ผู้ว่าฯสั่งตั้งกรรมการสอบ "นายอำเภอ" เมากร่างด่าตำรวจ ยอมรับดื่มจริง

12 เม.ย. 67

ผู้ว่าฯสั่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง"นายอำเภอ" เมากร่างด่าตำรวจ ยอมรับดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จริง แต่ภาพตามคลิปไม่ใช่ข้อเท็จจริงทั้งหมด

จากกรณีคลิปเหตุการณ์ชายคนหนึ่งอ้างว่าเป็นข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยกับคนสนิทได้ไปโต้เถียงกับตำรวจขณะที่กำลังตั้งด่านตรวจกวดขันวินัยจราจรช่วงเทศกาลสงกรานต์โดยมีญาติคนหนึ่งของชายที่อ้างว่าเป็นข้าราชการระดับสูงถูกจับข้อหาเมาแล้วขับจึงได้เข้าไปเคลียร์ทำให้มีการโต้เถียงกันกับตำรวจตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

คืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษกล่าวว่า ตนได้ทราบข่าวเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วซึ่งตนเห็นว่าทางกระทรวงมหาดไทยและรัฐบาลได้มีนโยบายและมีคำสั่งในการกวดขันจับกุมการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเข้มงวดในช่วงเทศกาลสงกรานต์เพื่อป้องกันอุบัติเหตุซึ่งจากคลิปตามข่าวนั้นท่านปลัดกระทรวงมหาดไทยได้สั่งการให้ตนทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นซึ่งตนได้แต่งตั้งคณะการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้วเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงทั้งหมดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร ซึ่งตนจะดำเนินการตามข้อมูลหลักฐานต่างๆเพื่อดำเนินการตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องและยืนยันว่าจะดำเนินการตามระเบียบกฎหมายและวินัยที่กำหนดไว้อย่างเต็มที่ โดยจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายตามพยานหลักฐานที่เกิดขึ้น ตนขอฝากแจ้งข้าราชการสังกัดกระทรวงมหาดไทยทุกคนของจังหวัดศรีสะเกษว่านโยบายของผู้บังคับบัญชาและระเบียบวินัยข้าราชการจะต้องถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเพื่อให้เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ประชาชนอีกทั้งขณะนี้อยู่ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ข้าราชการจะสามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ แต่จะต้องดื่มอยู่ในที่ที่เหมาะสมและที่สำคัญจะต้องไม่เมาแล้วขับอย่างเด็ดขาดเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์และช่วงเทศกาลต่างๆตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทยและรัฐบาลอย่างเคร่งครัด

5_9

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านพักนายอำเภอได้พบกับ นายสฤษดิ์ นายอำเภอยางชุมน้อย กับ นายวิระศักดิ์ ญาติของนายอำเภอที่มาช่วยทำหน้าที่เป็นพนักงานขับรถให้นายอำเภอยางชุมน้อยกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นวันที่ 11 เม.ย. 67 เวลาประมาณ 13.00 น. เกิดเหตุเกิดที่บริเวณแยกบายพาส อำเภอเมือง จังหวัดอำนาจเจริญ โดยในวันดังกล่าวตนได้ไปช่วยงานบวชหลานชายที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งเขตจังหวัดอำนาจเจริญต่อมานายวิรศักดิ์ที่มาช่วยขับรถได้มาแจ้งให้ตนทราบว่าหลานเขยถูกจับข้อหาเมาแล้วขับอยู่ที่แยกบายพาสตนจึงได้เดินทางมาที่จุดที่เกิดเหตุและได้พบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ตั้งด่านตนจึงได้เข้าไปแสดงตัวและบอกว่าเรื่องนี้ขอกันได้หรือไม่เพราะว่าหลานเขยเป็นคนทำมาหากินไม่ได้เกะกะเกเรเป็นการดื่มเหล้าในงานบุญแต่หากขอไม่ได้ก็ขอให้ดำเนินการปรับตรงนั้นเลยได้หรือไม่แต่ว่าตำรวจแจ้งว่าจะต้องไปปรับที่ศาลตนก็ไม่ได้ว่าอะไร

นายอำเภอยางชุมน้อยกล่าวต่อไปว่า แต่ปรากฏว่าหลังจากที่ตนแสดงตัวไปว่าเป็นข้าราชการระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยแล้วตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ไม่ได้ให้เกียรติตนแต่อย่างใดแต่ใช้คำพูดที่เป็นการไม่ให้เกียรติกันซึ่งขณะนั้นตนแต่งกายด้วยชุดธรรมดาไม่ได้สวมเครื่องแบบข้าราชการตนก็เป็นเหมือนประชาชนคนหนึ่งแต่การที่ตำรวจใช้คำพูดแบบไม่ให้เกียรติตนนั้นถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ควรกระทำแต่อย่างใดซึ่งตนยอมรับว่าตนดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาจริง แต่ไม่ได้มึนเมาแต่อย่างใดส่วนคนขับรถของตนนั้นก็ไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แต่อย่างใดเพราะว่าทำหน้าที่ขับรถส่วนรถที่ขับไปครั้งนี้ก็เป็นรถส่วนตัวผู้ที่โดนตำรวจจับเป็นหลานเขยของตนไม่ใช่ตนและคนขับรถที่โดนจับกุมอีกทั้งการที่ตำรวจแจ้งว่าจะจับกุมตนด้วยตนก็จะให้จับกุมส่วนตามคลิปที่บอกว่าตนจะเข้าไปทำร้ายตำรวจนั้นไม่ใช่ความจริงแต่อย่างใดเพียงแต่ว่าตนเดินเข้าไปหาตำรวจแล้วตนสะดุดพื้นทำให้เซเข้าไปตนคงไม่กล้าที่จะเข้าไปทำร้ายตำรวจที่พกพาอาวุธปืนและอยู่กันกลุ่มใหญ่อย่างแน่นอน

6_10

เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ตนยอมรับผลที่จะตามมาสุดแท้แต่ผู้บังคับบัญชาจะพิจารณา แต่ตนขอยืนยันว่าภาพตามคลิปไม่ใช่ข้อเท็จจริงทั้งหมดเป็นคลิปที่ออกมาจากทางฝ่ายตรงข้ามเพียงด้านเดียว ตนปฏิบัติติหน้าที่ตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัดและเปิดจุดตรวจกวดขันวินัยจราจรในช่วงเทศกาลสงกรานต์ในเขตอำเภอยางชุมน้อยเพื่อป้องกันอุบัติเหตุอย่างเต็มที่ส่วนการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงงานบุญนั้นตนก็ดื่มเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เพราะว่าเป็นงานบุญจึงมีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตนได้รายงานข้อเท็จจริงที่เกิดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษทราบแล้วและพร้อมที่จะให้ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับคณะกรรมการสอบสวนที่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษตั้งขึ้นมา

นายวิระศักดิ์ญาติของนายอำเภอที่มาช่วยทำหน้าที่เป็นพนักงานขับรถกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นข้อเท็จจริงตามข่าวไม่ใช่ข้อเท็จจริงทั้งหมดตนทำหน้าที่ขับรถเมื่อได้รับแจ้งทางโทรศัพท์จากหลานเขยว่าถูกตำรวจจับกุมข้อหาเมาแล้วขับจึงได้แจ้งให้นายอำเภอทราบเมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่าตำรวจตั้งด่านอยู่และได้ใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสมและไม่ให้เกียรติกับนายอำเภอยางชุมน้อย ทั้งที่นายอำเภอเข้าไปเพื่อขอให้ดำเนินการตามกฎหมายโดยขอให้ปรับตรงนั้นได้หรือไม่แต่เมื่อไม่ได้ก็ขอให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไปแต่ว่าตำรวจกลับพูดจาไม่ให้เกียรติกับนายอำเภอซึ่งเป็นผู้บริหารระดับสูงจึงได้มีการโต้เถียงกันขึ้นแต่ว่าไม่ได้มีเหตุการรุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส