บิ๊กโจ๊ก ยันถอนฟ้องนายกฯแบบลูกนักเลง เพราะสืบมาแล้วพบว่าถูกหลอก

บิ๊กโจ๊ก ยันถอนฟ้องนายกฯแบบลูกนักเลง สืบมาแล้วพบว่าถูกหลอกให้เซ็นเอกสาร เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นขบวนการเตะตัดขาไม่ให้นั่ง ผบ.ตร. ยันไม่เกี่ยวบ้านจันทร์ส่องหล้า

หลังจากเมื่อวานนี้ ( 23 เม.ย. 67 ) นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร.ได้ส่งตัวแทนมายื่นหนังสือต่อ คณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอถอนเรื่องที่ยื่นให้ตรวจสอบ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กรณีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา157 ในการสกัดกั้นไม่ให้เป็น ผบ.ตร.โดยขัดต่อ พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติโดยระบุเหตุผลว่า ไม่ติดใจจะดำเนินการเอาผิดนายกรัฐมนตรีแล้ว 

นายนิวัติไชย กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีการเอาผิดพนักงานสอบสวนที่เกี่ยวข้องนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ไม่ได้ยื่นถอนเรื่องแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามกรณีการยื่นให้ตรวจสอบนายกรัฐมนตรี แม้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์จะไม่ติดใจดำเนินการ แต่ ป.ป.ช.ก็ยังต้องดำเนินการตรวจสอบต่อไป เพราะก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เคยมายื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบนายกรัฐมนตรี ในข้อกล่าวหาทำนองเดียวกัน ซึ่งเรื่องอยู่ระหว่างการตรวจสอบของ ป.ป.ช.

ต้องบอกว่าก่อนหน้านี้บิ๊กโจ๊กยื่นฟ้องนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ไว้ 2 เรื่อง คือ เรื่องการแต่งตั้ง บิ๊กต่อ เป็น ผบ.ตร. และอีกเรื่อง คือคำสั่งให้ บิ๊กโจ๊ก ย้ายกลับไป สตช.จนถูก บิ๊กต่าย รักษาการ ผบ.ตร.สังให้ออกจากราชการชั่วคราว

ล่าสุดวันนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. เปิดเผย ระหว่างมายื่นที่ ป.ป.ช.เพื่อเอาผิดหัวหน้าและพนักงานสอบสวนทั้งคณะ ว่า

เมื่อวันจันทร์ ที่ผ่านมาได้ยื่นและอธิบายไปแล้ว กรณีให้ ป.ป.ช.ไต่สวนตรวจสอบการสอบสวนของพนักงานสอบสวนทั้งหมดว่าสอบสวนโดยมิชอบ ไม่มีอำนาจ ผิดถูกว่ากัน แต่คุณต้องมีมีอำนาจและคุณต้องสอบสวนอย่างเป็นธรรมโดยชอบด้วยกฎหมาย ทั้งสน.ทุ่งมหาเมฆ และสน.เตาปูน 

วันนี้ตนก็ยื่นร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีอาญา ตั้งแต่ พลตำรวจเอกธนา ชูวงศ์ รองผบ.ตร และคณะพนักงานสอบสวนทั้งหมดกว่า 200 คน กรณีการสอบสวนโดยมิมีอำนาจและปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อันเป็นความผิดฐาน 157

จากนี้ไปกระบวนการจะเริ่มแล้ว ตนถึงต้องเตือนน้องๆพนักงานสอบสวนทุกคนว่า การสั่งงานของผู้บังคับบัญชาท่านอาจจะกลัวว่าสั่งแล้วไม่ทำเดี๋ยวโดนย้าย แต่ท่านต้องเข้าใจว่าการสั่งของผู้บังคับบัญชาโดยไม่ชอบ ถ้าท่านโดนคดีอาญาท่านติดคุกนะ รวมถึงผู้กำกับที่กำลังจะเกษียณเดือนตุลาคมนี้ ไม่ขอเอ่ยชื่อว่าใคร ขอเตือนไว้เลยว่าท่านต้องใช้ชีวิตต่อสู้กับผมและ ป.ป.ช.อย่างยาวนาน

วันนี้ตนรู้ว่าทุกคนเครียดหมด แต่ถ้าตำรวจคนไหนที่มาให้การกับ ป.ป.ช.ว่าใครสั่งท่านก็จะรอด วันนี้ตนมายืนเอาผิด แล้วก็แนะนำทางรอดให้ด้วย

ส่วนที่ถอนฟ้องนายกรัฐมนตรี นั้น กรณีแรกการแต่งตั้ง ผบ.ตร.ที่ผ่านมาโดยมิชอบและที่ตนยื่นถอนฟ้องนั้นจริงๆแล้วไม่มีอะไร เรื่องนี้ตนตรวจสอบแล้ว พบว่า พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ได้เคยยื่นร้องเรื่องนี้ไปแล้ว และป.ป.ช.ได้มีการสอบสวนแล้ว ก็เลยเป็นเรื่องซ้ำๆ ซ้ำไม่พอ แต่ ป.ป.ช.ได้มีการสอบไปไกลแล้ว ถ้าตนยังร้องอยู่ ก็ทำให้การสอบสวนล่าช้า ตนก็เลยถอนฟ้อง

ส่วนคำร้องเรื่องที่สอง กรณีนายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้ตน ย้ายกลับไป สตช.จนถูก บิ๊กต่าย รักษาการ ผบ.ตร.สังให้ออกจากราชการไว้ก่อนนั้น ตนตรวจสอบลึกไปกว่านั้นพบว่า ท่านนายกรัฐมนตรีท่านไม่รู้เรื่องท่านถูกหลอก ท่านถูกคนหลอกให้มาเซ็นทราบ แค่เซ็นทราบเฉยๆ เมื่อตนตรวจสอบแล้ว ท่านอยู่ในกระบวนการ แต่ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในการทำความผิด และท่านไม่ได้มีเจตนาในการทำความ ผิด อะไรที่ถอนได้ ผมก็ผมถอนให้ท่าน ต้องเรียนว่าท่านนายกรัฐมนตรีไม่รู้เรื่องและไม่เข้าใจเพราะท่านมาจากภาคธุรกิจ  แล้วกฎหมายคนเป็นตำรวจยังรู้ไม่หมดเลย ท่านก็เข้าใจว่าส่งตนกลับไปทำงานให้ประชาชนท่านเข้าใจว่าอย่างนั้น ที่ไหนได้มีคนมาหลอกท่าน พอส่งกลับตนก็ถูกสั่งให้ออกเลย เพราะฉะนั้นตนก็ต้องถอนฟ้องท่านนายกฯแบบลูกนักเลง 

บิ๊กโจ๊ก ระบุว่า ทั้งหมดเป็นขบวนการเตะตัดขา สกัดไม่ให้ขึ้นเป็น ผบ.ตร. นักข่าวถามว่าคำสั่งที่ตนถูกย้ายกลับมา สตช.จนถูกสั่งให้ออกราชการนั้น เกี่ยวกับบ้านจันทร์ส่องหล้าด้ยหรือไม่ บิ๊กโจ๊กระบุว่า ไม่เกี่ยวกับบ้านจันทร์ส่องหล้า เพราะแม้กระทั่งนายกฯยังถูกหลอกให้เซ็นเลย บ้านจันทร์ส่องหล้าไม่เกี่ยวๆ

โดยช่วงบ่ายบิ๊กโจ๊กจะไปยื่นเรื่องที่ ป.ป.ง.ต่อ ว่าพยานหลักฐานที่ สน.ทุ่งมหาเมฆและสน.เตาปูนยื่นให้ตรวจสอบนั้นได้มาโดยมิชอบทุกอย่างต้องโมฆะหมด