คาดปมพิษรักแรงหึง ถูกบอกเลิก นักศึกษาสาวตัดสินใจปาดคอแฟนหนุ่ม นักศึกษาชายปี1 ม.ดัง ตำรวจเผยผู้ก่อเหตุรับสารภาพ ยันไม่มีอาการป่วย
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 เม.ย. มีข่าวลือสะพัดถึงเรื่อง นักศึกษาหญิง มหาวิทยาลัยชื่อดังปี 3 ก่อเหตุ ปาดคอ นักศึกษาชาย ปี 1 บริเวณหอพักนักศึกษา บาดเจ็บสาหัส และนำส่งโรงพยาบาล เข้าห้องไอซียู ภายหลังทราบว่าผู้เสียหายปลอดภัยแล้ว แต่ยังไม่ฟื้น
โดยผู้โพสต์ระบุไว้ว่า หลังจากเกิดเหตุ นักศึกษาหญิงยังมาเรียนตามปกติ ทำเอานักศึกษาหลายๆ คนรู้สึกหวาดกลัวและไม่ปลอดภัยที่ร่วมห้องเรียนกับผู้ก่อเหตุ
ต่อมา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ออกแถลงการณ์เรื่องเหตุการณ์นักศึกษาคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทำร้ายร่างกายเพื่อนนักศึกษา ภายในหอพักนอกมหาวิทยาลัย ตามที่เป็นข่าว
วันที่ 25 เม.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงที่ผ่านมาทางฝ่ายวิชาการและกิจการนักศึกษา คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้ดำเนินการเข้าดูแลนักศึกษาผู้ประสบเหตุวันเกิดเหตุดังกล่าว และดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ดังกล่าวในเบื้องตันแล้ว และยังคงอยู่ในขั้นตอนของการติดตามความคืบหน้าของเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างใกลัชิดกับทั้ง 2 ฝ่าย คือนักศึกษาคู่กรณี และนักศึกษาผู้เสียหาย รวมถึงประสานงานผู้ปกครองของทั้งสองฝ้าย
ทั้งนี้ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เตรียมดำเนินการประสานงานฝ่ายวินัยนักศึกษา เพื่อดำเนินการสืบข้อเท็จจริงและสอบสวนให้เป็นไปตามข้อบังคับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ว่าด้วยวินัยนักศึกษา และดำเนินการตามวินัยนักศึกษาต่อไป
ทั้งนี้ พ.ต.อ.วิษณุ รักษ์พรหมเมศร์ รองผบก.ภ.จว.ปทุมธานี ในฐานะ รรท.ผกก.สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุและผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งคู่คบกันมานานแล้วตั้งแต่อยู่ต่างจังหวัด โดยทั้งสองครอบครัวรับรู้ พอมาเป็นข่าวทั้งทางฝ่ายผู้ชายและหญิงไม่อยากให้ได้เป็นข่าว แต่ทางเพื่อนนักศึกษานำไปโพสต์ว่า แทงคนอื่นแล้วยังมานั่งเรียนอยู่สบายใจ เขาไม่ได้ลอยนวล เขาก็ถูกดำเนินคดีอยู่
ในเหตุการณ์เราไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น เพราะเขาอยู่กันสองคน มันมีการทะเลาะเบาะแว้งกันรุนแรงขนาดไหน กล้องวงจรปิดที่มีก็มีเพียงนอกห้อง มีเพียงผู้ชายและผู้หญิงเท่านั้นที่จะทราบข้อเท็จจริง คิดว่าน่าจะเกิดจากพิษรักแรงหึงที่ไม่อยากเลิกมากกว่าเราไม่ได้ถามอะไรมาก เราถามเฉพาะเกี่ยวกับคดี ทราบว่าผู้ชายอยากเลิก แต่ฝ่ายหญิงไม่อยากเลิก จนเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น
ทั้งสองคนคบกันมาตั้งแต่คนเจ็บยังไม่ได้มาเรียนสถานที่แห่งนี้ ขณะนี้อาการผู้ได้รับบาดเจ็บยังไม่สามารถให้ปากคำได้ ยังอยู่ในการดูแลของแพทย์ สำหรับผู้ปกครองทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้สอบปากคำอะไรมาก ต้องโฟกัสไปที่ผู้กระทำความผิด ผู้ก่อเหตุก็ให้การรับสารภาพ จากการสอบปากคำผู้ก่อเหตุไม่มีอาการป่วย คาดว่ายังเด็กและไม่เคยกระทำความผิด อาจจะวิตกกังวลที่ตนเองทำไป
