สส.ก้าวไกล ฟาด นายกฯติดกระดุมเม็ดแรกผิดตั้งแต่ตั้ง ผบ.ตร.อาวุโสน้อย

3 เม.ย. 67

สส.ก้าวไกล ฟาด นายกฯติดกระดุมเม็ดแรกผิดตั้งแต่ตั้ง ผบ.ตร.อาวุโสน้อย คิดให้ดีเด้ง 2 ตร.ใหญ่ ทำถูกแล้วหรือไม่ ปล่อยปัญหาคาราคาซัง 

วันที่ 3 เม.ย. 67 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาฯ ญัตติอภิปรายทั่วไป เพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 

น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.พรรคก้าวไกล ลุกขึ้นอภิปรายโดยแนะนำตัวว่า ตนเป็นคุณแม่ลูก 2 และภรรยาตำรวจที่ถูกธำรงวินัย ขออภิปราย นายเศรษฐา ทวีสินนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ที่กำกับดูแล ก.ตร.และ กตช. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยตรง 

ถือว่ายุคนี้เป็นยุคที่ตกต่ำที่สุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเกิดอะไรขึ้นหากตำรวจที่มีหน้าที่พิทักษ์ไว้ซึ่งกระบวนการยุติธรรม กลายเป็นสนิมที่เกาะกินภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติเสียเอง สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย และนายกฯเศรษฐา 

น.ส.ศศินันท์ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีสั่งเด้ง 2 นายตำรวจใหญ่แห่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า ตนอยากจะชวนให้ สส.ฉุกคิดว่า การกระทำของนายกฯถูกต้อง เหมาะสม ทำดีทำถึง ช้าไปหรือไม่ หรือเป็นแค่มวยล้มต้มคนดู กวาดปัญหาไว้ใต้พรม หรือฟอกขาวสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือไม่ เป็นรัฐบาลเพื่อใคร พร้อมได้ไล่ไทม์ไลน์สมภูมิแย่งชิงตำแหน่ง ผบ.ตร. ตนให้นายกรัฐมนตรีอธิบายถึงเหตุผลการแต่งตั้ง ผบ.ตร. "ต.เต่า" ที่มีความอาวุโสน้อยกว่าคนอื่น มีความรู้ความสามารถเหนือกว่าคนอื่นอย่างไร ถ้าอธิบายไม่ดีต้องรับผิดชอบ 

เพราะเป็นการแต่งตั้งที่ขัดกับ พ.ร.บ.ตำรวจหรือไม่ รวมถึงโทรศัพท์ลึกลับที่ปลายสายบอกว่าทำให้จบวันนี้ จะตอบสังคมอย่างไร การแต่งตั้ง ผบ.ตร.เป็นการกลัดกระดุมเม็ดแรกที่ผิด ทำให้พินาศสันตะโรจนถึงทุกวันนี้ จนมีข่าวลือหนาหูถึง "พล.ต.อ.จ.จาน"อีกคนที่ fast track มาเหมือนกันว่าเป็น ผบ.ตร.คนต่อไป เพราะคนนี้ประวัติก็ไม่ธรรมดา มีความสนิทสนมกับบ้านป่ารอยต่อ และบ้าน The Moon shine to the Land แล้วไม่นานมานี้มีภาพไปคุกเข่าต่อหน้าคุณหญิงท่านหนึ่ง และยังไม่รวมไปต้อนรับผู้ที่อยู่ระหว่างพักโทษใน จ.เชียงใหม่ กลายเป็นศึกช้างชนช้าง มีหรือหญ้าแพรกจะไม่แหลกลาญ 

น.ส.ศศินันท์ กล่าวต่อว่า การแต่งตั้ง ผบ.ตร.ที่เขาลือกันว่ามีใบสั่ง ของนายเศรษฐาทำให้เกิดความวุ่นวาย ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติจนทำให้เกิดสำนักงานตำรวจแห่งชาติสาขา 2 ที่สโมสรตำรวจ ที่ "พล.ต.อ.จ.จาน" เรียกทดสอบอำนาจตัวเอง เรียกตำรวจมารายงานตัว และแน่นอนว่าเป็นที่ทราบกันดีกันดีว่า คนๆนี้นัดเช้ามาบ่ายนัดบ่ายมาดึก จนเกิดเหตุสลดต่อ ผกก.สภ.ท่านหนึ่ง ที่เสียชีวิตระหว่างรอรายงานตัวต่อ "พล.ต.อ.จ.จาน" ที่สโมสรตำรวจ สาเหตุคือพักผ่อนไม่เพียงพอ 

