เปิด 11 รายการสำคัญ ที่กู้ขึ้นมาได้จากเรือหลวงสุโขทัย สั่งยุติการค้นหาก่อนปล่อยจมทะเล

12 มี.ค. 67

ปิดภารกิจ 19 วัน ปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตราย เรือหลวงสุโขทัย กู้สิ่งสำคัญกลับขึ้นมาได้ 11 รายการ ก่อนปล่อยจมใต้ทะเลตลอดกาล

พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วยเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการค้นหาและตรวจวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัยบนเรือ Ocean Valor โดยมีพลเรือเอก ชาติชาย ทองสะอาด ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ให้การต้อนรับ โดยภายหลังการตรวจเยี่ยมฯ ผู้บัญชาการทหารเรือได้มอบหมายให้ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ ในฐานะผู้อำนวยการ กองอำนวยการค้นหาและปลดวัตถุอันตรายเรือหลวงสุโขทัยเป็นผู้แถลงข่าวปิดการปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตราย เรือหลวงสุโขทัย บนเรือหลวงอ่างทอง กลางอ่าวไทย โดยมีผู้ร่วมแถลงข่าว ประกอบด้วย พลเรือตรี วิชชุ บำรุง ผู้บังคับหมวดเรือปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตราย เรือหลวงสุโขทัย เรือเอก Will Rittenhouse ผู้อำนวยภารกิจ (Mission Commander) ของชุดประดาน้ำผสม ทร. - ทร.สหรัฐฯ เรือตรี ธงบุญ เพ็งแก้ว นักประดาน้ำ ทร.และทำหน้าที่นายทหารติดต่อในชุดประดาน้ำผสม ทร. - ทร.สหรัฐฯ

430333355_835104165318568_274

สำหรับ เรือหลวงสุโขทัย ​จมอยู่ที่ความลึก 50 เมตร ในทางทิศตะวันออกของท่าเรือประจวบ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 22 ไมล์ทะเล หรือ 39.6 กิโลเมตร จากการตรวจสอบ ไม่พบการรั่วไหลของน้ำมันหรือสารเคมีต่างๆ ​ทั้งนี้กองทัพเรือ ได้จัดตั้งกองอำนวยการค้นหาและปลดวัตถุอันตราย เรือหลวงสุโขทัย ที่อาคารสำนักงานท่าเรือประจวบ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีกำลังประกอบด้วย เรือของ กองทัพเรือ จำนวน 7 ลำ เฮลิคอปเตอร์ 2 เครื่อง เรือกู้ซ่อม Ocean Valor ของสหรัฐฯ

430296376_835104131985238_722

ชุดประดาน้ำจำนวน 2 ชุดได้แก่ ชุดประดาน้ำผสม ทร. - ทร.สหรัฐฯ ประกอบด้วยนักดำฝ่ายละ 7 นาย รวม 14 นาย ใช้เรือ Ocean Valor เป็นฐานปฏิบัติการ และใช้อุปกรณ์การดำระบบ Surface Supply Air Equipment หรืออุปกรณ์ส่งอากาศจากผิวน้ำให้นักดำที่สวมหัวครอบดำน้ำ และชุดประดาน้ำ กองทัพเรือ จำนวน 40 นาย ใช้ เรือหลวงมันใน เป็นฐานปฏิบัติการ และใช้อุปกรณ์ดำน้ำแบบ SCUBA ผลการค้นหาผู้สูญหายที่อาจติดอยู่ในเรือ จำนวน 11 ห้อง รวมถึงทุกจุดที่นักประดาน้ำจะสามารถดำน้ำเข้าไปตรวจสอบได้ และพื้นที่โดยรอบเรือ

432203777_835104188651899_128

ผลปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตรายวันที่ 19 ซึ่งเป็นวันสุดท้าย ปรากฏว่าไม่พบร่องรอยของกำลังพลผู้สูญหาย ทั้ง 5 นายแต่อย่างใด ส่วนผลการปลดวัตถุอันตรายและการทำให้ยุทโธปกรณ์ที่สำคัญของสหรัฐ หมดขีดความสามารถ จำนวน 3 รายการคือ อาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้นฮาร์พูน และ ตอร์ปิโด MK-309 โดยทำให้ระบบควบคุม รวมทั้งท่อยิงหมดขีดความสามารถ และเครื่องมือสื่อสาร จำนวน 21 รายการ ในห้องวิทยุ หมดขีดความสามารถ

นอกจากนั้น ยังสามารถนำวัตถุของเรือขึ้นมาได้จำนวน 11 รายการ ได้แก่ ป้ายชื่อเรือหลวงสุโขทัย พญาครุฑประจำเรือ พุทธรูปประจำเรือ พระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แผ่นนูนรูปเสด็จเตี่ย ระฆังเรือ ธงราชนาวีผืนใหญ่ เสากระโดงเรือ สมอเรือ ป้ายขึ้นระวางประจำการเรือ และป้ายรายนามผู้บังคับการเรือ

432112325_833636202132031_183

สำหรับเรือหลวงสุโขทัย ในปัจจุบันอยู่ในสถานะที่ไม่มีผลกระทบต่อการเดินเรือ หลังจากที่ได้ตัดเสากระโดงเรือความสูง 10 เมตรออก ทำให้ความสูงของเรือลดลงส่งผลให้มีความปลอดภัยต่อการเดินเรือเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ความลึกจากผิวน้ำถึงส่วนที่สูงที่สุดของเรือระยะ 27 เมตร เพิ่มเป็นระยะ 37 เมตร ทำให้เรือหลวงสุโขทัย ไม่มีวัตถุและสิ่งที่มีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ไม่มีวัตถุอันตรายต่อคนและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเล รวมทั้งไม่มีขีดความสามารถทางทหารที่จะสามารถนำไปใช้ได้อีก

สรุปผลการปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตราย เรือหลวงสุโขทัย บรรลุภารกิจและวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ 4 ประการ ได้แก่ การค้นหาผู้สูญหาย การตรวจสอบวัตถุพยาน การปลดวัตถุอันตราย และการนำวัตถุที่มีคุณค่าทางจิตใจของเรือหลวงสุโขทัย ขึ้นมา ซึ่งการปฏิบัติการจำนวน 19 วัน นักดำทั้งหมดมีความปลอดภัย ถือเป็นความสำเร็จในการปฏิบัติงานร่วมกันของ ทร.ไทย และ ทร.สหรัฐฯ ซึ่ง ทร.ไทย ต้องขอขอบคุณ ทร.สหรัฐฯ เป็นอย่างยิ่ง ที่ได้ให้การสนับสนุนและช่วยเหลือ ทร. ในครั้งนี้

430290903_835104108651907_446

ทั้งนี้ กองทัพเรือยังไม่มีแผนนำเรือหลวงสุโขทัยขึ้นเหนือผิวน้ำ อาจจอดสงบนิ่งใต้ทะเลลึกตลอดไป ​หลังจากปฏิบัติการค้นหาและปลดวัตถุอันตรายเสร็จสิ้น อย่างไรก็ตาม กองทัพเรือจะดำเนินการจัดสร้างอนุสรณ์สถาน เรือหลวงสุโขทัย โดยใช้อุปกรณ์และชิ้นส่วนของเรือที่ถอดถอนและนำขึ้นมาได้จากการปฏิบัติการครั้งนี้ เพื่อรำลึกถึง เรือหลวง สุโขทัย รวมทั้งความกล้าหาญและความเสียสละของกำลังพลที่เสียชีวิตและสูญหาย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส