เพื่อนเชื่อ "ไอซ์ หีบเหล็ก" มีปมตอนเด็กถูกเพื่อนล้อพ่อแม่เป็นฆาตกร

ความคืบหน้าคดี "ไอซ์ หีบเหล็ก" ก่อเหตุฆาตกรรมโหด ฆ่าฝังดิน ถ่วงน้ำอำพรางศพหญิงสาว 3 ศพ ในพื้นที่ บ้านย่านเพชรเกษม โดยตำรวจได้แต่งตั้ง พนักงานสอบสวนเพิ่มเพื่อเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเอาผิดกับผู้ต้องหา ระบุยังไม่มีเบาะแสศพที่ 4 ว่าถูกฆ่าฝังดินใต้ต้นไม้หรือไม่ ทั้งนี้ เตรียมหากพบหลักฐานใหม่พร้อมเข้าไปค้นอีกรอบ ด้านเพื่อนเชื่อมีปมตอนเด็กถูกเพื่อนล้อพ่อแม่เป็นฆาตกร จากกรณีตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล เข้าจับกุมนายอภิชัย องค์วิศิษฐ์ หรือ ไอซ์ อายุ 41 ปี ลูกชายเจ้าของอดีตตลาดเก่าย่านบางแค ภายในบ้านเดี่ยว สุดซอยเพชรเกษม 47 กรุงเทพฯ หลังการสอบสวนพบว่านายไอซ์ ฆ่าฝังศพ น.ส.กุ๊กกิ๊ก อายุ 22 ปี ไว้บริเวณหลังบ้านของตน นอกจากนี้ยังพบโครงกระดูกอีกกว่า 300 ชิ้น คาดว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 คน และเมื่อวานนี้ (27 ม.ค.) น.ส.บี (นามสมมุติ) หญิงสาวที่เคยตกเป็นเหยื่อของนายไอซ์ ระบุว่า นายไอซ์เคยนัดเจอที่อู่ซ่อมรถของเพื่อน ก่อนใช้อาวุธปืนบังคับพาไปที่บ้านและได้ข่มขืนตัวเอง แต่โชคดีที่เธอหนีรอดออกมาได้ ตามที่นำเสนอข่าวไปนั้น ล่าสุด วันนี้ ( 28 ม.ค.) คุณชมพูนุท ณ พัทลุง ผู้สื่อข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางไปยัง อู่ซ่อมรถดังกล่าว ได้พูดคุยกับนายเจมส์ (นามสมมุติ) เพื่อนของนายไอซ์ กล่าวว่า ช่วงก่อนวันที่ 25 ธันวาคมปีที่ผ่านมา นายไอซ์เข้ามาที่อู่ซ่อมรถตนจริงพร้อมกับผู้หญิงตัวเล็กรายหนึ่ง ซึ่งขณะนั้นเป็นช่วงค่ำประกอบกับตนติดลูกค้าจึงไม่ได้พูดคุยกันมากนัก โดยนายไอซ์เข้ามาเอารถที่ส่งซ่อมไว้ก่อนขับออกไปพร้อมผู้หญิง ซึ่งตนก็เห็นว่านายไอซ์ดูแลผู้หญิงดีไม่ได้มีท่าทีบังคับแต่อย่างใด นายเจมส์ กล่าวต่อว่า ตนเป็นเพื่อนกับนายไอซ์ตั้งแต่เรียนอนุบาลจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ซึ่งตอนเด็กนายไอซ์เป็นเด็กที่น่าสงสาร ถูกเพื่อนล้อเป็นประจำ เพราะขณะนั้นพ่อนายไอซ์เสียชีวิต โดยเพื่อนก็ทราบกันว่าผู้ที่ก่อเหตุคือแม่ของนายไอซ์ ซึ่งเพื่อนก็จะนำปมเรื่องนี้มาล้อ แต่ไอซ์ไม่ได้ตอบโต้กลับเมื่อถูกล้อหนักๆ ก็จะหนีกลับบ้านทันที ซึ่งตนคิดว่าเรื่องนี้น่าจะมีส่วนที่ทำให้ไอซ์เป็นคนเก็บกด โดยหลังจากที่จบชั้นประถมตนกับไอซ์ก็ไม่ได้เจอกัน จนกระทั่ง 2 ปีที่ผ่านมาตนติดคุกข้อหาละเมิดศาล ได้พบกับนายไอซ์ในเรือนจำที่ต้องโทษคดียาเสพติด โดยนายไอซ์เข้ามาทักตนหลังจากนั้นก็ได้พูดคุยกัน จนกระทั่งออกมาจากคุก ตนได้เปิดอู่ซ่อมรถ นายไอซ์ก็เอารถมาซ่อมและทำสีเป็นประจำ ซึ่งทุกครั้งจะมีเลขาส่วนตัวเป็นผู้หญิงมีอายุ คาดว่าน่าจะเป็นลูกจ้างที่บ้านไอซ์โทรมานัดให้ก่อนตลอด โดยในฐานะเพื่อนนายไอซ์ถือเป็นคนดี พูดจาสุภาพเรียบร้อย ไม่เคยแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวออกมาให้ตนเห็น โดยตนพอทราบว่าเพื่อนติดยาเสพติดแต่ไม่คิดว่าจะรุนแรง และไม่เคยรู้เรื่องการใช้ความรุนแรงกับผู้หญิงมาก่อน เพราะที่ผ่านมาตนเห็นนายไอซ์ดูแลผู้หญิงเป็นอย่างดี ส่วนตัวจึงไม่คาดคิดว่าเพื่อนจะกล้าก่อเหตุฆ่าผู้หญิงถึง 3 คนและอำพรางศพเอาไว้ภายในบ้าน นอกจากนี้นายเจมส์ ระบุว่า นายไอซ์เป็นคนชอบปืน ที่ผ่านมาก็จะชอบพูดเรื่องปืนกับตนและเล่าว่าชอบซ้อมยิงปืนที่บ้าน ซึ่งตนก็คิดว่าเพื่อนน่าจะซ้อมบริเวณหลังบ้านเพราะบ้านนายไอซ์มีพื้นที่กว้าง แต่ไม่คิดว่าเพื่อนจะซ้อมยิงในบ้านจนเพดานทะลุตามที่มีข่าวออกมา นายเจมส์ยังกล่าวว่า ตนไม่คิดว่านายไอซ์จะค้ายาเสพติดด้วย เพราะบ้านนายไอซ์มีฐานะอยู่แล้ว ตนเคยเห็นสลิปบัญชีธนาคารของนายไอซ์มียอดเงินสูงถึง 100 ล้านบาท ซึ่งตนก็มองว่าเป็นเรื่องปกติเพราะก่อนหน้านี้นายไอซ์เคยเล่าให้ตนฟังว่าที่บ้านขายที่ดินไปราคาสูงหลัก 1,000 ล้านบาท โดยนายไอซ์ก็น่าจะได้ส่วนแบ่งมาและที่เหลือป้าน่าจะเป็นคนเก็บเอาไว้ โดยนายเจมส์ ระบุว่าตนตกใจมากหลังจากที่ทราบข่าวว่าเพื่อนถูกจับ ซึ่งส่วนตัวก็อยากไปเยี่ยมเพื่อนเพราะเป็นห่วงแต่กลัวกระแสสังคมจะมองว่าตนมีส่วนรู้เห็นจนถึงตอนนี้จึงไม่ได้คุยกับเพื่อนแต่อย่างใด ทั้งนี้ พ.ต.อ.จิรกฤต จารุนภัทร์ ผกก.สวัสดิภาพเด็ก และสตรี เปิดเผยว่า ตำรวจยุติปฏิบัติการค้นหาแล้ว หลังพบโครงกระดูกกว่า 300 ชิ้น ในบ่อน้ำบ้านไอซ์ หีบเหล็ก และคาดว่ามีคนเสียชีวิตอย่างน้อย 3 คน เนื่องจากข้อมูลการสืบสวนได้เบาะแส เพียงเท่านี้ คือมีหญิงสาวหายไป 2 คน และตอนนี้พบหมดแล้ว ส่วนกระแสข่าวที่บอกว่า มีถูกฝังใต้ต้นมะม่วงใกล้สุสานภายในบ้านนั้น เป็นข่าวที่ผู้คนในชุมชนพูดกัน แต่หากหากมีพยานที่เชื่อถือได้ มาให้ข้อมูลใหม่ ว่ามีคนหายสาบสูญไปในบ้านหลังนี้อีก ก็อาจเปิดปฏิบัติการค้นหาอีกได้