ดังนั้นสาเหตุเหล่านี้นายกฯ ปฏิเสธไม่ได้ว่าการแต่งตั้ง ผบ.ตร.ครั้งนั้นนำไปสู่ เหตุการณ์วุ่นวายแบบนี้ อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตนจึงอยากถามว่าในฐานะนายกฯจะรับผิดชอบอย่างไร รวมถึงการวิ่งเต้นตำแหน่งในพรรคเพื่อไทย นายกฯก็เคยหลุดปากพูดว่า "ผู้กำกับใหม่ผมก็มั่นใจว่าคงมีผู้ผิดหวังมากกว่าผู้สมหวังในห้องนี้ที่ขอตำแหน่งกันไป เพราะรู้สึกว่าขอมาเยอะเหลือเกิน แต่ก็มีไม่น้อยที่สมหวัง" 

ซึ่งตั๋วตำรวจ ประชาชนเข้าใจอยู่แล้วว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง แต่สิ่งเหล่านี้กลับหลุดออกมาจากปากนายกฯ ผู้ซึ่งควรจะต้องมีความรับผิดชอบ มีอำนาจหน้าที่มากกว่านี้ทั้งที่เปลี่ยนรัฐบาลไปแล้ว สิ่งนี้ทำให้ประชาชนอดสงสัยไม่ได้ว่า สรุปแล้วตั๋วช้าง ตั๋วนิด ตั๋วเพื่อไทย ตั๋วใบไหนใหญ่กว่ากันแน่ ตนจึงขอฝากข้อซักถามไปยังนายก ว่าการแต่งตั้งผู้กำกับใหม่ที่พูดถึงในที่ประชุม สส.เพื่อไทย ซึ่งในขณะนั้นผลการแต่งตั้งยังไม่เสร็จสิ้นท่านรู้ได้อย่างไรว่าใครสมหวังใครผิดหวัง เพราะกระบวนการแต่งตั้งคือวันที่ 1 ธ.ค.66 แต่นายกฯพูดในวันที่ 11 พ.ย. 66 

น.ส.ศศินันท์ ยังกล่าวถึงเงินที่ซื้อขายตำแหน่งว่า ตนได้หาข้อมูลมาว่ารองผู้กำกับที่ได้เป็นผู้กำกับ เตรียมไว้เลย 10 ล้านบาท ยุทธจักรใส่สีกากีมีเม็ดเงินมหาศาล หมุนเวียนอยู่มาก เพราะเงินที่จ่ายค่าตำแหน่งไปสุดท้ายก็จะรับคืนผ่านเงินนอกบัญชี เรื่องส่วย เรื่องตั๋ว ที่ล่าสุดนายตำรวจสูงสุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติแฉกันผ่านสงครามตัวแทน เส้นเงินเว็บพนันที่อาจจะเชื่อมโยงถึง "พล.ต.อ.ต.เต่า" ยังมีคำถามว่าในฐานะนายกฯ คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงที่ตั้งขึ้นมาดำเนินการอะไรไปแล้ว คุ้มครองผู้ให้ข้อมูลอย่างไร นี่เป็นเรื่องใหญ่ 

อย่าปล่อยให้ประชาชนสงสัยว่าเบื้องหลังภายใต้สงครามครั้งนี้ มีใครที่ได้หรือเสียประโยชน์ ซึ่งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงที่ตั้งขึ้นมา 2 ใน 3 ของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมา ก็เป็นก.ตร.ที่ยกมือเลือก ผบ.ตร.คนนี้ขึ้นมา ประชาชนจะเชื่อมั่นได้อย่างไร ดังนั้นการใช้อำนาจเด้ง 2 ตำรวจใหญ่ของนายกฯ ไม่ได้ทำให้เกิดการปฏิรูปวงการตำรวจ 

นอกจากนายกรัฐมนตรีจะไม่มีความกระตือรือร้นแก้ปัญหานี้อย่างจริงจังแล้ว และความสัมพันธ์เชิงอำนาจชี้ชัดว่า รัฐบาลเศรษฐา อาจจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากรัฐบาลที่แล้ว เพราะตั้งแต่เกิดเรื่องมา 7 เดือน ก็ปล่อยปัญหาคาราคาซัง ตั้งแต่กำนันนก ส่วยทางหลวง แต่งตั้ง ผบ.ตร. การที่นายกฯจะออกมาตื่นรู้ ออกคำสั่ง เด้งซ้ายเด้งขวา ทั้งที่เป็นประธาน ก.ตร ควบคุมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก่อนหน้านี้ท่านเอาแต่เงียบ ตกใจบ้าง ไม่รู้บ้าง เมื่อรู้แล้วก็มีการสั่งการให้ปิดปากเงียบ อย่าให้ใครต้องมาปรามาสท่านว่า เป็นแค่เหรียญอีกด้านของประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือท่านแก้ปัญหาแบบฉบับบ้านจันทร์ส่องหล้าเท่านั้น

ด้านนายเศรษฐา ลุกขึ้นชี้แจงถึงเรื่องการแต่งตั้งข้าราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่า ในฐานะนายกรัฐมนตรีและเป็นประธาน ก.ตร. ไม่อาจใช้อำนาจในการแต่งตั้งโยกย้าย ผบ.ตร. และรองผบ.ตร. รวมทั้งนายตำรวจระดับชั้นรองลงมาได้เพียงลำพัง แต่อำนาจหน้าที่เป็นของคณะกรรมการตำรวจแห่งชาติ หรือ ก.ตร. เป็นการพิจารณาในรูปแบบ คณะบุคคลร่วมพิจารณา ในส่วนของตนซึ่งเป็นนายกฯ ไม่เคยใช้อำนาจใดครอบงำสั่งการ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจ 

การทำหน้าที่ในฐานะประธาน ก็เปิดกว้างให้คณะกรรมการอภิปรายรายชื่อที่แต่งตั้งอย่างทั่วถึง เปิดเผยไม่มีการรวบรัด เร่งรีบ ยึดหลักนิติธรรม ซึ่งตนมีพยานหลักฐานว่า การประชุมแต่ละครั้งได้ให้อภิปรายอย่างกว้างขวาง  ดังนั้นการที่จะกล่าวหาว่าตนชี้นำ สั่งการ หรือครอบงำใดใดจึงเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องและเป็นเท็จ 

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจในระดับที่ต่ำลงมากว่าผู้บัญชาการในแต่ละภาค ก็เป็นเรื่องที่แต่ละภาคจะพิจารณากันมาและนำเสนอต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายและตนไม่เคยไปชี้นำ และตระหนักดีว่าการให้ความเป็นธรรมในการแต่งตั้งผลลัพธ์จะเกิดกับประชาชนเพราะได้ตำรวจที่ดีประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข ขณะนี้แม้มีปัญหาในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตนเองก็ไม่เคยนิ่งเฉย จึงได้เห็นว่าตนได้แก้ปัญหาทันที อาทิ แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วนเรื่องใดที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมก็ปล่อยให้กระบวนการยุติธรรมดำเนินไปได้โดยไม่มีการก้าวล่วง และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในวันนี้รักษาการ ผบ.ตร.ได้แถลงถึงการดำเนินการกับข้าราชการตำรวจที่ปรากฏเป็นข่าว ถือเป็นกระบวนการตามกฏหมายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

“ขอยืนยันในฐานะนายกฯ และประธาน ก.ตร.จะเร่งรีบแก้ไขและช่วยกอบกู้ภาพพจน์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกวดขันให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติแก้ไขปัญหาที่มีอยู่ ดังจะเห็นได้จากการที่ผมเดินทางไปที่สำนักงานตำรวจไซเบอร์ หรือการตรวจขันเรื่องยาเสพติด ยาบ้า วันนี้ก็มีการประชุมบูรณาการกับหลายฝ่ายเพื่อแก้ปัญหายาบ้ายาเสพติดที่ระบาดอยู่ ขอให้เชื่อมั่นในตัวผม หากท่านมีสิ่งไกลจะเสนอแนะ ผมก็พร้อมรับไปปฏิบัติ ถ้าเป็นข้อเสนอแนะที่ดี ดำเนินการให้เป็นประโยชน์สูงสุดแก่พี่น้องประชาชน ถ้า ลูกน้อง หรือใครก็ตามที่เกี่ยวข้องก็ต้องถูกดำเนินการไปตามกฎหมาย  จิ้งจกทักก็อย่าเป็นจิ้งจกเลยครับ ผมว่าเอาหลักฐานมาเลยดีกว่า เพราะว่าผมพร้อมที่จะดำเนินการทุกอย่างตามกฎหมาย”

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม