หลวงพี่น้ำฝน รถคว่ำ ปลอดภัยดีไร้เจ็บ เชื่อเป็นเพราะความดี คุ้มครองให้แคล้วคลาด

21 เม.ย. 67

ส่องเลขทะเบียน หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำ เล่านาทีชีวิต ไร้บาดแผล เผยของมงคลพกติดตัว

วันที่ 21 เมษายน 2567 จากกรณี เพจดังหลายสำนักได้มีการแชร์ภาพ รถยนต์เก๋ง สีบรอนซ์ ประสบอุบัติเหตุหงายท้องอยู่บนถนน โดยปรากฏภาพ พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม อยู่ในเหตุการณ์ และดูสภาพรถรวมถึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยและชาวบ้านที่ช่วยอยู่ในเหตุการณ์ให้นำร่างของหลานชายออกจากรถ

โดยระบุว่า "รถยนต์ของหลวงพี่น้ำฝนประสบประสบอุบัติเหตุ พังยับ แต่หลวงพี่น้ำฝนไม่เป็นอันตราย แถมยังไม่มีบาดแผลใดๆ ในร่างกาย" ซึ่งได้สร้างความฮือฮาให้กับศิษยานุศิษย์ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อประมาณเวลา 15.30 น. เมื่อวันที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา

โดยเรื่องดังกล่าว หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เผยว่าในการเกิดอุบัติเหตุเมื่อวานนี้ เกิดขึ้นหลังจากได้นั่งรถยนต์ไปกับหลานชายและเจ้าหน้าที่ของวัดไผ่ล้อมเพื่อไปพบแพทย์ที่ โรงพยาบาลหูตาคอจมูก ย่านปิ่นเกล้า

หลังจากพบแพทย์เสร็จสิ้น ก็ได้เดินทางกลับวัดเพื่อเตรียมประกอบกิจนิมนต์ต่างๆ ที่ยังค้างค้างอยู่ แต่เมื่อมาถึงจุดลงสะพานเพื่อที่จะเข้าวัดไผ่ล้อม ระยะทางไม่เกิน 3 กิโลเมตร ขณะที่นั่งอยู่ด้านหน้าได้เห็นว่ารถได้โยกตัวเข้าไปพุ่งชนช่วงท้ายของรถที่จอดรอกลับรถอยู่

จากนั้นรถได้กระแทกอย่างแรงและพลิกคว่ำทันทีจนแน่นิ่ง ซึ่งขณะนั้นยังมีสติอยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อหันไปมองหลานชายซึ่งเป็นคนขับรถ กระทั่งผ่านไปประมาณ 5 นาที หลานชายจึงได้ฟื้นและส่งเสียงร้องครางจากความเจ็บปวดจึงได้แน่ใจว่าเขายังรู้สึกตัว และได้มุดออกมาจากหน้าต่างฝั่งคนนั่งนั้นได้ เริ่มมีประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ได้เริ่มเข้ามาช่วยดู จึงได้มานั่งพักอยู่ริมทางเท้าก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่กู้ชีพและรถพยาบาลจากโรงพยาบาลนครปฐมเข้ามาจอดเทียบข้างรถและช่วยกันงัดร่างหลานชายออกมาอย่างปลอดภัย

หลวงพี่น้ำฝน

หลวงพี่น้ำฝนกล่าวว่า สำหรับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ถือเป็นครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นครั้งที่สองของชีวิต โดยครั้งแรกเกิดเมื่ออายุ 25 ปีซึ่งเป็นวัยเบญจเพส ตอนนั้นพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล ได้เดินทางไปที่จังหวัดพิจิตรเพื่อจะนำของไปแจก โดยก่อนเดินทางไปได้บอกมาว่าให้ไปไหว้พระราหู ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเพราะอะไร แต่ก็ไปไหว้ตามที่ท่านได้บอกไว้

จนกระทั่งเมื่อไปถึงจังหวัดพิจิตร รถฮอนด้าที่นั่งไปแจกของได้ประสบอุบัติเหตุใหญ่ โชคดีที่ก็ไม่ได้เป็นอะไร มาถึงครั้งนี้ก็เป็นอุบัติเหตุครั้งที่ 2 ซึ่งก็ถือว่าไม่มีการได้รับบาดเจ็บอะไร แต่ก็เป็นเรื่องแปลกที่มาตรงกับช่วงวัยของหลานชายที่อายุ 25 ปีเข้าสู่วัยเบญจเพศในปีนี้ แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะเป็นเรื่องดวงเพียงอย่างเดียว มันมีองค์ประกอบหลายอย่างที่เป็นหลัก

โดยหลังจากที่ได้ตรวจร่างกายแล้วได้รีบเดินทางกลับเข้าวัดเพื่อประกอบกิจนิมนต์ในการมอบเครื่องปรับอากาศให้กับเรือนจำอำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี เพื่อให้ไปติดตั้งในห้องเยี่ยมผู้ต้องขังและญาติ เนื่องจากตอนนี้อากาศร้อนมาก ทำให้เกิดความแออัดและสะดวกสบาย ซึ่งก็ยังคงได้ปฏิบัติกิจไปตามปกติทันที

หลวงพี่น้ำฝนกล่าวอีกว่า หลังจากมีกระแสในโซเชียลสอบถามกันว่า มีของดีอะไรหรือมีอะไรที่เป็นสิ่งที่มองไม่เห็น ทำให้ทุกคนในรถปลอดภัยไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส อาตมาไม่อยากจะให้มองเป็นเรื่องนั้น แต่อยากจะให้มองว่านี่คือเรื่องของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งหากจะให้คิดตามแนวคิดของตนเองว่าที่ไม่ได้รับบาดเจ็บเป็นเพราะได้ใช้คำว่าสติในการดำเนินชีวิต

โดยช่วงที่เกิดเหตุก็เห็นภาพเหตุการณ์ทุกอย่าง เมื่อมองว่าหลานปลอดภัยก็ได้คลานออกมาจากรถพร้อมกับเจ้าหน้าที่ อีกหนึ่งคนที่ไปด้วยก็เมื่อตรวจสอบแล้วว่าร่างกายทุกคนอยู่ในช่วงที่ไม่หมดสติหรือมีบาดแผลฉกรรจ์ก็โล่งใจ  แต่ก็ขอเตือนญาติโยมสำหรับเรื่องนี้ว่าอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขอให้เราอย่าประมาทโดยเฉพาะบนท้องถนนก็สามารถเกิดขึ้นได้ทุกวินาทีด้วย

หลวงพี่น้ำฝนกล่าวต่อว่า หลังจากที่รถประสบอุบัติเหตุและมีโซเชียลได้มีการแชร์ข่าวออกไปอย่างหนาหูตั้งแต่เมื่อวาน

มีหลายคนเข้ามาสอบถามว่าอาตมาติดวัตถุมงคลอะไร ลูกศิษย์ติดวัตถุมงคลอะไร ซึ่งในส่วนของอาตมาก็พกเพียง ภาพอัฐิของโยมแม่ ที่ติดตัวไว้ แล้วก็นึกนึกถึงบารมีของหลวงพ่อพูลตลอดเวลา มีอยู่แค่นั้น

แต่สิ่งที่คิดว่าช่วยให้รอดมาได้จากอุบัติเหตุครั้งนี้ น่าจะเป็นอานิสงส์ของความตั้งใจในการทำความดี ให้ยึดเหนี่ยวเอาความดีเป็นที่ตั้ง ก็จะทำให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ ได้ ก็คิดได้เพียงเท่านี้

โดยจากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง หลานชายของพี่น้ำฝน ซึ่งเป็นคนขับ บอกว่าปกติตนเองได้พกวัตถุวัตถุมงคลประจำตัว ซึ่งเป็นภาพถ่ายล็อกเกตภาพหลวงพ่อพูลติดตัวเอาไว้ตลอด ซึ่งเป็นล็อกเกตที่หลวงพี่น้ำฝนได้มอบให้ไว้หลายปีก่อน โดยเป็นล็อกเกตในรุ่นที่หลวงพ่อพูลท่านได้สร้างเอาไว้ตั้งแต่ประมาณปี 44-47 ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยประสบอุบัติเหตุอะไร มีเพียงครั้งนี้ที่เป็นอุบัติเหตุใหญ่ในชีวิต โดยก็เชื่อว่าอาจจะเป็นเพราะเข้าสู่ช่วงของการเปลี่ยนอายุในวัย 25 ปี หลังจากนี้ก็คิดจะบวชเพื่อทำให้ตัวเองมีสติในการดำเนินชีวิตมากขึ้น

ขณะที่เจ้าหน้าที่วัดซึ่งได้เดินทางขึ้นรถไปด้วยบอกว่า ตนเองได้เดินทางไปเพื่อช่วยเดินเอกสารและประสานงานกับทีมแพทย์ที่โรงพยาบาลหูตาคอจมูก เพื่อที่จะรักษาอาการป่วยของหลานชายหลวงพี่น้ำฝน โดยเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ ช่วงนั้นตนเองปวดหัวจึงได้นั่งหลับอยู่ที่เบาะหลังแ ละได้ยินเสียงเหมือนรถจะออกจากถนน

ทันใดนั้นก็มีมีเสียงชนตูมดังสนั่น จากนั้นก็มารู้ตัวอีกทีคือนอนหงายอยู่ในรถ ซึ่งจากการตรวจร่างกายทั้งหมด มีเพียงแค่หัวโนและหน้าแข้งกับแขนซ้ายมีรอยถลอก ซึ่งก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่เป็นเรื่องอัศจรรย์ที่ได้พบตัวเอง และเชื่อว่าเป็นบารมีของหลวงพ่อพูลและหลวงพี่น้ำฝนที่ทำให้ตนเองได้รอดปลอดภัยจากเหตุการณ์ในครั้งนี้

สำหรับวัตถุมงคลที่พกติดตัวอยู่ตลอดเวลาก็มีเพียงแค่ของวัดไผ่ล้อมเท่านั้นประกอบด้วย
1.สิงห์เมตตามหาบารมี ปี 2546
2.เหรียญเม็ดยาหลวงพ่อพูลหลังองค์พระปฐมเจดีย์ ปี 2544
3.พระนาคปรกใบมะขาม หลวงพ่อพูลปลุกเสก ปี 2544
4.กำไรหินพระธาตุกุมารสมบัติ รุ่น 111 ปี ชาตกาลหลวงพ่อพูล ปี 2566

ขณะเดียวกันบรรยากาศภายในวัด ได้มีนักนิยมวัตถุมาสอบถามถามหาว่าในรถหรือบุคคลที่นั่งโดยสารมานั้นได้มีของดีหรือวัตถุมงคลอะไร ซึ่งได้รับคำตอบว่าเป็นวัตถุมงคลจากวัดไผ่ล้อมทั้งหมด

ซึ่งก็ได้สร้างความประหลาดใจเนื่องจากเมื่อดูจากภาพและคลิปเหตุการณ์ คิดว่าจะต้องมีผู้ได้รับบาดเจ็บหนักในรถหลายคนแน่นอน ซึ่งบรรยากาศภายในศาลาหลวงพ่อพูลได้มีญาติโยมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามากราบไหว้สรีระสังขารของหลวงพ่อพูลอย่างต่อเนื่อง และหลายคนได้สอบถามถึงเรื่องเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ด้วยความเป็นห่วง และประหลาดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และมีเซียนพระเริ่มมาสอบถามถามหาวัตถุมงคลรุ่นต่างๆ ของหลวงพ่อพูล อดีตเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม

รวมถึงตัวเลข ทะเบียนรถ 5656 ที่ประสบอุบัติเหตุก็เป็นหนึ่งที่มีการเข้ามาสอบถามหา สำหรับคอหวยเพื่อพิชิตกองสลากฯ ในอีกไม่กี่วันนี้ด้วย

หลวงพี่น้ำฝน รถคว่ำ ทะเบียนรถ

หลวงพี่น้ำฝน รถคว่ำ ทะเบียนรถ

advertisement

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส