็นพ่อแม่ของน้องไนซ์ สร้างลูกขึ้นมาให้เป็นคนวิเศษ โดยอ้างว่าเด็กคนนี้เป็นเด็กที่มีบุญมาเกิด เป็นอวตารจากชั้นอนาคามี และเป็นพญานาค ซึ่งจะเป็นไปได้ยังไง พญานาคจะมาสอนธรรมได้ยังไง ในเมื่อพญานาคยังขอพระพุทธเจ้าบวชอยู่เลย แล้วก็บอกว่าตัวเองเป็นอวตาร ซึ่งศาสนาพุทธ ไม่ได้มีอวตาร

จะสังเกตว่าน้องไนซ์แต่งตัวเหมือนแขก รู้สึกว่าแม่ของน้องไนซ์ เป็นอินเดีย ลักษณะแบบนี้น่าจะเอาแบบฮินดูมาและอ้างว่าเป็นลูกพระพุทธเจ้า ได้รับคำสั่งมาให้สอนธรรม นอกจากนี้ยังบอกว่าเป็นลูกเจ้าแม่กวนอิมอีก จะเป็นได้ยังไงมันคนละนิกายกัน วันนี้ตนก็เลยดำเนินคดีทั้งหมด 10 คน คือพ่อแม่น้องไนซ์ และ หมอพัฒนาการเด็กที่ดูแลน้องไนซ์ด้วย รวมถึงแอดมินเพจนิรมิตเทวจุติ และแอดมินติ๊กต็อกนิรมิตเทวจุติ 

สรุปที่ตนเล่ามาทั้งหมด คือการเอาข้อความเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และมีการเรี่ยไร มีการอบรม จึงน่าจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก และฉ้อโกง รวมถึง พ.ร.บ.การเรี่ยไรด้วย 

ด้านอี้ แทนคุณ ระบุว่า มีผู้เสียหายติดต่อมาว่า เขาเคยมีความศรัทธาและความเชื่อเข้าไปเชื่อมจิตหลายครั้ง ครั้งหนึ่งเสียเงิน 990 บาท ซึ่งที่ผ่านมาเสียเงินเสียทองไปเยอะมาก จนกระทั่งมีข่าวเพิ่มขึ้นๆ และเห็นสภาพน้องไนซ์แค่เอามือแตะๆ คล้ายกับการ์ตูน ก็เลยเอะใจว่าถูกหลอกหรือเปล่า ตนก็เลยเกลี้ยกล่อมสำเร็จ จนนำไปสู่การร้องทุกข์กล่าวโทษ และตอนนี้ผู้เสียหายคนอื่นๆเริ่มตื่นตัวแล้วว่าถูกหลอก ซึ่งถ้ามีโอกาสถูกผลักดันเป็นสว.ตนก็ยินดี และขอลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ด้านแพรี่ ไพรวัลย์ บอกว่า มาวันนี้มาทำหน้าที่ในการปกป้องพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นหน้าที่พุทธบริษัท ที่ผ่านมาตนก็ถูกฟ้องจากอีกฝ่าย หลังตนได้มีการวิจารณ์ลัทธิดังกล่าวขึ้นโรงขึ้นศาลกันมาแล้ว อยากจะบอกว่าแม้แต่ศาลเอง ท่านก็มองว่าการที่เราเป็นพุทธบริษัท ที่ออกมาพูดที่ไม่ใช่การหมิ่นประมาท แต่ติชม 

ด้านต้นอ้อ เพจเป็นหนึ่ง บอกว่าที่ผ่านมาเราไม่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นพม.หรือสำนักพุทธฯ กลับกลายเป็นว่าให้แม่เด็กเชิญ พม.มาคุยที่บ้านเอง กลับกลายเป็นว่าไม่มีอะไรตอบกลับมา ทุกอย่างเงียบไป จนเรามาขุดเรื่องที่ดิน จนเราถูกอีกฝ่ายด่า แต่เราไม่กลัว เพราะถ้าเราจะสู้กับมาร เราต้องมารกว่า เราต้องออกมาปกป้องศาสนา ที่ผ่านมาแม้กระทั่งคนอิสลาม ก็ให้กำลังใจเราเยอะมาก แล้วคนศาสนาพุทธจะนิ่งเฉยทำไม ถ้าเขาฟ้องมาเราก็พร้อมสู้เช่นกัน

ด้านอาจารย์รัก คำราม ระบุว่าก่อนหน้านี้ได้ไปทดลองเชื่อมจิตด้วยตัวเอง ตนเป็นอาจารย์สอนธรรมและพระไตรปิฎกมา 12 ปีแล้ว รู้จักน้องไนซ์ผ่านโซเชียลและติดต่อไปทางพ่อแม่เขาว่าเชื่อมจิตเป็นยังไง จึงพาคณะไปพิสูจน์ เท่าที่ทำการพิสูจน์มา 4-5 ครั้งแต่ปรากฏว่าไม่ได้ผล

ขณที่อาจารย์อดิเทพ ผาทา บอกว่า เนื่องจากศึกษาพระธรรมไตรปิฎกมานาน เพราะว่าการเชื่อมจิตไม่มีในพระไตรปิฎก รวมถึงการสอนที่ผิดเพี้ยน ออกนอกพระธรรมวินัยแบบนี้ ไม่ควรมีในสังคมไทย

ด้านมหาเหมี บอกว่า การอ้างพระพุทธศาสนาต้องอ้างตามหลักธรรมความจริง แต่ฟังดูลัทธิ เขาชอบพูดในเรื่องของการทำกรรมฐาน และวิปัสสนากรรมฐาน เพราะฉะนั้นการที่ท่านจะอ้างว่าวิปัสสนากรรมฐาน แสดงว่าท่านต้องทำกรรมฐานถึงขั้นบรรลุธรรมขั้นใดขั้นหนึ่ง จึงอยากจะเตือนไปยังลัทธิเชื่อมจิตว่า การที่ท่านจะอ้างอะไรก็แล้วแต่อ้างได้ แต่อย่ามาอ้างคำพระพุทธศาสนาที่ผิดเพี้ยน

ขณะที่หลวงพ่อวิเวก นามรุ่งโรจน์ พระรูปเดียวในประเทศไทยที่แจ้งความเอาผิดลัทธิเชื่อมจิต ระบุว่า หลวงพ่อได้ไปแจ้งความตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 อยากจะมาพูดเรื่องแรกที่สำคัญมาก คือการปกป้องพระพุทธศาสนา ทุกศาสนาศาสนามีอยู่แล้วเป็นสากล คือการปกป้อง เป็นปณิธานของสาวกทุกศาสนา คือ

สาวกต้องปกป้องศาสดาด้วยชีวิต
สาวกต้องปกป้องพระธรรมวินัยด้วยชีวิต
สาวกต้องปกป้องการบิดเบือนพระธรรมวินัยด้วยชีวิต

ทุกๆศาสนามีปณิธาน 3 ข้อที่ตั้งมั่นแบบนี้ หลวงพ่อเป็นแค่พระลูกวัดคนหนึ่ง แต่ทำไมถึงไปแจ้งความ ก็เพราะอาจารย์จตุรงค์มาออกข่าวว่าไปยื่นเรื่องให้ตรวจสอบลัทธิดังกล่าวแล้ว ที่สำนักพุทธฯ แต่ได้รับคำตอบมาว่ามีหน้าที่แต่ไม่มีอำนาจ ดังนั้นหลวงพ่อจะแสดงอำนาจให้ดู หลวงพ่อจึงไปแจ้งความ ล่าสุดตำรวจก็รับแจ้งความและทำสำนวนแล้ว รอเรียกพ่อแม่เด็กมาสอบและดำเนินคดี.

 

 

 

 

 

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส