ระทึก!รถขนมันอ้างเบรกแตกพุ่งชนร้านขายยาพังยับ เจ้าของรอดตายหวุดหวิด ส่วนคนขับบาดเจ็บสาหัส
20 ก.พ.67 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจหลังเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกมันสำปะหลังเบรคแตกพุ่งชนร้านขายยาในพื้นที่ ตำบลหูช้าง อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งกล้องวงจรปิดจับภาพไวได้เป็นเหตุระทึกเจ้าของร้านที่อยู่ในหน้าร้านและในร้านเฉียดตายทั้งคู่ โดยได้พบนายเตรียมศักดิ์ อายุ 39 ปี แฟนหนุ่มของเจ้าของร้านขายยากำลังนำช่างมาซ่อมแซมบ้านใหม่และได้เปิดเผยถึงอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นว่า รถขนมันสำปะหลังพุ่งเข้าชนร้านขายยาของครอบครัว
โดยเกิดเหตุการณ์ขึ้นเมื่อวันที่ 18 ก.พ. 67 เวลาประมาณเวลา 17.30 น. ที่ผ่านมาและเกิดความเสียหายบริเวณหน้าร้านที่กั้นกระจกพังยับเสียหายทั้งหมดและยังพุ่งชนเพราะรถที่พุ่งเข้าไปในร้านไปตู้ใส่ยาแตกเสียหายอีกเป็นจำนวนมากและยาที่เรียงไว้จำหน่ายนั้นก็เสียหายไปมากรวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท โดยตัวเองกำลังลดน้ำต้นไม้ประดับอยู่หน้าร้าน ส่วนภรรยาก็โชคดีปกติจะนั่งเคาเตอร์ตรงกลางร้านและออกมาจากจุดนั้นเพียง 2–3 นาที เท่านั้นเพื่อมาจัดยาที่ด้านซ้าย ถ้ายังอยู่ที่เดิมคงกลายเป็นศพแน่
ส่วนรถบรรทุกมันสำหลังที่พลิกคว่ำก่อนพุ่งชนเข้าร้านบาดเจ็บสาหัสแขนถูกรถทับกระดูกแตกอาจต้องถูกตัดแขน ขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอุทัยธานีและมีผู้โดยสารมาด้วยติดอยู่ในซากรถด้านหน้ากู้ภัยต้องใช้เครื่อตัดถ่างนำร่างออกมาบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย และความเสียหายอื่นซึ่งเป็นทางราชการไปพุ่งชนเสาไฟฟ้าส่องสว่างได้รับความเสียหายไป 1 ต้น
จากการสอบถามนายณรงค์อายุ 65 ปี คนเห็นเหตุการณ์ที่เป็นร้านขายของชำที่เป็นห้องแถวเดียวกันห่างกันไม่ถึง 10 เมตร เล่าว่า รถบรรทุกขนมันสำปะหลังพุ่งออกมาจากถนนซอยตรงข้ามพุ่งมาชนอย่างรวดเร็วและน่ากลัวและเสียหลักพลิกตะแคงไปพุ่งเข้าชนร้านขายยาดังสนั่นคล้ายกับเสียงระเบิดจนพังสียหายยับ
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ติดต่อกับพนักงานสอบสวน สภ.บ้านไร่ ได้ให้ข้อมูลทางโทรศัพท์ว่า ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุและบันทึกเหตุการณ์ไว้ในเบื้องต้นพร้อมทั้งลงบันทึกประจำวันไว้แล้วและผู้มี่ขับรถบรรทุกขนมันสำปะหลังยังไม่ทราบรายละเอียดมากนัก ต้องรอให้อาการบาดเจ็บดีขึ้นจึงจะได้เรียกตัวมาสอบสวนและดำเนินคดี
ในเบื้องต้นทราบว่าเป็นคนจังหวัดกาฬสินธุ์แต่มาเป็นแรงงานขับรถบรรทุกขนมันสำปะหลังไปส่งโรงรับซื้ออยู่ในพื้นที่ ตำบลหูช้าง ซึ่งเป็นพื้นที่เดียวกับที่เกิดเหตุส่วนความเสียหายนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าคนขับจะชดใช้ความเสียหายแต่ขอเวลารักษาตัวก่อนแล้วจะให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจวัดแอลกอฮอล์ในเลือดรวมถึงหาสารเสพติดซึ่งอยู่ระหว่างรอผลการตรวจหากพบก็จะถูกดำเนินคดีอีก 1 คดี
