“ธรรมนัส” ซัด อย่าด้อยค่าที่ดินส.ป.ก. โวทำราคายางสูงสุดในรอบ 7 ปี  

3 เม.ย. 67

 

 “ธรรมนัส” โว ราคายางพาราสูงสุดในรอบ 7 ปี ซัดอย่าด้อยค่าเปลี่ยนที่ดินส.ป.ก 4-01 ให้เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร จ่อ ยกระดับเท่าโฉนดที่ดิน

 

ร.อ.ธรรมรัตน์ พรมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลุกขึ้นชี้แจง ประเด็น ที่ถูกกล่าวหาว่าราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ว่า ตอนนี้ราคายางพารา สูงสุดในรอบ 7 ปี โดยล่าสุด ราคายางรมควันอยู่ที่ 94.44 บาท ทำให้เกษตรกร ลืมตาอ้าปากได้ และที่สำคัญมีราคาสูงกว่า ประเทศคู่แข่ง แสดงให้เห็นชัดเจนว่าราคายางพาราไทย ชี้นำตลาดโลก ซึ่งราคายางพาราดีดสูงขึ้นเพราะดีมาน ซัพพลาย และนโยบายของรัฐบาลมาถูกทาง จากการตั้งคณะกรรมการ กรอ. ซึ่งมีการพูดคุยกันระหว่างภาครัฐและเอกชน ทำให้ปลายปี 2566 ราคายางดีดขึ้น จนกระทั่งปัจจุบันอยู่ที่  94.44 บาท

ขณะเดียวกัน ร.อ.ธรรมนัส ยังได้ ชี้แจงนโยบายการแปลงที่ดินส.ป.ก 4-01 ให้เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร ว่า ก่อนที่จะมีการเปลี่ยน ที่ส.ป.ก.4-01 ให้เป็นโฉนด ไม่ใช่ว่าคิดแล้วทำ ภายใน 1 เดือน หรือ 2 เดือน แต่เป็นนโยบายของพรรคการเมืองทุกพรรค ที่มีการหาเสียงก่อนการเลือกตั้ง อย่างพรรคพลังประชารัฐก็ประกาศชัดเจน ตั้งแต่ปี 2561-2562  จะเปลี่ยนส.ป.ก.ให้เป็นโฉนดทองคำ และการหาเสียงปี 2566 ก็ประกาศชัดเจน ว่าเราจะเปลี่ยนส.ป.ก. ให้เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร เราทำในสิ่งที่เราให้คำมั่นสัญญา สิ่งเหล่านี้ได้ศึกษาก่อนกำหนด นโยบาย

“ดังนั้นการเปลี่ยนที่ดินส.ป.ก. 4-01ให้เป็นโฉนดฯ ท่านอย่าด้อยค่า ประชาชนที่ถือครุฑเขียว เขากำลังมีความสุข ผมเดินทางไปในพื้นที่ไหลหลายจังหวัด เกษตรกร ผู้ทำกินในพื้นที่ส.ป.ก. ต่างก็มีความสุข กับเอกสารสิทธิ์ ที่เป็นเอกสารครุฑเขียว ที่เขามีความภาคภูมิใจว่าเขาคือคน ที่ได้ร่วมประวัติศาสตร์ ได้ถือโฉนดเพื่อการเกษตร ดังนั้นท่านอย่าเอาโฉนดเพื่อการเกษตร ไปเปรียบเทียบกับโฉนดที่ดิน มันคนละประเภทกัน”

ร.อ.ธรรมนัส ยังชี้แจงอีกว่า โฉนดเพื่อการเกษตรเป็นเรื่องของสิทธิ์ กรรมสิทธิ์ยังอยู่เป็นที่ดินของรัฐ คือเป็นที่ดินของส.ป.ก. ตามมาตรา 36 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติการปฏิรูปที่ดิน ปี 2518 อยู่เหมือนเดิม กฎหมายที่ใช้ในการเปลี่ยนแปลงที่ดินส.ป.ก. 4-01 ให้เป็นโฉนดก็คือกฎหมาย พระราชบัญญัติปฏิรูปที่ดิน พร้อมกับระเบียบของคณะกรรมการปฏิรูปที่ดินที่เกี่ยวข้อง และสปกของแต่ละจังหวัด

ดังนั้นสิทธิ์ในที่ดินที่จะเพิ่มมูลค่า ในส.ป.ก. 4-01 ให้มีมูลค่า ในเรื่องสำคัญ เช่น การเข้าถึงแหล่งทุน เพราะที่ผ่านมาสามารถเข้าได้แค่ธกส. และเมื่อ ธกส.ประเมินที่ดินของส.ป.ก. 4-01 ไม่ถึงร้อยละ 50% เท่ากับมีมูลค่าต่ำมาก เมื่อเปรียบเทียบที่ดินของกรมธนารักษ์ ทั้งๆที่บริบทของบ้านเมืองเปลี่ยนไป

“โดยในวันที่ 10 เมษายนนี้ จะมีการทำบันทึก MOU ธกส.ต้องประเมินที่ดิน ที่เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร เทียบเท่ากับ ที่ดินที่เป็นของกรมธนารักษ์ ก็คือ 90% ถึง 100% นี่คือสิ่งที่ประชาชนที่ถือครุฑเขียว มีความรู้สึกว่าเราไม่ใช่พลเมืองประเภท 2 ที่ถือโฉนดเพื่อการเกษตร และขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับสถาบันการเงินอื่นๆ เพราะฉะนั้น อย่าด้อยค่า จะอภิปรายอะไร ให้ฟังเสียงประชาชน เพราะประชาชนเขาดูอยู่ เขาถูกใจเขาชอบเขารักเมียเขาเขารักลูกเขา คุณจะไปสั่งอย่ารักนะมันไม่มีค่าแต่เขารักของเขา”

และในอนาคตจะเป็นโฉนด ที่สามารถนำไปค้ำประกันได้ เชื่อว่าเมื่อวันนั้นมาถึง ประชาชนจะยิ้มและมีความสุขได้ และ ในยุคที่ผมเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะแปลงที่ดินส.ป.ก.ให้เป็นทรัพย์สินมีมูลค่าได้

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม