งมหอยในลำคลอง ผงะเจอโครงกระดูกมนุษย์ปริศนา คาดเป็นคนในพื้นที่

25 มี.ค. 67

สองผัวเมียงมหอยในลำคลอง ผงะเจอกระดูกคล้ายกระดูกมนุษย์ แจ้งตำรวจตรวจสอบ คาดเป็นคนในพื้นที่ ที่หายปริศนาครอบ 1 ปี

 

เมื่อเวลา16.00 น.(25มี.ค.67) ตำรวจสภ.เมืองพัทลุง เข้าตรวจสอบโครงกระดูก หลังชาวบ้านออกงมหอยในลำคลองนาโหนด ม.3 ต.นาโหนด อ.เมือง พบโครงกระดูกต้องสงสัยว่าเป็นกระดูกมนุษย์

ที่เกิดเหตุโดยพบว่าโครงกระดูกถูกนำขึ้นมาจากลำคลอง วางไว้บนเสื้อ คาดว่าเป็นกระดูกชิ้นส่วนข าแต่ไม่สามารถยืนยันว่าเป็นกระดูกสัตว์หรือมนุษย์

สอบถามนายชำนาญ แย้มนัยนา อายุ 60 ปี บอกว่า ก่อนพบโครงกระดูก ตนเองพร้อมภรรยาได้ลงงมหาหอยในลำคลอง ขณะที่กำลังงมหาอยู่นั้น เจอกระดูกชิ้นใหญ่ ไม่มั่นใจว่าเป็นกระดูอะไร จึงได้โยนขึ้นมาบนตลิ่ง ต่อมาขณะที่ภรรยางมหาห่างจากตนเองประมาณ 20 เมตร ก็เจอชิ้นส่วนกระดูกขนาดเล็กอีกชิ้น เมื่อเจอทั้ง 2 ชิ้น ภรรยาบอกว่ากลับบ้านเถอะวันนี้เจอแต่กระดูก

ขณะที่ภรรยานายชำนาญ เล่าว่าก่อนลงงมหาหอยกับสามีนั้น ตนรู้สึกขนลุกและได้คิดขึ้นมาในใจว่า “ไอ้ดอยเห้อถ้ามมึงอยู่แถวนี้ขอให้เจอชิ้นส่วนมึงนะ เพราะมึงหายออกจากบ้านไปเป็นปีแล้วไม่ทราชะตากรรมหรือถูกฆ่าทิ้งที่ไหน แม่และญาติทุกคนเป็นห่วงมึงขอให้มึงส่งสัญญานมาให้เถอะ เจอแต่กระดูกก็ยังดี” พอลงในลำคลองเจอกระดูกดังกล่าว แต่ตนเองก็ไม่มั่นใจนะว่าเป็นกระดูกอะไร

มีรายงานว่าสำหรับนายดอย หรือ เจษฎา สุวรรณรัตน์ อายุ 40 ปี หายออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2566 พร้อมรถสามล้อพ่วงข้างใส่เสื้อคอกลมสีน้ำตาลกางเกงขายาวรองเท้าบู๊ท โดยไม่ทราบชะตากรรม หวั่นจะถูกอุ้มฆ่า เพราะก่อนที่จะหายตัวได้เคยถูกยิงมาแล้ว แต่สามารถหนีได้อย่างปลอดภัย หลังจากนั้นไม่นานได้หายตัวไปโดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เพียงลงบันทึกประจำวันไว้

ต่อญาติได้ช่วยกันออกตามหาตามสถานที่สงสัยสระน้ำบ่อเลี้ยงปลาในบริเวณพื้นที่โดยรอบที่คาดว่าสงสัยในหมู่บ้าน โดยประสานเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยพัทลุงและญาติช่วยกันงมหาแต่ก็ไม่พบหลักฐาน

แต่จนถึงวันนี้ครบรอบ 1 ปีกับ 2 วัน ก็ยังไม่ทราบชะตากรรม โดยก่อนหน้านี้ทางตำรวจชุดสืบสวนพบว่านายเจษฎา สุวรรณรัตน์ ที่หายตัวไป มีการเชื่อมโยงกับกลุ่มค้ายาเสพติดในพื้นที่ และเจ้าตัวก็เป็น 1 ในผู้เสพ แต่ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสืบผู้ต้องสงสัยมาดำเนินคดีได้แต่อย่างได

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส