กะเทยปินส์งานเข้า ตม.จ่อสอบวีซ่า วงในแฉมีการตัดราคากะเทยไทย ขโมยของลูกค้าทำภาพลักษณ์ตกต่ำ

5 มี.ค. 67

ตม.จ่อสอบแก๊งกะเทยปินส์ อยู่ในประเทศและทำงานถุกกฎหมายหรือไม่ วงในแฉมีการตัดราคากะเทยไทยครึ่งต่อครึ่ง ขโมยของลูกค้าทำภาพลักษณ์ตกต่ำ

จากกรณีข่าวดังเมื่อคืนที่ผ่านมา พี่กะเทยไทยรวมพลที่ซอยสุขุวิท 11 ปิดล้อมหน้าโรงแรมเพื่อทวงคืนศักดิ์ศรี หลังเพื่อนถูกแก๊งกะเทยฟิลิปปินส์รุมตบ 20 ต่อ 4 จนตำรวจต้องเข้าไประงับเหตุ แต่เมื่อนำตัวผู้ก่อเหตุออกมาจากโรงแรม เกิดการชุลมุนพี่กะเทยไทยฝ่าวงล้อม กระโดดทุ่มตัว ปาข้าวของ มอบซอฟต์พาวเวอร์มวยไทยใส่กะเทยฟิลิปปินส์จนสะบักสะบอม ก่อนที่ตำรวจจะรีบพาผู้ก่อเหตุและผู้เสียหายไปสอบสวนที่ สน.ลุมพินี

ขณะเดียวกัน คุณเอ (นามสมมุติ) เปิดใจเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า พื้นที่ย่านสุขุมวิท11 เป็นที่รู้กันว่าส่วนใหญ่ประกอบอาชีพอะไร กลุ่มกะเทยฟิลิปปินส์เข้ามาทำอาชีพขายบริการมีการเปลี่ยนกลุ่มกันเข้ามา โดยกลุ่มคู่กรณีเพิ่งจะเคยเห็นได้ไม่นาน แต่เมื่อเข้ามาก็มีพฤติกรรมก้าวร้าว ทั้งมองแรง ด่าทอ ยั่วยุกะเทยไทย ทั้งภายในซอยสุขุมวิท 11 และข้างเคียง พื้นที่ดังกล่าวก็มีกะเทยหลายเชื้อชาติแต่ก็ไม่เคยมีปัญหาเหมือนกับประเทศฟิลิปปินส์

1709597667209_1

เมื่อถามว่ากลุ่มกะเทยฟิลิปปินส์ เคยมีการตัดราคา ปาดหน้าเค้ก กะเทยไทยหรือไม่ นางสาวเอ (นามสมมติ) เผยว่า จากที่เพื่อนเล่าให้ฟัง ก็มีการตัดราคา เช่น กะเทยไทย ขาย 3 พันบาท แต่กะเทยฟิลิปปินส์ ขายแบบตัดราคาครึ่งหนึ่งคือ 1,500 บาท และยังพบกะเทยฟิลิปปินส์หลอกลูกค้าว่าเป็นกะเทยไทย มีการฝึกพูดภาษาไทย และไปขโมยของลูกค้า ทำให้ภาพลักษณ์กะเทยไทยเสียหาย

ล่าสุด พลตำรวจตรีวิทวัส ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 เปิดเผยว่า ประสานตำรวจท่องเที่ยวและตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตรวจสอบกะเทยชาวฟิลิปปินส์ว่ามีการกระทำที่ผิดกฎหมายหรือไม่ โดยเบื้องต้นกลุ่มกะเทยชาวฟิลิปปินส์เข้ามาด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว เข้ามาพักที่โรงแรมที่เกิดเหตุเป็นหลัก โดยเข้ามาในเวลาไล่เลี่ยกัน ดังนั้นจะให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตรวจสอบทั้งหมดว่าเข้ามาถูกต้องหรือไม่ อยู่อย่างถูกต้องหรือทำงานอย่างถูกต้องหรือไม่

ส่วนสาเหตุเป็นการเขม่นเมื่อเจอกัน อาจเพราะเชื้อชาติที่ต่างกัน ความเห็นต่างกัน และเหตุดังกล่าวเคยมีการพยายามเจรจาเคลียร์กันไปแล้วหลายครั้งและก็แยกย้ายกันไป แต่ต่อมามีการโพสต์ลงโซเชียล อีกครั้งทำให้มีการรวมตัวกันขึ้นตามคลิปที่มีเหตุชุลมุน

1709631947734

ทั้งนี้มีการแจ้งความไว้ทั้งสองฝ่ายแล้ว และส่งผู้บาดเจ็บทั้งสองฝ่ายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจแล้ว ดังนั้นตำรวจก็จะรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด แต่เบื้องต้นยังไม่มีมีการแจ้งข้อหาทั้งสองฝ่าย และจะต้องตรวจสอบโดยเฉพาะกล้องวงจรปิด และ Body Camera ของตำรวจเพื่อพิสูจน์ทราบตัวบุคคลที่ก่อเหตุทั้งสองฝ่ายให้ได้มากที่สุด โดยส่วนของกลุ่มกะเทยชาวฟิลิปปินส์ ก็จะต้องพิสูจน์ทราบตัวบุคคลให้ได้ทั้งหมดก่อน จึงจะทราบว่ามีบุคคลใดที่หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้วบ้าง และหากคู่กรณีออกนอกประเทศไป ก็มีขั้นตอนดำเนินการอยู่แล้ว ขอให้มั่นใจการทำงานของตำรวจ

รวมถึงเมื่อสอบถามมีกลุ่มผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังกลุ่มกะเทยฟิลิปปินส์หรือไม่ พลตำรวจตรีวิทวัส บอกว่าจะขอตรวจสอบก่อนรวมถึงจะลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่โรงแรมที่เกิดเหตุด้วย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส