สุดยื้อ!พ่อไลฟ์ขับรถดิ่งแม่น้ำเสียชีวิตแล้ว ลูกโอกาสรอดแค่ 10 %

6 พ.ค. 67

สุดยื้อ! พ่อป่วยไบโพลาร์ ไลฟ์ขับรถลงแม่น้ำตรังพเสียชีวิตแล้ว ขณะที่ลูกสาวยังโคมาโอกาสรอดแค่ 10 % อดีตภรรยาเปิดใจ พยายามขอลูกคืนแต่ไม่ได้

จากรณีมีชายรายหนึ่งไลฟ์สดในเฟซบุ๊กส่วนตัวชื่อ พาลูกสาวขับรถเก๋งพุ่งตกแม่น้ำตรัง บริเวณใต้สะพานพระยารัษฎานุประดิษฐ์ หรือสะพานย่านซื่อ ตรงข้ามกับวัดย่านซื่อ พื้นที่หมู่ 3 ต.ย่านซื่อ อ.กันตัง

ที่เกิดเหตุบรรดาชาวบ้าน ได้ช่วยกันลากรถเก๋งคันดังกล่าวที่จมมิดหลังคาอยู่ติดกับตอม่อสะพาน ความลึกประมาณ 3 เมตร ห่างจากตลิ่งไปประมาณ 6 เมตร ขึ้นมาจากน้ำ พร้อมกับช่วยนำนายกวีวัฒน์ อายุ 28 ปี ผู้เป็นพ่อ ออกมาจากรถและขึ้นมาจากน้ำ ในสภาพที่ไม่รู้สึกตัว

ก่อนจะนำตัวลูกสาวของนายกวีวัฒน์ อายุประมาณ 1 ขวบ 7  ขึ้นมาจากน้ำในสภาพที่ไม่รู้สึกตัวเช่นกัน ก่อนที่เจ้าหน้าที่ทีมแพทย์พยาบาล รพ.กันตัง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง (บ้วนเต็กเซี่ยงตึ๊ง) ได้เร่งปั้มหัวใจ เพื่อยื้อชีวิตกลับคืนมา

ล่าสุด (6 พ.ค.67) เวลาประมาณ 10.00 น. ที่โรงพยาบาลตรัง ผู้สื่อข่าวติดตามอาการล่าสุดของนายกวีวัฒน์ ได้รับการยืนยันจากตำรวจและกู้ภัย  ว่าเสียชีวิตแล้ว ส่วนอาการของเด็กหญิงวัย 1 ขวบ 7 เดือน อาการยังโคมาโอกาสรอดเพียง 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งแพทย์พยายามยื้อชีวิตอย่างสุดความสามารถ

ขณะที่นางสาวลภัสรดา อายุ 25 ปี อดีตภรรยาและแม่ของ เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า หมอแจ้งอาการล่าสุดของลูกสาว มีโอกาสรอดชีวิตเพียงแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ เพราะสมองน้องตายไปแล้ว หากต้องยื้อชีวิตก็มีเพียงแค่หัวใจที่ยังเต้น และความดันหมอก็พยายามช่วยอย่างเต็มที่ เพราะตอนแรกรับน้องขึ้นมาจากน้ำเจ้าหน้าที่กู้ชีพใช้เวลาปั๊มหัวใจน้องกว่า 30 นาที ซึ่งโอกาสรอดก็ยากอยู่แล้ว หลังจากส่งตัวน้องจากโรงพยาบาลกันตัง มาโรงพยาบาลเมืองตรัง อาการน้องก็ไม่ตอบสนองแล้วซึ่งหลังจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแจ้งเมื่อเช้านี้ว่าโอกาสรอแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ ถ้ารอดก็เป็นเจ้าหญิงนิทรา

โดยปมเหตุที่อดีตสามีตัดสินใจจบชีวิตนั้น นางสาวลภัสรดา บอกว่า ก่อนหน้านี้เธอพยายามจะไปเอาลูกมาเลี้ยงเองมาตลอดเพราะอดีตสามีพยายามฆ่าตัวตายมาหลายครั้ง เห็นจากการโพสต์บนโซเชียลมีเดียมาตลอด ก็พยายามแคปหน้าจอไว้ทุกช่องทาง และไปแจ้งตำรวจไว้ เพื่อจะใช้เป็นหลักฐานในการไปขอลูกคืน แต่อดีตสามีก็บอกให้ไปฟ้องศาลเอา เพราะที่ผ่านมาพยายามเจรจาแต่ไม่ลงตัว และทราบว่าอดีตสามีป่วยจิตเวช ไบโพลาร์ อารมณ์ 2 ขั้ว สุดท้ายก็มีการเจรจาขอเจอลูกสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และเธอก็จะซื้อของใช้ลูกให้ขอแค่ให้ได้เจอหน้าลูก ซึ่งปมเหตุของการตัดสินใจจบชีวิตในหลายครั้งส่ วนใหญ่จะเป็นเรื่องเงิน เห็นได้จากการตัดพ้อผ่านโซเชียลมีเดียบ่อย ๆ เนื่องจากไม่มีงานทำเป็นหลักเป็นแหล่ง และชอบโพสต์หาค่านมลูกผ่านทางโซเชียลมีเดียบ่อยๆ

ด้านนางอารี อายุ 57 ปี ยายของเด็ก เปิดเผยว่า ปกติหลานเป็นเด็กร่าเริง อารมณ์ดี และตอนนี้ตนเองหัวใจสลาย เมื่อทราบข่าวอาการหลานมีโอกาสรอดแค่ 10 เปอร์เซ็นต์ หมอให้ดูอาการคืนนี้อีก 1 คืน และการที่พ่อเขาตัดสินใจทำแบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรก ครั้งก่อนเขาก็ไลฟ์สดและพยายามฆ่าตัวตายพร้อมลูกที่สะพานแก้มดำ แต่ทางเราก็พยายามเอาหลานกลับคืนมา แต่เขาไม่ให้ แค่จะไปเยี่ยมก็ยังไม่ได้เลย ไม่รู้ว่าทางญาติเขารักหรือห่วงแบบไหนถึงไม่ให้เราพบหน้าเลยสภาพแวดล้อมเป็นอย่างไรเราก็ไม่รู้เลย เพราะหลานอยู่กับเราสภาพจิตใจเขาดี

 

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส