เตือนแล้วก็ยังพากันเผา ตาวัย 76 หวิดดับเผาตอซังข้าว สำลักควันเป็นลมฟุบกลางทุ่ง โชคยังดีมีคนช่วยทัน
19 มี.ค. 67 อาสาสมัครสัจจะพุทธธรรมกบินทร์บุรี ได้รับแจ้งมีชายผู้สูงอายุเผาตอซังข้าวบริเวณกลางทุ่งนา ก่อนสำลักควันเป็นลมฟุบกลางกลุ่มควันและเปลวเพลิง หวิดถูกย่างสดได้รับบาดเจ็บถูกไฟคลอกบริเวณขาจึงลงทำการตรวจสอบและช่วยเหลือ
บริเวณที่ได้รับแจ้งอยู่บริเวณทุ่งนาริมถนนในหมู่บ้านหนองโพน หมู่ 13 ตำบลวังดาล อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี พบตาเรือง อายุ76 ปี มีสภาพถูกไฟคลอกบริเวณศีรษะเส้นผมหยิกงอ จนถึงหนังหัวบริเวณใบหน้าด้านซ้ายมีเศษเขม่าตอซังข้าวข้าวสีดำติดบริเวณใบหน้าเสื้อและกางเกงและฝั่งซ้ายมีร่องรอยไฟไหม้จนฉีกขาด บริเวณขาซ้ายมีรอยแผลไฟคลอกตั้งแต่ข้อเท้าขึ้นมาบริเวณน่อง ทั้งยังพบว่าคุณตาเรืองมีสภาพอิดโรยอย่างเห็นได้ชัดก่อนที่ทางอาสากู้ภัยจะนำคุณดาวเรืองส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษา โดยในขณะที่นำดาวเรืองส่งทำการรักษาอยู่นั้นไฟก็ยังโหมลุกไหม้อยู่บริเวณกลางทุ่งนาอยู่ ต่อมาได้มีชาวบ้านในพื้นที่โทรแจ้งหน่วยป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยองค์การบริหารส่วนตำบลวังดาลเข้าระงับเพลิงที่กำลังลูกไหม้
จากการสอบถามตาเรืองได้กล่าวว่า ตนมาเผาตอซังข้าวแล้วลมมันเปลี่ยนทิศกลุ่มควันจึงพัดมาใส่ตนตนจึงมีอาการเวียนหน้าและล้มฟุบลงซึ่งคิดว่าตอนนั้นตอนคงไม่รอด
ด้าน นายทวีศักดิ์ ชาวบ้านที่เข้าไปช่วยตาได้กล่าวว่า ตอนนั้นตนกำลังดับไฟอยู่บริเวณข้างบ้านต่อมาจึงขึ้นไปด้านบนบ้านจึงหันไปเห็นคุณตานอนอยู่บริเวณต้นตาลโดยในช่วงของต้นตาลนั้นหญ้าไม่เยอะ จากนั้นทางคุณตาได้ยกมือขึ้นมาแล้วก็ฟุบลงไปตนกับเพื่อนจึงได้รีบลงไปช่วยโดยอุ้มออกมา ให้ตานั่งพักห่างจากจุดที่เกิดเพลิงไหม้ประมาณ 100 เมตร ซึ่งหากตนไม่เห็นตาก็คงจะถูกไฟไหม้ไม่รอดชีวิตเป็นแน่
ทั้งนี้บริเวณที่เกิดเหตุนั้นเป็นทุ่งหญ้ากว้างขนาดใหญ่ ซึ่งพบว่ามีชาวบ้านในพื้นที่มักจะมีการจุดไฟเผาตอซังข้าวกันในพื้นที่เป็นประจำ ทั้งที่ทางผู้นำหมู่บ้านผู้ใหญ่บ้านได้แจ้งเตือนประกาศตามสายว่าไม่ให้มีการเผาตอซังข้าว แต่ก็ยังมีผู้ที่แอบจุดเผาเป็นประจำ เบื้องต้นหลังจากที่ทางอาสากู้ภัยนำร่างนายบุญเรืองที่มีอาการบาดเจ็บอย่างที่กล่าวมาไปทำการรักษาพยาบาลตอนนี้ทางนายเรืองมีอาการดีขึ้นก่อนที่จะติดต่อญาติให้ไปรับตัวกลับมารักษาตัวที่บ้าน
