สลด! หนุ่มใหญ่เครียดโดนโกงค่าแรง กระโดดน้ำวันเกิดของลูกชายคนเล็กดับ

สลด! หนุ่มใหญ่เครียดโดนโกงค่าแรง ไม่มีเงินจ่ายณาปนกิจ กระโดดน้ำลาโลกในวันเกิดของลูกชายคนเล็กดับอนาถ  

เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เวลา 00.30 น. วันที่ 18 เม.ย. 67 ศูนย์วิทยุกู้ชีพปราการจังหวัดสมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีคนจมน้ำบ่อน้ำข้างทางริมถนนท้ายบ้าน บริเวณสามแยกหาดอมรา ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ 

หลังรับแจ้งจึงประสานกู้ชีพโรงพยาบาลสมุทรปราการ พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการ เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ 

ที่เกิดเหตุเป็นเป็นลักษณะบ่อน้ำข้างทางเจ้าหน้าที่พบผู้ที่จมน้ำหมดสติ ซึ่งชาวบ้านที่อยู่ในละแวกดังกล่าวได้ช่วยเหลือนำขึ้นมาริมคันบ่อ เจ้าหน้าที่จึงปฐมพยาบาล โดยการปั๊มหัวใจ หรือ CPR ประมาณ 10 นาที แต่ก็ไม่สามารถยื้อชีวิตได้ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 

ทราบชื่อต่อมา นายแก้ว อายุ 63 ปี ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่จึงประสานผู้เกี่ยวข้องให้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ 

โดยเมื่อวานผู้ตายโพสต์เฟซบุ๊กว่า คนเราทำงานก็โดนโกง ไปสมัครงานที่ไหนเขาก็ไม่รับ เพราะอายุมาก นอนอยู่กับห้องเหมือนคนป่วยติดเตียงแล้วจะอยู่เพื่ออะไร ไม่ไหวแล้ว ไม่อยากอยู่แล้ว พร้อมเปิดแชร์ไลน์กับหัวหน้างานของพ่อที่ลูกชายได้ทวงถามเรื่องค่าแรงของผู้ตาย 

จากการสอบถามนายเปียก โฐ๊บุตร อายุ 64 ปี เล่าว่า ตนเห็นผู้ตายประมาณเกือบเที่ยงคืนอยู่ที่ริมบ่อนั่งดื่มสุราอยู่ โดยตนนอนเล่นโทรศัพท์อยู่ในรถตอนประมาณ 5 ทุ่มกว่า พอมองมาอีกครั้งก็เห็นแต่รองเท้าผู้ตาย จึงเปิดประตูรถลงมาดูก็พบผู้ตายอยู่ในบ่อน้ำแล้ว ส่วนผู้ตายคงไม่เมา เนื่องจากดื่มสุราไปแค่ก๊กเดียว 

ขณะที่ลูกชายคนกลาง เปิดเผยว่า พ่อทำงานเป็นรปภ. โดยที่ตนพาผู้ตายไปสมัครงาน แม้อายุมากแล้วก็ไม่ได้ใช้เอกสารอะไร ซึ่งทำงานอยู่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ตนเองก็ไปทวงเงินให้พ่อแล้ว เมื่อช่วงเย็นโทรศัพท์หาพ่ออยู่แต่ก็คุยไม่รู้เรื่อง เนื่องจากพ่อเมา จึงโทรหาพี่ชาย ซึ่งพี่ชายก็บอกว่าเพิ่งออกจากห้องผู้ตายแล้วมารู้อีกทีก็ตอนเสียชีวิตไปแล้ว 

ส่วนลูกชายคนเล็ก เล่าว่า พ่อเครียดหลายอย่าง ทั้งเรื่องงาน เรื่องเงิน และที่บ้าน เรื่องเงินณาปนกิจที่ไม่มีเงินจ่าย เครียดหลายอย่าง โดยปกติผู้ตายเวลาเมาจะบ่นว่าอยากตาย แต่ก็ไม่เคยทำ แต่ทำไมครั้งนี้มาทำ ตนมารู้อีกที่ว่าพ่อจมน้ำเสียชีวิตก็เมื่อมีคนมาเรียกที่ห้องพัก และวันนี้เป็นวันเกิดครบ 22 ปีพอดี 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะเชิญญาติของผู้เสียชีวิตไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่โรงพัก พร้อมตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุของการก่อเหตุที่แท้จริง ส่วนร่างผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่มอบให้มูลนิธินำส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลสมุทรปราการ ก่อนมอบให้ญาติรับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป