เร่งพา ด.ต. ถูกชนสาหัสเข้ารักษาที่ รพ.ตำรวจ วันนี้ เป้าต้องขับรถจากลพบุรีนำเข้ากรุงเทพภายใน 1 ชั่วโมง เพื่อให้อาการไม่ทรุดไปมากกว่านี้
จากเหตุการณ์ที่ ด.ต.ปิยนันท์ สีเสื้อ หรือดาบต้าร์ อายุ 39 ปี ตำแหน่ง ผบ.หมู่ ส.ทล.3 กก.1 บก.ทล.ตำรวจทางหลวงลพบุรี (ประจำจุดอยู่หมวดทางหลวงดีลัง) กำลังปฏิบัติหน้าที่ให้อำนวยความสะดวกด้านการจราจรจุดเปิดเลนพิเศษบริเวณทางแยกบ้านดีลังถนนสาย 21 ขาล่อง (สระบุรี-หล่มสัก) หมู่ 4 ต.ดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี เพื่อให้ประชาชนเดินทางอย่างคล่องตัว จู่ๆได้มีรถยนต์เก๋ง นิสสัน สีขาว หมายเลขทะเบียน กร-1405 สระบุรี ขับโดย น.ส.พรเพชร ปั้นสมใจ อายุ 27 ปี ชาว จ.สระบุรี ขับมาด้วยความเร็วพุ่งชน ด.ต.ปิยนันท์ จนร่างกระเด็นลอยละลิ่ว 10 เมตร ศีรษะกระแทกพื้นจนเลือดไหลจำนวนมาก เบ้าตาขวาใบหน้าเป็นแผลฉกรรจ์ อาการสาหัส ซึ่งเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เห็นเหตุการณ์และช่วยอำนวยความสะดวกด้านจราจรจุดดังกล่าวเห็นเหตุการณ์ ได้รีบนำตัว ด.ต.ปิยนันท์ ส่งยังโรงพยาบาลพัฒนานิคม และได้นำตัว ด.ต.ปิยนันท์ เพื่อส่งโรงพยาบาลตำรวจ โดยเฮลิคอปเตอร์ กองบินตำรวจ แต่ปรากฏว่าไม่สามารถนำส่งโรงพยาบาลตำรวจได้ เนื่องจาก ด.ต.ปิยนันท์ มีอาการชีพจรต่ำ และทนสภาพแรงกดอากาศไม่ไหว เนื่องจากสมองบวมจากการกระทบกระเทือนอย่างหนัก จึงทำให้เฮลิคอปเตอร์วนมาลงจอดที่เดิม และมีการประเมินอาการผู้ป่วย รวมทั้งเปลี่ยนแผนที่จะนำตัวเข้ารักษาที่ รพ.ตำรวจ มาเป็น รพ.พระนารายณ์มหาราช อ.เมือง จ.ลพบุรี แทนนั้น
จะมีการเคลื่อนย้าย ด.ต.ปิยนันท์ จากโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช เข้าไปรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ โดยใช้รถพยาบาลของ รพ.ตำรวจ จะเดินทางมารับ จากนั้นจะมีขบวนรถตำรวจทางหลวง จำนวน 4 คัน นำขบวน
โดยใช้เส้นทางจากลพบุรี ผ่าน อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรีและออกสายเอเชีย มุ่งหน้าเข้า กทม. ขึ้นทางด่วนโทลล์เวย์(ดอนเมือง)ไปลง มุ่งหน้ารพ.ตำรวจ
จึงขอความร่วมมือจากผู้ใช้ถนนในเส้นทางดังกล่าว ช่วยอำนวยเส้นทาง หากพบเห็นขบวนรถเคลื่อนย้ายผู้ป่วยดังกล่าวด้วย และจะมี น.ส.ระวีรรณ ทรัพย์เกษตรกิจ อายุ 35 ปี ภรรยา ด.ต.ปิยนันท์ จะเดินทางพร้อมด้วยครอบครัว ไปที่โรงพยาบาลตำรวจด้วย
ภายในขบวนรถ มีรถในขบวนจำนวน 6 คัน ระหว่างเส้นทางจะคอยมีรถมูลนิธิและตำรวจตามเขตจังหวัดต่าง ๆ คอยนำและเคลียร์เส้นทางเพื่อให้รถไม่เกิดอุบัติเหตุ
ซึ่งคาดว่าจะเดินทางถึง รพ.ตำรวจในเวลาประมาณไม่เกิน 12.00 น. เพราะต้องนำ ด.ต.ปิยนันท์ ถึงโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด โดยพยายามใช้เวลาเดินทางเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น
.jpg)
