ล้อม ค่ายผาซองนาน 3 เดือน กะเหรี่ยงคาเรนนียังยึดไม่ได้ ขอ ปชช.ช่วยสนับสนุนเงิน ซื้อโดรน-อุปกรณ์อิเลคทรอนิก เพื่อชัยชนะ
วันที่ 13 พ.ค. 67 แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ระดับสูง กองกำลังกะเหรี่ยงคาเรนนี KA เปิดเผยว่า สถานการณ์ในรัฐคาเรนนี โดยเฉพาะที่เมืองผาซอง กองกำลัง KNDFUAV และ KNDF กองพันที่ 9 กองพลที่ 3 ได้นำเสนอภาพการปฏิบัติการ โจมตีทหารเมียนมา ค่ายผาซอง ซึ่งมีทหารเมียนมา จำนวน 3 กองพันประจำการอยู่ ได้แก่ กองพันทหารราบที่ 134, กองพันทหารราบที่ 135 และกองพันทหารราบที่ 1 สังกัด พล.ร.เบา66
โดยในคลิปดังกล่าวจะเห็น ทหารเมียนมาได้รับการสูญเสียอย่างหนักตลอดช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
แหล่งข่าวระบุต่อว่า ทางกลุ่ม KNDF ได้ประกาศผ่านสื่อโซเชียลมีเดียขอรับการสนับสนุนเงินจากประชาชนชาวคาเรนนี ทั้งที่อาศัยอยู่ในรัฐคาเรนนี และนอกประเทศ เพื่อซื้อโดรนและอุปกรณ์ทางอิเลคทรอนิกที่ใช้กับโดรน เพื่อต่อสู้กับทหารเมียนมาที่เหลือไม่มากในรัฐคาเรนนี
อย่างไรก็ตามทาง ฝ่ายกองกำลัง KNDF และพันธมิตร ได้แก่ กองกำลังKA, PDF และKNPLA ได้พยายามที่จะยึดค่ายทหารเมียนมาในเมืองผาซอง โดยผ่านมาแล้ว 3 เดือนยังไม่สามารถยึดได้อย่างเบ็ดเสร็จ เนื่องจากทหารเมียนมายังคงมีการสนับสนุนอาวุธและกระสุน รวมไปเสบียงอาหารทางอากาศอย่างต่อเนื่อง แต่ทหารเมียนมาเองก็ประสบกับความสูญเสียอย่างหนักเช่นกัน มีทั้งผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต
ทั้งนี้ได้มีการประมาณว่ามี ทหารเมียนมาบาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 100 นาย และยังคงอาศัยอยู่ในค่ายแห่งนั้น เนื่องจากไม่สามารถออกมานอกค่ายได้ เพราะถูกกองกำลังฝ่ายต่อต้านทำการปิดล้อมอย่างเหนียวแน่น ยกเว้นการใช้เฮลิคอปเตอร์บินมารับคนเจ็บแต่เฮลิคอปเตอร์กลับถูกยิงตกไป 1 ลำ ทำให้การส่งเสบียงบำรุงกำลังทางอากาศได้หยุดชะงักลง
ในส่วนของการสู้รบที่ เมืองลอยก่อว์ เมืองหลวงของรัฐคาเรนนี ปัจจุบันได้ผ่านมาแล้ว 7 เดือน ซึ่งทางฝ่ายกองกำลังผสมรัฐคาเรนนีสามารถยึดพื้นที่ได้กว่า 70 เปอร์เซ็นต์ โดย เมืองลอยก่อว์มีทหารเมียนมาเป็นทหารราบประจำอยู่จำนวน 4 กองพัน และกองพันปืนใหญ่อีก 2 กองพัน ตั้งแต่เดือน เม.ย. 67 เป็นต้นมา ทหารเมียนมาได้เปลี่ยนกลยุทธ์มาเป็นจัดตั้งกองกำลังย่อยกระจายแทรกซึมเข้ามาในรอบตัวเมือง และในเมืองใกล้กับเรือนจำเมืองลอยก่อว์ ที่ฝ่ายต่อต้านปิดล้อมไว้ ทำให้มีการปะทะบ่อยครั้ง
ขณะที่เครื่องบินขับไล่ของทหารเมียนมา ก็มีการบินมาทิ้งระเบิดใส่ตัว เมืองลอยก่อว์อย่างต่อเนื่องทุกวัน จนทำให้บ้านเรือนของประชาชนในเมืองดังกล่าวพังพินาศย่อยยับอย่างหนัก
