แชมป์ หนุ่มกล้ามโต ฮีโร่กะเทยไทย ยอมรับผิดเห็นกะเทยฟิลิปปิส์ดูถูกคนไทยจึงโกรธแค้นและร่วมทำร้าย มองว่ากฎหมายเข้มกับคนไทย อ่อนไหวกับต่างชาติ
จากกรณีเกิดเหตุกะเทยไทยถูกกะเทยฟิลิปปินส์ประมาณ 20 คน หาเรื่องและรุมทำร้ายที่ย่านสุขุมวิท 11 ก่อนจะถูกหยามด้วยการนำคลิปไปเผยแพร่บนโลกออนไลน์ จนเหตุการณ์บานปลาย “ กะเทยไทย ” รวมตัวกันโดยไม่ได้นัดหมายกว่า 1 พันคน เพื่อทวงคืนศักดิ์ศรี กระทั่งเกิดเหตุชุลมุน เมื่อวันที่ 4 มีนาคม ฃ
เหตุการณ์ดังกล่าวมีคนโพสต์แชร์ภาพหนุ่มกล้ามโต ที่เข้าไปช่วยกลุ่มกะเทยไทย จนถูกตำรวจ สน.ลุมพินี ใส่กุญแจมือคุมตัวไปสอบสวนดำเนินคดีพร้อมกับผู้ก่อเหตุชาวฟิลิปปินส์ อีก 2 คน
วันนี้ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายณัฐพร บัวแก้ว หรือ แชมป์ อายุ 29 ปี นักศึกษาชายที่ร่วมในเหตุการณ์และเป็นคนไทยคนเดียวที่ถูกจับดำเนินคดี
นายแชมป์ บอกว่าวันเกิดเหตุตัวเองได้นั่งดูไลฟ์สดเหตุการณ์จนถึงช่วงเวลาตี 1 แล้วเห็นว่าค่อนข้างวุ่นวาย เลยตัดสินใจออกไปที่ซอยสุขุมวิท 11 พอไปถึงก็เห็นกลุ่มกะเทยไทยมารวมตัวกันเต็มไปหมด ซึ่งตอนแรกตัวเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะลงมือ แต่มองดูพฤติกรรมของกะเทยฟิลิปปินส์แล้ว ค่อนข้างจะดูถูกกะเทยไทย จึงรู้สึกโกรธแค้น เมื่อเห็นแล้วก็จึงรู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปด้วย
นายแชมป์ บอกว่า เหตุการณ์ที่ตัวเองเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง แบ่งออกเป็น 4 เหตุการณ์ โดย 2 เหตุการณ์แรก เป็นการช่วยเหลือกะเทยไทย ซึ่งคนแรกได้ปืนขึ้นไปบนที่สูงแล้วตกลงมา ส่วนคนที่ 2 ในช่วงชุลมุนได้เกิดความเข้าใจผิดทำให้ “ คุณพริ้ง “ กะเทยไทยถูกรุมทำร้ายจนล้มลง ตัวเองจึงเข้าไปพยุงขึ้นมา แล้วล็อกคอไว้เพื่อจะพาหลบไปด้านหลัง แต่ก็ไม่สามารถต้านทานแรงพี่ๆกะเทยที่อยู่ในบริเวณนั้นได้ แล้วมีการดึงตัว ” คุณพริ้ง “ หลุดมือไป
สำหรับเหตุการณ์ต่อมา เหตุการณ์ที่ 3 เป็นเหตุการณ์ที่ตัวเองเข้าไปทำร้ายร่างกายกะเทยฟิลิปปินส์ ในช่วงชุลมุน จนถูกตำรวจเข้ามาควบคุมตัวแล้วจับใส่กุญแจมือนำตัวไปขึ้นท้ายรถกระบะตำรวจ จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ที่ 4 โดยระหว่างที่ตัวเองถูกจับใส่กุญแจมืออยู่ ตำรวจก็ได้คุมตัวกะเทยฟิลิปปินส์ขึ้นมาบนรถ ซึ่งตัวเองยืนอยู่จึงได้ใช้เท้าถีบกะเทยฟิลิปปินส์คนนี้ไป 3 ครั้ง
นายแชมป์ ยอมรับผิดในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป แล้วก็ได้เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายแล้ว ส่วนที่พี่ๆกะเทยชื่นชมในโซเชียล ระบุว่า ตัวเองเป็นฮีโร่ในเหตุการณ์นี้ นายแชมป์ บอกว่า ตัวเองไม่ใช่ฮีโร่ แล้วอยากให้ใช้คำว่า ” ฮีโร่ “ กับคนไทยที่เข้าไปช่วยกัน รวมทั้งเหล่า LGBTQ ไทยทุกคน ที่ออกมาปกป้องศักดิ์ศรีของคนไทยจะเหมาะสมกว่า สุดท้ายอยากฝากบอกกับกะเทยฟิลิปปินส์ ว่า อยากให้ออกมาขอโทษในสิ่งที่ทำ และอยากให้ทุกคนที่เข้ามาในไทยรู้ว่า มีสิทธิเท่าเทียมกัน ไม่ควรมารุกล้ำ หรือดูถูกคนไทย
นอกจากนี้ นายแชมป์ ยังฝากถึงตำรวจในการบังคับใช้กฎหมาย เพราะจากเหตุการณ์นี้ ส่วนตัวก็มองว่ากฎหมายไทยค่อนข้างที่จะเข้มและแข็งข้อกับคนไทยมาก แต่ดูอ่อนไหวกับชาวชาติ เหมือนอย่างกับตัวเองที่ทำผิดและถูกจับดำเนินคดีทันที ต่างกับกลุ่มกะเทยฟิลิปปินส์ที่ก่อเหตุทำร้ายคนไทย ที่ขณะนี้ตำรวจสามารถจับกุมตัวได้เพียง 2 คนเท่านั้น ดังนั้นจึงอยากให้กฎหมายไทยคุ้มครองคนไทยที่ถูกทำร้าย ด้วยการเอาคนผิดทั้งหมดมาดำเนินคดีให้ได้ด้วย
หลังให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว นายแชมป์ ได้ถอดเสื้อโชว์กล้ามยืนยันว่าเป็นตัวจริง ทั้งยังโชว์ลายสักยันต์บนแผ่นหลัง จาก 3 สำนัก ประกอบด้วย อาจารย์เทียม วังหนัง , อาจารย์โบ๊ต วัดบางพระ , และอาจารย์เอก วัดบางพระ ซึ่งนายแชมป์ บอกว่า ตัวเองมีความเชื่อและชื่นชอบเรื่องการสักยันต์ โดยยันต์ที่ตัวเองสักก็เป็นยันต์ไทยทั้งหมด.
