ไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีอยุธยา เชื่อเกิดจากฝีมือคนเผาทำลายหลักฐาน พบไม่มีสารปนเปื้นในอากาศไม่กระทบชุมชน
ความคืบหน้าเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมี จ.พระนครศรีอยุธยา หลังเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยและเจ้าหน้าที่กู้ภัยระดมฉีดโฟม 6,000 ลิตรเข้าไปในโกดังเก็บสารเคมีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยาตลอด 6 ชั่วโมง จนสามารถควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามไว้ได้ทั้งหมด
สำหรับโกดังดังกล่าวเป็นพื้นที่ปิดทึบทำให้ควันไม่สามารถลอยออกจากโกดังไปได้ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเดินเท้าฉีดโฟมเข้าจากอีกฟากของโกดัง เพื่อดันกลุ่มควันให้ออกทางประตูด้านหน้า ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมากระแสลมได้พัดกลุ่มควันไปทางทิศใต้ของโกดัง ซึ่งเป็นพื้นที่โล่ง ทำให้ประชาชน 200 ครัวเรือนที่อาศัยอยู่ในรัศมี 500 ม.ถึง 1กม.รอบโกดังไม่มีผู้ได้รับผลกระทบ จากเหตุการณ์นี้จึงไม่ต้องมีคำสั่งปิดพื้นที่หรือสั่งการให้อพยพประชาชนออกนอกพื้นที่
ชาวบ้านที่อยู่ตรงข้ามโกดังสารเคมี เล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนตนเองได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นสามครั้ง จากนั้นจึงรีบวิ่งมาดูพบว่าต้นเพลิงมาจากยางรถรถบรรทุก 10 ล้อที่ถูกยึดไว้เป็นของกลางภายในภายในโกดัง แต่ไม่ทราบว่าทำไมถึงลุกลามไปติดยางเก่า ซึ่งเป็นพัสดุปนเปื้อนสารเคมี ทำให้เพลิงลุกลามและกลุ่มควันสีดำจำนวนมาก ส่งผลกระทบกับชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุระยะประมาณ 200 เมตร ครั้งแรกที่ได้รับกลิ่นของสารเคมี มีอาการแสบจมูก แต่ยังไม่ถึงขั้นแสบตา ซึ่งโชคดีลมไม่ได้พัดมาทางบ้านของตนเองจึงยังคงสามารถพักอาศัยอยู่ในบ้านได้
สำหรับโกดังแห่งนี้จาการตรวจสอบพบว่าเป็นโกดังร้างที่ใช้เก็บสารเคมีซึ่งเป็นกรดเข้มข้นหลายชนิดไว้ภายในถังขนาด200ลิตรและ 1,000 ลิตรและสารเคมีอื่นๆรวมประมาณ 4,000 ตัน
รวมทั้งมีสายยางเก่า ซึ่งเป็นวัตถุไวไฟ สำหรับโกดังดังกล่าวได้มีการติดป้ายประกาศจากเทศบาลตำบลภาชี เรื่องขอให้หยุดดำเนินการและงดใช้สถานที่สะสมกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพที่ยังไม่ได้ขออนุญาตประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ จึงขอให้หยุดดำเนินการกิจการและงดใช้สถานที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบ
นายจินดา เตชะศิรินทร์ ผู้อำนวยการกองกฎหมายกรมโรงงานอุตสาหกรรม กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นการเก็บสารเคมีเถื่อน เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว แต่ยังคงมีกลุ่มควันเพียงเล็กน้อย
นายจินดา ผู้อำนวยการกองกฎหมายกรมโรงงานอุตสาหกรรม กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) เผยว่าสำหรับโกดังเก็บสารเคมี เจ้าหน้าที่ได้มีการขยายผลและมีการตรวจยึดสารเคมีดังกล่าวไว้ภายในโกดัง ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการฟ้องร้อง ซึ่งมีผู้ต้องหาหลายรายที่ต้องมีส่วนร่วมในการชดใช้ค่าเสียหาย อยู่ระหว่างรองบประมาณในการทำลาย ซึ่งมีการตั้งงบไว้ 6.9 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณในการทำลายจะออกปี 67 แต่ก็มีการมาเกิดเหตุเพลิงไหม้เสียก่อน ซึ่งเชื่อว่าไม่ได้เกิดขึ้นเอง เชื่อได้ว่าอาจจะเกิดจากฝีมือคนเพื่อทำลายหลักฐาน แต่อย่างไรก็ตามต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้อย่างแน่ชัดเสียก่อน
ส่วนผลกระทบเกี่ยวกับกลิ่นของสารเคมี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมได้นำเครื่องตรวจวัดก๊าซและไอระเหยสารเคมีมาทำการตรวจวัดคุณภาพในอากาศรอบโกดัง ซึ่งไม่พบสารเคมีปนเปื้อนอยู่ในอากาศจึงไม่ส่งผลกระทบกับชาวบ้าน
