“ศิตา เอเจนซี่” ตั้งโต๊ะแถลงขอทวงเงินลูกค้าบริษัท หลังติดต่อไม่ได้ ย้ำขอให้ออกมารับผิดชอบ

9 พ.ค. 67

“ศิตา เอเจนซี่” ตั้งโต๊ะแถลงขอทวงเงินลูกค้าบริษัทรายหนึ่ง หลังติดต่อไม่ได้ ต้องจ่ายหนี้ค่ารายการทีวีแทน ย้ำขอให้ออกมารับผิดชอบ

“ศิตา เอเจนซี่” ในฐานะบริษัทผู้รับจ้างวางแผนและบริหารจัดการสื่อต่างๆ ให้กับแบรนด์ดังศาสตร์ฮวงจุ้ย พร้อมนัดสื่อมวลชนตั้งโต๊ะแถลงข่าว เพื่อสอบถามถึงหน้าที่ความรับผิดชอบต่อการชำระหนี้ และขอบเขตของบทบาทหน้าที่ในการเนินธุรกิจที่ตกลงไว้ในสัญญาการจ้างงานเอเจนซี่

คุณธนิดา เกลอแก้ว กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศิตา เอเจนซี่ จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจด้านเอเจนซี่โฆษณา และการส่งเสริมการตลาดครบวงจรเปิดเผยถึงภาพรวมของ บ.ศิตา เอเจนซี่ ในขณะนี้ว่าทุกวันนี้ทุกคนต่างรู้ดีว่าปัญหาเศรษฐกิจที่ขยายตัวไปทั่วโลก หลังจากการระบาดของโรคโควิดและจากภาวะสงครามในหลายประเทศ ส่งผลกระทบต่อหลายธุรกิจ ทำให้หลายธุรกิจเกิดการสะดุดและปิดตัวลงไปจำนวนมาก ซึ่งสิ่งนี้ก็เกิดขึ้นกับบริษัทของบุคคลใกล้ชิด และแม้แต่บริษัทของลูกค้าแบรนดิ้ง ที่เราดูแลอยู่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เราและทุกๆ คนคงเข้าใจได้

ดังนั้นการที่ “บริษัท ต.” ซึ่งทำงานร่วมกันกับเรามาหลายปีเกิดปัญหาขาดสภาพคล่องทางการเงิน ส่งผลให้เกิดการผิดนัดชำระค่าสื่อฯ และค่าเช่าเวลาออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ทั้ง 2 แห่งอยู่อย่างต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 2 ปีกับทางเรานั้น นั่นก็เป็นสิ่งที่เราก็เข้าใจ และพยายามที่จะยืดหยุ่น และยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือประคับประคองทุกทางเท่าที่จะทำได้ เพื่อหวังให้ลูกค้ากลับมามีความเข้มแข็งทางธุรกิจอีกคร้ัง

กระทั่งเข้าช่วงต้นปี 67 นี้ทาง บ.ศิตา เอเจนซี่ จำกัด เริ่มเห็นสัญญาณอันตรายหลายอย่างที่บอกว่า ทางเราอาจจะไม่ได้รับการชำระหนี้จาก “บริษัท ต.” โดยเฉพาะในช่วงเดือน ก.พ. 67 เป็นต้นมา แต่กระนั้นทางเราก็ยังคงทำหน้าที่เอเจนซี่ผู้ดูแลด้านสื่อและแบรนดิ้งใหกับ “บริษัท ต.” ไปตามปกติ

จากนั้น เมื่อเข้าสู่ช่วงปลายเดือน มี.ค.67 ทาง บ.ศิตา เอเจนซี่ จก.ก็ไม่สามารถติดต่อกับเจ้าของ “บริษัท ต.” ในทุกช่องทาง ทั้งจากการโทรไปไม่รับสาย ไลน์ไปไม่เปิดอ่าน และสุดท้ายคือตอนนี้ทางเขาได้ลบคอนแทคออกจากไลน์หนีไปติดต่อไม่ได้อีกเลย

แต่อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายบัญชีของ บ.ศิตา เอเจนซี่ จก.ยังคงพยายามสอบถามติดตามไปยังพนักงานบางคนที่พอจะยังติดต่อได้ เพื่อให้ชำระหนี้ที่ค้างไว้หลายครั้งแต่ “บริษัท ต.” ก็ยังคงนิ่งเฉยมาจนถึงปัจจุบัน

s__5193796_0

ซึ่งถึงตอนนี้ทาง บ.ศิตา เอเจนซี่ ก็ยังคงต้องบริหารจัดการสื่อโทรทัศน์ให้กับ “บริษัท ต.” ที่สำคัญคือยังคงต้องรับผิดชอบจ่ายค่าเช่าเวลาให้กับสถานีโทรทัศน์ชื่อดังทั้ง 2 สถานี แทนเจ้าของ “บริษัท ต.” ถ้านับเป็นความเสียหายสำหรับเราแล้ว ประเมินคร่าวๆ ตอนนี้น่าจะสูงเกิน 2 ล้านบาทขึ้นไป กลายเป็นว่าเราที่ทำงานให้ทาง “บริษัท ต.” อย่างดีมาโดยตลอด ตอนนี้กลับต้องได้รับความเดือดร้อนต้องรับภาระหนี้แทนลูกค้ารายนี้ไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เดิมทีทางเราคิดเพียงว่า ลูกค้าคงจะไม่มีเงินจริงๆ เนื่องจากประสบปัญหาทางธุรกิจ ซึ่งเราก็เข้าใจได้ โดยเราก็คงจะดำเนินทางต่างๆ ตามขั้นตอนของกฎหมายไปตามปกติ ไม่คิดที่จะมีการออกสื่อใดๆ หรือออกมาแถลงข่าวใดๆ ท้ั้งสิ้น เพราะทาง บ.ศิตา เอจนซี่ จก.ยึดหลักจริยธรรมคุณธรรมในการทำธุรกิจ ดังนั้น เราจะไม่นำเรื่องที่เป็นความลับ เรื่องที่เป็นผลลบของลูกค้ามาเปิดเผย สิ่งนี้คือเราไม่ทำโดยเด็ดขาด

แต่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเราได้รับการติดต่อจากสถานีโทรทัศน์ที่เรายังมีสัญญาเช่าอยู่ทั้ง 2 สถานีว่า “บริษัท ต.” ได้ติดต่อตรงไปยังสถานีโทรทัศน์ทั้ง 2 สถานีโดยยื่นข้อเสนอว่า ต้องการที่จะเอาเวลาที่เราเป็นเจ้าของอยู่ในขณะนี้เอาไปทำรายการออกอากาศต่อทันที !!! หลังจากทางเราหมดสัญญาในเดือน มิ.ย.67 นี้

เมื่อเราได้รับทราบสิ่งที่เกิดขึ้นจากการกระทำลับหลังครั้งนี้ เรียกว่าทั้งตกใจเสียใจเพราะตลอดเวลาเราช่วยเหลือประคับประคองทั้งในการทำงาน การเงิน และแม้แต่ในด้านชื่อเสียงของ “บริษัท ต.” ทางเราไม่เคยนำเรื่องความถดถอยทางการเงินของเขาไปพูดไปบอกใคร แม้แต่ทางสถานีโทรทัศน์ทั้ง 2 แห่งที่ทำงานร่วมกันเรามาเกือบ 4 ปี เราก็ไม่เคยพูด แม้จะถึงขนาดที่ทาง บ.ศิตา เอเจนซี่ จก. จำเป็นต้องรับภาระใช้หนี้จ่ายเงินแทนเขาอยู่ในขณะนี้ทางเราก็ไม่เคยบอกเล่าเรื่องนี้ให้กับสถานีโทรทัศน์ท้ั้ง 2 แห่งได้ทราบมาก่อนเลยแม้แต่น้อย เพราะเรายังคงมองว่าเขาคงประสบความยากลำบากในชีวิตในการทำธุรกิจเลยจำเป็นต้องหนีหน้าและหนีหนี้กับเราในเวลานี้

แต่หลังจากที่ได้ทราบถึงพฤติการณ์ที่ทาง “บริษัท ต.” กระทำลับหลังเราในคร้ังนี้นั่นก็ทำให้เรากระจ่างชัดเจนขึ้นมาทันทีคือ

ข้อที่ 1 เขาไม่ใช่ไม่มีเงิน เรื่องจริงคือเขามีเงิน

ข้อที่ 2 การที่เขาหนีหายไปในขณะนี้ ไม่ใช่หนีไปตั้งหลัก เพื่อไปหาทางแก้ไขปัญหาการเงิน แต่นั่นคือเขาตั้งใจจะไม่จ่ายเงิน และตั้งใจทิ้งภาระให้เราต้องเป็นหนี้กับสถานีโทรทัศน์ทั้งสองแห่งแทนเขา

ข้อที่ 3 การที่เขาไม่จ่ายเงินใช้หน้ีให้เรา ปล่อยให้เราต้องรับใช้หนี้กับทางสถานีโทรทศัน์ท้ั้งสองแห่งแทนเขา แล้วกลับวกเข้าไปติดต่อตรงกับทางสถานีโทรทัศน์ทั้ง 2 แห่ง เพื่อที่จะทำรายการออกอากาศเอง แถมยังยืนยันที่จะเอาวันและเวลาเดิมที่รู้ว่าเราคือเจ้าของเดิมอยู่ ถือว่าเป็นสิ่งที่คนทำธุรกิจร่วมกันไม่ควรกระทำต่อกันเป็นอย่างยิ่ง แสดงถึงความไม่ซื่อตรงในการทำธุรกิจต่อกันอย่างร้ายแรง

62429_0

เมื่อเป็นเช่นนี้ทางเราจึงเห็นว่า นี่คงเป็นเวลาอันเหมาะสม ที่เราต้องสื่อสารไปยัง “บริษัท ต.” ให้ได้ตระหนักถึงบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบ ที่พึงมีตามสัญญาการทำงานที่มีต่อกัน แต่ด้วยขณะนี้ ทางเจ้าของ “บริษัท ต.” ปิดการติดต่อกับเราทุกช่องทาง รวมถึงเจ้าหน้าที่ของ “บริษัท ต.” ก็ไม่สามารถให้คำตอบใดๆ กับเราได้ดังนั้นจึงจำเป็นเหลือเกินที่ต้องขอความช่วยเหลือจากสื่อต่างๆ ช่วยสื่อสารไปถึงเขา เพื่อให้ทุกอย่างกลับเข้าสู่การทำงาน การดำเนินธุรกิจที่ถูกต้องและเป็นธรรมต่อกัน โดยเฉพาะกลับมารับผิดชอบภาระหน้ีที่ต้องชำระ โดยวัตถุประสงค์ที่เราต้องการสื่อสารถึง “บริษัท บ.” มีดังนี้

1.ทางเราขอให้ “บริษัท ต.” ช่วยนำเอาเงินที่คุณมี ที่คุณตั้งใจวกกลับมาดำเนินธุรกิจกับสถานีโทรทัศน์ทั้ง 2 สถานีคือช่วยเอาเงินตรงนั้น มาจ่ายหนี้ให้เราก่อน เพราะทุกวันน้ีคุณยังส่งเทปออกอากาศอยู่ ทางคุณได้ประโยชน์เต็มๆ แต่กลับให้เราเป็นฝ่ายต้องจ่ายหนี้แทน สิ่งนี้มันไม่ควรมีในบุคคลที่ทำงานเกี่ยวกับความเชื่อ และบุคคลที่มีผลต่อการชี้นำความศรัทธาของคนหมู่มาก

2.ทางเราขอแจ้งให้ทราบว่าในช่วงเวลานี้ บ.ศิตา เอเจนซี่จก.และ “บริษัท ต.” ยังคงมีสัญญาการจ้างงานผูกพันกันอยู่ โดยในข้อสัญญาระบุให้บ.ศิตา เอเจนซี่ จก.เป็นผู้วางกลยุทธ์ด้านสื่อ บริหารจัดการสื่อและทำหน้าที่ซื้อสื่อให้กับ “บริษัท ต.” ดังนั้น “บริษัท บ.” ไม่สามารถซื้อสื่อเองหรือทำสัญญาเช่าเวลากับสถานีโทรทัศน์ช่องใดๆ ได้โดยไม่ผ่าน บ.ศิตา เอเจนซี่ จก.

คุณธนิดา เกลอแก้ว กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศิตา เอเจนซี่ จำกัด กล่าวปิดท้าย “คร้ังนี้ต้องขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องหลายฝ่าย โดยเฉพาะท่านผู้ใหญ่จากสถานีโทรทัศน์ชื่อดังทั้ง 2 ช่อง ที่ให้ความเห็นใจ ให้ความเมตตาและให้ความเป็นธรรมกับเรา รวมถึงพี่ๆ น้องๆ สื่อมวลชนที่เคารพรักที่ให้เกียรติมาร่วมรับฟังเรื่องราวในครั้งนี้รวมถึงกลุ่มลูกค้า พาร์ทเนอร์บริษัททุกท่านที่เป็นกำลังใจเคียงข้างซินดี้แม้ในยามวิกฤตเสมอมา ขอบคุณจากใจจริงๆค่ะ ”

“สุดท้ายนี้บริษัทมีความมุ่งมั่น และตั้งใจในการขอโอกาสและความเท่าเทียมในการได้รับเงินคืน และทวงถามถึงบทบาทหน้าที่ของการทำงานให้ชัดเจน และมิได้มีเจตนาในการก่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลใด และเป็นการดำเนินการเพื่อความชอบธรรม ป้องกันตนหรือป้องกันส่วนได้เสียที่เกี่ยวกับตนตามคลองธรรม บริษัทฯ ขอเพียงให้ บริษัท ต. ทำการติดต่อกลับมาทางบริษัทฯ เพื่อแก้ปัญหาต่างๆให้สำเร็จลุล่วง พร้อมยืนยันเจตนาขับเคลื่อนบริษัท ศิตา เอเจนซี่ จำกัด ของเราต่อไป

advertisement

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส