ฝ่ายค้านสัญจรเวทีแรก ฟังปัญหา PM2.5 เชียงใหม่

2 มี.ค. 67

ฝ่ายค้านสัญจร คิกออฟจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเวทีรับฟังแก้ปัญหา PM2.5มลพิษทางอากาศ ก่อนรุดเยี่ยมศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าเพื่อรับฟังร่วมกันหาทางแก้ไขปัญหา

ที่ห้องดวงตะวันแกรนด์บอลรูม โรงแรมดวงตะวัน จังหวัดเชียงใหม่ ฝ่ายค้านจัดเสวนา แนวทางและเครื่องมือสำหรับการแก้ปัญหาฝุ่น PM2.5 และมลพิษทางอากาศ โดยเป็นหนึ่งในโครงการผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรพบประชาชนเพื่อรับฟังความคิดเห็นจากนักวิชาการนักศึกษาและประชาชนทั่วไป เกี่ยวกับปัญหาฝุ่น PM2.5 และมลพิษทางอากาศ ซึ่งจะนำไปสู่การผลักดันการแก้ไขทั้งในด้านนโยบาย ด้านกฎหมาย และการดำเนินการตามกระบวนการนิติบัญญัติต่อไป

โดยนายชัยธวัช ตุลาธน ผู้นำฝ่ายค้าน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวเปิดงานในหัวข้อ ฝุ่นเศรษฐกิจพิษการเมือง : เศรษฐกิจการเมืองเรื่องฝุ่นควัน โดยระบุถึงเหตุผลในการเลือกจังหวัดเชียงใหม่เป็นที่แรก เนื่องจากมีประเด็นฝุ่นพิษ PM2.5 ซึ่งตนมองว่าเป็นสถานการณ์เร่งด่วนและสำคัญแม้เราจะไม่ใช่ฝ่ายบริหาร แต่ในฐานะผู้แทนราษฎร เราก็มีบทบาทที่สามารถจะช่วยติดตามและผลักดันมาตรการในการแก้ปัญหาให้กับประชาชนได้

นายชัยธวัช กล่าวต่อว่าเราอยากมาฟังผู้ปฏิบัติงาน และประชาชนในพื้นที่ว่ามองเห็นสถานการณ์ดังกล่าวอย่างไร โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ที่รัฐบาลยกให้เป็นเชียงใหม่โมเดล เพื่อให้ฝ่ายค้านสามารถช่วยติดตามรวมถึงผลักดันได้อย่างสุดความสามารถ

ด้ายนายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ พรรคก้าวไกล บอกว่าพื้นที่ป่ามีอยู่ 2 แบบคือ ป่าอนุรักษ์อยู่ในความดูแลของกรมอุทยานแห่งชาติ และพันธุ์พืช และป่าสงวน ซึ่งมักเข้าใจว่ากรมป่าไม้ดูแล แต่ปัจจุบันกรมการปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ดูแล ปัญหาหลักคือไม่มีงบประมาณในการจัดการไฟป่า

ส่วนในเรื่องของกฎหมายมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติอากาศสะอาดเพื่อประชาชน พ.ศ.…เราได้กำหนดไว้ชัดเจนว่าหากเป็นคณะกรรมการระดับจังหวัด จะให้อำนาจนายก องค์การบริหารส่วนจังหวัดเป็นประธาน และมีตัวแทนจากผู้บริหารท้องถิ่นเป็นกรรมการเพื่อร่วมกันเขียนแผนของจังหวัดขึ้นมา เพื่อให้สอดคล้องกับการของบประมาณอย่างชัดเจน

ส่วนนายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่ากฎหมายของ กทม. ค่อนข้างเพียงพอในการจัดการกับมลพิษทางอากาศ หากอยู่เชียงใหม่จะทราบดีว่าปัญหาเกิดจากการเผาในที่โล่ง แต่ปัญหาหลักใน กทม. มาจากภาคการขนส่ง 80 ถึง 90 เปอร์เซนต์ โดยเฉพาะรถขนส่งขนาดใหญ่ เป็นต้นตอปล่อยควันพิษ จะเห็นได้ว่าช่วงเกิดโควิด-19ระบาดให้ทำงานที่บ้านปริมาณ PM2.5 ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งตนมองว่าวิธีแก้ที่ง่ายที่สุดคือ นำเครื่องกรองออกมาทำความสะอาดหรือเปลี่ยนใหม่ รัฐบาลควรมีการรณรงค์

จากนั้นจะเดินทางไปยังศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าเชียงใหม่ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้สถานการณ์ไฟป่า ปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะจากทางเจ้าหน้าที่เพื่อร่วมกันหาทางแก้ไขปัญหาต่อไป

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม