ผู้เป็นแม่ถึงกับร่ำไห้ หลังเห็นภาพลูกชายอายุ 22 ปีของตัวเองขี่รถจักรยานยนต์ประสบอุบัติเหตุถูกรถเทรนเลอร์หัวลากทับเสียชีวิต บนถนนสาย รังสิต-นครนายก เส้นมุ่งหน้าเข้าอำเภอเมืองนครนายก บริเวณโค้งอุโมงค์ หลักกิโลเมตร ที่ 46 หมู่9 ตำบลองครักษ์ อำเภอองครักษ์
โดยผู้เสียชีวิตคือ นายสุทัศ กระขาว สภาพศพ นอนคว่ำหน้าบนพื้นถนนเลนซ้าย สวมกางเกงขาสั้น ไม่สวมเสื้อ กะโหลกศีรษะแตก มันสมอง กระจายเต็มพื้นถนน ใบหน้าผิดรูปจากแรงทับของล้อรถดังกล่าว ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ HONDA MSX สีน้ำเงิน สภาพหน้ารถและล้อทั้งสองข้างได้รับความเสียหาย ตำรวจได้เข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบรถเทรลเลอร์ที่ทับผู้ตาย โดยมีพยานในที่เกิดเหตุได้ให้การกับทางตำรวจว่าหลังจากที่ทับแล้วรถคันดังกล่าวได้ขับมุ่งหน้าไปยังอำเภอบ้านนา
นายทักษิน จรเด็จ อายุ 19 ปี เพื่อนนายสุทัศ ที่ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยกันขณะเกิดเหตุ บอกว่า พวกตนรวมทั้งนายสุทัศรวม 4 คน ขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยกันทั้งหมด 3 คัน และได้ยูเทิร์นหน้าปั๊มน้ำมัน จากนั้นนายสุทัศน์ได้ขับนำหน้ามาก่อนคนเดียว ตามหลังรถเทรลเลอร์ และได้อาศัยจังหวะจะแซงซ้าย พอแซงก็พบว่าด้านหน้ามีรถตู้จอดอยู่ข้างทาง จึงทำให้รถเสียหลักล้ม และถูกรถเทรลเลอร์ทับต่อหน้าต่อตา
ส่วนญาติพี่น้อง แม่และน้องของนายสุทัศน์ ได้เดินทางมายังที่เกิดเหตุ ก็ถึงกับเป็นลมล้มพับญาติต้องช่วยกันปลอบ โดยเฉพาะน้องสาวได้ร้องเรียกหาพี่ชายให้กลับมาหาตลอดเวลา
ด้านนายบุญลือ เอี่ยมลออ สมาชิก อบต.หมู่ 3 ตำบลบางปลากด บอกว่า รู้สึกสงสาร เพราะลูกของผู้เสียชีวิตเพิ่งจะคลอดได้ไม่นาน โดยลักษณะนิสัยการขี่รถจักรยานยนต์ของนายสุทัศน์นั้นจะขี่รถเร็ว ที่ผ่านมาเคยถูกจับไปหลายครั้ง และตอนกลางคืนก็จะตั้งแก๊งจับกลุ่มแข่งรถในพื้นที่ ที่ผ่านมาตนได้เคยบอกเตือนอย่าขับขี่เร็ว แต่นายสุทัศน์ก็โกรธตน
ทางแพทย์ได้เข้าทำการชันสูตรและถ่ายภาพที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะให้อาสากู้ภัยทำการเก็บกู้ศพพร้อมชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายเต็มพื้น และปล่อยให้รถได้สัญจรได้ปกติ
ทั้งนี้ ชาวบ้านบอกว่า จุดดังกล่าวมักเกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากจุดนี้ถนนเป็นลักษณะทางโค้งหักศอก โดยเฉพาะช่วงกลางคืนในถนนเส้นเดียวกัน ไฟส่องสว่างไม่เพียงพอ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ก็เพิ่งเกิดอุบัติเหตุรถชนนักศึกษาเสียชีวิต จึงอยากฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนที่ใช้รถใช้ถนน
