ป.ป.ช.ภูเก็ต ลุยหาดยามู บอกตรวจสอบตลอด แต่ไม่ได้ออกสื่อ

5 มี.ค. 67

 

ป.ป.ช.ภูเก็ต ลุยหาดยามู บอกตรวจสอบตลอด แต่ไม่ได้ออกสื่อ ตามเก็บข้อมูลสิ่งก่อสร้างรุกล้ำพื้นที่สาธารณะ จ่อขยายผลไปทั่วทั้งจังหวัด 

วันที่ 5 มี.ค. 67 ที่จ.ภูเก็ต นายสุวัฒน์ เสาวรัญ ผอ.ปปช.ประจำจ.ภูเก็ต พร้อมด้วย ปลัดอำเภอถลาง นายปัญยา สำเภารัตน์ นายกเทศบาลตำบลป่าคลอก และเจ้าหน้าที่ส่วนท้องถิ่นเทศบาลตำบลป่าคลอก ลงพื้นที่ตรวจสอบ ชายหาดยามู ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต บริเวณหน้าวิลล่า ที่กำลังเป็นประเด็นอยู่ในขณะนี้ 

เพื่อเก็บข้อมูล ตามประเด็นที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ ตรงวิลล่าหรู และดูพื้นที่ทั้งหมดว่ามีสิ่งก่อสร้างใดบ้างที่มีส่วนไปรุกล้ำชายหาด และตรวจสอบการรื้อถอนบันไดเจ้าปัญหา และบันไดไม้ทางลงหาดยามู 

นายสุวัฒน์ กล่าวว่า มาดูความคืบหน้าของการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในส่วนท้องถิ่น และอำเภอถลางว่าได้ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว ส่วนกรณี 106ไร่ที่มีการออกเอกสารสิทธิ์มา เราต้องไปดูการตรวจสอบว่ามาโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ต้องขอเวลา เพราะข้อมูลต้องประสานเพิ่มเติมจาก ป.ป.ช. ส่วนกลางว่าข้อมูลที่ได้มากน้อยขนาดไหน เพื่อดำเนินการตรวจสอบและไต่สวนต่อไป วันนี้มาดูจุดที่เป็นประเด็นก่อน และอาจจะประสานทางนายกฯ และทางอำเภอในภาพรวมที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่ตรงนี้ ในอนาคตจะดำเนินการทั้งจังหวัด ถ้ามีประเด็นแบบนี้ 

ตามข้อมูลที่ปรากฏตามสื่อคือ มาดูตรวจสอบตรงนี้ก่อน และก็ขยายผลไปทั่วทั้งจังหวัด ตอนนี้เริ่มมีข้อมูลเข้ามาเรื่อยๆ ทางเราเก็บไว้หมดแล้ว ส่วนเจ้าหน้าที่จะมีการประพฤติมิชอบหรือเปล่า ต้องขอเวลานิดนึง เพราะการตรวจสอบต้องใช้เวลา และอาศัยพยานหลักฐานด้วย ทางเราตรวจสอบมาตลอด เพียงแต่ไม่ได้ปรากฏตามสื่อต่างๆ เรื่องการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบต้องอาศัยข้อมูลพยานหลักฐาน ต้องใช้เวลานิดนึง เจ้าหน้าที่ป.ป.ช.ทำงานอย่างเต็มที่ ต้องดูพยานหลักฐานเป็นสิ่งสำคัญ 

ป.ป.ช.ไม่มีความหนักใจ ทำหน้าที่ตามอำนาจหน้าที่จริงๆ เพื่อพี่น้องประชาชน ถ้ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐไปเกี่ยวข้องโดยปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เราจะต้องดำเนินการทางกฎหมาย 

ส่วนจุดปางช้างของนายเดวิด มีข้อมูลเข้ามาบ้างแล้วทาง ป.ป.ช.ภูเก็ตเองก็ประสานกับภาค 8 และส่วนกลาง จริงๆ การตรวจสอบเหล่านี้ เราตรวจสอบมาตลอด แต่ไม่ได้ปรากฏเป็นสื่อต่างๆ ในการตรวจสอบเหล่านี้ เราต้องให้โอกาสทางผู้ถูกกล่าวหาด้วย ความบริสุทธิ์ของเขา และพิสูจน์ความผิด เรื่องแบบนี้ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ 

นายสุวัฒน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเมื่อเราทราบว่ามีการดำเนินการก่อสร้างบันไดลงมาในพื้นที่สาธารณะบริเวณที่เราไปเจอทางเทศบาล เราต้องตรวจสอบว่าที่ดินที่เขาก่อสร้างโดยที่ทางอำเภอ และที่ดินถลางก็มา เราใช้เจ้าหน้าที่รังวัดตรวจสอบพอรู้ว่าเป็นพื้นที่สาธารณะ ทางเทศบาลก็ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ดำเนินการผิดบุกรุกที่สาธารณะตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารก่อสร้าง เราก็สั่งรื้อถอนและสั่งระงับการใช้บริเวณตรงนั้นและการสั่งรื้อถอนตามกฎหมาย คือสั่งรื้อถอนภายใน 30 วัน แต่ตอนนี้ประมาณ 5-6 วัน ทางโครงการก็เข้ามารื้อถอนเรียบร้อย ซึ่งมีบางเคสที่เป็นลักษณะนี้ให้มีการรื้อถอนภายใน 30 วัน แต่เขาไม่รื้อถอน เขามีสิทธิ์ที่จะยื่นอุทธรณ์คำสั่งทางปกครอง และส่งคำสั่งของอุทธรณ์ไปคณะกรรมการจังหวัดอีกครั้งหนึ่ง 

ด้าน นายปัญยา กล่าวว่า เราทำเรื่องไปหาที่ดินมาก่อนหน้านี้แล้วว่าบริเวณไหนมีการก่อสร้างเข้ามาอยู่ในที่สาธารณะ แต่ปัจจุบันทางที่ดินมาสอบเขต แต่ยังไม่ออกแผนที่ให้เราได้ดำเนินการตามนี้ได้ ต้องรอหลักฐานทางที่ดินอำเภอจะได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป 

หลักฐานในการขออนุญาตก่อสร้างอาคารเป็นของเจ้าของโครงการ แต่ยังไม่ได้เจอกับเจ้าของโครงการพื้นที่ตรงนี้ รวมแล้วประมาณ 10 ตารางเมตร ทั้ง 2 ฝั่ง เมื่อก่อนพื้นที่ตรงนี้เป็นสวนยาง หลังจากนั้นมีการซื้อขายจนมาถึงบริษัทนี้ แล้วทางบริษัทนี้ก็มีการขออนุญาตก่อสร้างแล้วในหลักฐานที่ดินที่ออกเป็น สค.1 ที่มาขออนุญาตไม่มีระบุถนนสาธารณะ นี่คือปัญหาเอกสารที่ดิน นส.3ก ไม่ระบุเป็นถนนสาธารณะทางเทศบาลก็ไม่สามารถดูแลรักษาได้ แต่จริงในสภาพความจริงๆ ประชาชนจะใช้เดินผ่านแปลงนี้ลงทะเล เพื่อไปหากุ้งหอยปูปลา 

หลังจากนี้จะต้องประสานทางโครงการให้เขาอุทิศที่ดินบางส่วนเป็นที่สาธารณะ แต่ไม่แน่ใจเป็นไปได้หรือไม่ แต่ที่ทราบมาว่ามีอยู่ช่วงนหนึ่งทางท้องถิ่นได้มาพูดคุยกับทางเจ้าของโครงการ เขาได้ทำเป็นภาวะจำยอมให้ทางบ้านเข้ามาได้ 

“ที่ตรงนี้ก็เหมือนกับหน่วยงาน ป.ป.ช.พูดเมื่อกี้ จะต้องตรวจสอบที่มาที่ไปของที่ดินระหว่าง นส.3ธรรมดากับ นส.3ก ทางท้องถิ่นจะไม่มีโอกาสรู้เลย”

 

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส