เลขาฯ ป.ป.ช. ยัน เอกสารจริง บิ๊กโจ๊ก ร้องค้าน 1 ใน กรรมการ ป.ป.ช.

22 เม.ย. 67

 

เลขาฯ ป.ป.ช. ยัน เอกสารจริง บิ๊กโจ๊ก ร้องค้าน 1 ใน กรรมการสอบตัวเอง ยันไม่ได้ทำเอกสารหลุด ย้อนถามตัวเขาเอาไปให้ผู้สื่อข่าวเองหรือเปล่า 

จากกรณีที่โลกโซเชียลแชร์ภาพ เอกสาร อ้างว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก รอง ผบ.ตร. ยื่นต่อคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรื่อง ขอคัดค้านการปฏิบัติหน้าที่ และขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของกรรมการ ป.ป.ช. ท่านหนึ่ง 

วันที่ 22 เม.ย. 67 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นาย นิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีเอกสารหลุดอ้างว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ทำหนังสือคัดค้านการปฏิบัติหน้าที่ของ กรรมการ ป.ป.ช.ท่านหนึ่งว่า 

เราได้รับหนังสือมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คงต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีการร้องคัดค้านในเรื่องอะไร 

เมื่อถามว่า เท่าที่ดูในเบื้องต้น มีการยื่นคัดค้านเรื่องอะไรบ้าง นายนิวัติไชย กล่าวว่า ตนขอไปดูข้อกฎหมายก่อน เพราะเวลามีเรื่องกันมันมีส่วนได้เสีย มีสาเหตุโกรธเคืองกันสิ่งเหล่านี้ถือเป็นเหตุคัดค้านตามข้อกฎหมาย 

ส่วนจะต้องสั่งยุติการปฎิบัติหน้าที่ของ ป.ป.ช. คนดังกล่าวก่อน นายนิวัติไชย  กล่าวว่า ต้องรับฟังเหตุผลทั้งสองฝ่าย เพราะเป็นเพียงแค่คำร้อง ต้องตรวจสอบคำร้องว่าระบุอย่างไร 

เมื่อถามว่า มีสำนวนของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อยู่ใน ป.ป.ช. ด้วย จะต้องกันคณะกรรมการ ป.ป.ช. คนนี้ออกหรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวา ต้องดูข้อเท็จจริงตามคำร้องก่อน เวลาเมื่อมีการไต่สวน มักมีการร้องคัดค้านเข้ามาอยู่เรื่อยๆ บางครั้งคำคัดค้านก็ฟังไม่ขึ้น ส่วนจะใช้กรอบเวลาในการพิจารณาเท่าไหร่นั้น ต้องดูว่าคำร้องที่ส่งมามีข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานอะไรบ้าง ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย เพราะโอกาสที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ถูกคัดค้านก็มีเยอะ 

เมื่อถามว่า ต้องมีการกลับไปไล่ดูตั้งแต่กระบวนการสรรหาหรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า เรื่องกระบวนการสรรหาคงไม่ใช่หน้าที่ของ ป.ป.ช.  ต้องไปอยู่กับคนที่เขาสรรหามา ป.ป.ช. รับผิดชอบเฉพาะกรณีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่รัฐว่าปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือทุจริตต่อหน้าที่ ส่วนกรณีการกล่าวหาคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไม่ใช่หน้าที่ของ ป.ป.ช. ต้องเป็นหน้าที่ขององค์กรอิสระอื่นที่จะต้องพิจารณา 

ส่วนต้องเรียกสองบุคคลที่ถูกอ้างอิงใน ท้ายคำร้องมาพูดคุยหรือไม่นั้น นายนิวัติไชย กล่าวว่า ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่ง ส่วนที่มีชื่อของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี อยู่ในเอกสารนั้น ต้องไปดูว่า พล.อ.ประวิตร เป็นพยานในเรื่องอะไร ซึ่งก็เป็นแนวทางยืนยันว่ายังไม่มีข้อยุติ ตอนนี้อยู่ในกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงยังไม่มีมีการไต่สวน คงต้องพิจารณาว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถูกตั้งข้อกล่าวหามากี่เรื่อง หากได้รับผลกระทบอีกหลายคดี จะต้องไปดูในทุกๆ เรื่อง 

อย่างไรก็ตามหลังได้รับหนังสือร้องเรียนจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับคณะกรรมการกรรม ป.ป.ช. รายดังกล่าว ส่วนจะมีการส่งเรื่องถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรหรือไม่นั้น ต้องดูข้อพิจารณาก่อนว่า ป.ป.ช. มีอำนาจส่งเรื่องให้กับประธานสภาฯ หรือไม่ พร้อมย้ำว่ากระบวนการสรรหาเป็นเรื่องที่ทางสภาฯ จะต้องไปตรวจสอบกันเองว่าสรรหามาอย่างไร 

เมื่อถามว่า มองว่าเป็นเรื่องส่วนตัวหรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า เรื่องคำร้องเรียนต้องดูที่ข้อเท็จจริง ตนถึงบอกว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. ก็ถูกกล่าวหาได้โดยง่าย วันนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ทำอะไรปุ๊บ ก็ถูกอีกฝ่ายหนึ่งคัดค้าน ตนถึงบอกว่ามันมีประจำอยู่แล้ว วันหนึ่งในการประชุมก็มีเรื่องการคัดค้านเข้ามาเยอะ ส่วนการคัดค้านเป็นไปตามข้อเท็จจริงหรือไม่ก็ต้องตรวจสอบ เพราะเป็นคำร้องเท่านั้นเอง ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย 

เมื่อถามว่า เป็นการถ่วงเวลาในการพิจารณาคดีของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หรือไม่ นายนิวัติไชย กล่าวว่า ก็เป็นอีกมุมมองหนึ่ง เรื่องแต่ปัจจุบันเรื่องของการตรวจสอบก็ยังไม่เข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังอยู่ในระดับชั้นของเจ้าหน้าที่ ถือว่ายังไม่กระทบ และยังไม่ไม่เกี่ยวข้องกับคดีของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ สำหรับกระแสข่าวว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะเดินทางมาในวันนี้ ยังไม่ได้รับการประสานมา 

เมื่อถามว่า เอกสารหลุดออกมาได้อย่างไรนั้น นายนิวัติไชย ถามกลับว่า “ตัวเขาเอาไปให้ผู้สื่อข่าวเองหรือเปล่า ไม่ใช่ ป.ป.ช. แน่ๆ ผมไม่รู้นะอันนี้” 

ส่วนกรณีคณะพนักงานสอบสวน ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ที่ทำคดีเว็บพนัน BNK Master ได้ส่งสำนวนคดีที่มีการกล่าวหา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ อีกสำนวนมาให้ ป.ป.ช. พิจารณาเมื่อวันที่ 19 เม.ย.นั้น นายนิวัติไชย กล่าวว่า เพิ่งยื่นเมื่อวันที่ 19 เม.ย. ที่ผ่านมา มันยังคงไม่เร็วถึงขนาดนั้น แต่ก็ต้องไปไล่ดูว่าอีกสำนวนหนึ่งหรือไม่ เพราะการกระทำมีหลายกรรม ต้องไปดูว่าเรื่องนี้เป็นการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐ เกี่ยวกับเรื่องความผิดต่อหน้าที่หรือไม่ เกี่ยวกับเรื่องทุจริตหรือไม่ หรือมีประเด็นเรื่องการเรียกรับเงินหรือไม่ จึงต้องขอเวลาพิจารณาก่อน 

ส่วนรายละเอียดในสำนวน มีข้อหาเกี่ยวกับการฟอกเงินนั้นจะต้องรับไว้ดำเนินการเองหรือส่งสำนวนกลับไปให้ตำรวจดำเนินการนั้น ก็คงต้องดูอีกทีหนึ่ง และขอดูก่อนว่าอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.หรือไม่

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวการเมือง เป็นกระแส