บิ๊กเต่า ปัดกลั่นแกล้ง พร้อมเดินหน้าชนทุกรูปแบบ

22 ก.พ. 67

บิ๊กเต่า ปัดกลั่นแกล้ง ยัน มินนี่หลักฐานละเอียด สงสารลูกน้องบิ๊กตำรวจขึ้นเรือผิดลำ ตอนนี้กำลังจะล่ม ด้าน อัจฉริยะ ท้า บิ๊กโจ๊ก สาบานยันความบริสุทธิ์

22 ก.พ.67 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงกรณีการขยายผลสืบสวนสอบสวนคดีเว็บพนันออนไลน์เครือข่ายมินนี่ ว่า ในฐานะที่ตนเองได้รับการแต่งตั้งจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เป็นรองหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน ซึ่ง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เป็นผู้แต่งตั้ง ยืนยันว่ามีอำนาจหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย

ส่วนที่มีการระบุว่ามีเส้นเงินจากเว็บพนัน 200- 300 ล้านบาทนั้น เป็นคนละส่วนกับคดีมินนี่ ซึ่งคดีในส่วนของมินนี่นั้นมีประมาณ 70 ล้านบาท พร้อมตั้งข้อสังเกตด้วยว่าพื้นฐานคนทั่วไปไม่อยากให้คดีไปดีเอสไอ หรือ ป.ป.ช. เพราะตรวจสอบเข้มข้น

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันด้วยว่าที่พนักงานสอบสวนต้องการดึงสำนวนคดีที่มีการร้องทุกข์กล่าวโทษ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.กลับมาไม่ใช่กลั่นแกล้ง แต่เพราะเป็นเรื่องเดียวกัน จึงขอความเมตตา ป.ป.ช.โปรดส่งเรื่องนี้ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ ซึ่งหาก ป.ป.ช.ไม่ส่งสำนวนให้ก็ไม่เป็นไร แต่หากส่งกลับมาก็จะทำให้คดีรวดเร็วขึ้น

ยืนยันไม่ต้องกลัว เพราะไม่ได้กลั่นแกล้งใคร ว่าไปตามตัวบทกฎหมาย ใครผิดก็รับไป ใครไม่ผิดใครไปกลั่นแกล้งก็ถูกฟ้องร้อง และตนเองก็ไม่เอาชีวิตข้าราชการไปเสี่ยง เพราะอีก 6-7 ปีก็เกษียณแล้ว แต่ยืนยันจะทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด

พร้อมยืนยันจะรักษาองค์กร ถ้ากลุ่มผู้ต้องหาไม่มาข่มขู่เจ้าหน้าที่ ข่มขู่จะฟ้อง หรือไม่มาทำร้ายองค์กรบอกเลยว่าไม่ยอม จะเดินหน้าชนทุกรูปแบบ แต่จะชนด้วยหลักฐานและความถูกต้อง โปรดอย่าทำร้ายองค์กรอย่าทรยศองค์กรตัวเอง เหมือนที่ท่านทรยศเจ้านายมาแล้ว

ส่วนที่รอง ผบ.ตร.บอกว่า ทำไมต้องโดนคนเดียว ตนเองก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องโดน ซึ่งเขาต่างหากคือคนที่รู้ดีที่สุด และต้องขอบคุณตำรวจที่ถูกดำเนินคดีที่เก็บหลักฐานไว้ทุกขั้นตอนอย่างละเอียด สงสารน้องน้องเหล่านี้เพราะขึ้นเรือผิด และเชื่อว่าเรือลำนี้กำลังจะล่ม ถ้าขึ้นเรือถูกลำ เชื่อว่าจะเจริญก้าวหน้า เชื่อว่าลูกน้องเหล่านี้ต้องทำตามผู้บังคับบัญชาไม่กล้าบิดพลิ้วแม้แต่น้อย พร้อมระบุอีกว่าลูกน้องที่ถูกแจ้งข้อหาทำตามขั้นตอนละเอียด บันทึกข้อมูลรายละเอียดของการกระทำความผิดไว้ชัดเจนทุกขั้นตอนทุกเดือน

และตนเองเข้าไปเห็นหลักฐานว่ามีตำรวจเกี่ยวข้องว่ามีการกระทำความผิด ตนเองจึงไม่ปล่อยผ่านเอาให้เต็มที่ ถ้าอยากจะฟ้องก็ฟ้อง ยืนยันจะทำข้อมูลตรงไปตรงมา ซึ่งวันนี้ตำรวจผิดก็ต้องว่าไปตามผิด จะมาว่าถูกไม่ได้ และมั่นใจในพยานหลักฐานคดีนี้หากถ้าไม่มั่นใจไม่ทำ

ด้าน นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ระบุว่า ตนเองถูก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และมินนี่ ฟ้องรวม 7 คดี ซึ่งตนเองก็ได้ร้องทุกข์กล่าวโทษพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กับ ป.ป.ช.ในความผิด ม.157 และร่ำรวยผิดปกติไปแล้วด้วยเช่นกัน และ ขอท้าถ้าบอกไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า หรือกล้าไปสาบานดับตนเองที่วัดหงส์ บุรีรัมย์หรือไม่

ส่วนวันนี้ที่มีการแถลงข่าวว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องขัดแย้งสกัดไม่ให้ขึ้น ผบ.ตร. นั้นมองว่าเป็นสิ่งที่คิดไปเอง ดังนั้นขอให้เอาเวลาไปต่อสู้คดีดีกว่า พร้อมฝากถึงข้าราชการตำรวจทั่วประเทศขอให้ลุกขึ้นมาสู้ ขอให้เชื่อว่าการทำงานของผู้บังคับบัญชาเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์โปร่งใสยุติธรรม.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส