ปชป.-รทสช. เสนอญัตติด่วน เรื่อง การถวายความปลอดภัย

14 ก.พ. 67

 

ปชป.-รทสช. เสนอญัตติด่วน เรื่อง การถวายความปลอดภัย “จุรินทร์” ค้านนิรโทษกรรมความผิดมาตรา 112 สส.รวมไทยสร้างชาติ พร้อมใจติดริบบิ้นสีม่วง 

วันที่ 14 ก.พ. 67 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย สส. พรรคประชาธิปัตย์ รวม 25 คน ขอเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาเรื่อง การถวายความปลอดภัย 

โดยนายจุรินทร์ อภิปรายว่า เหตุผลที่ต้องเสนอญัตติด่วนในเรื่องนี้ มีดังต่อไปนี้ 1.เนื่องจากตนและพรรคประชาธิปัตย์ มีจุดยืนชัดเจนเรื่องปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 2.มีจุดยืนต้องการธำรงไว้ซึ่งบทบัญญัติกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองประมุขของประเทศ เช่น มาตรา 112 3.การถวายความปลอดภัย ถือว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวด เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น จึงเป็นเหตุที่ตน และ สส.จำเป็นต้องเสนอญัตตินี้เข้ามา และมิอาจจะเพิกเฉยต่อการกระทำดังกล่าวได้ 

วัตถุประสงค์ของญัตตินี้มี 2 ประการ 1.ประสงค์ให้สภาผู้แทนราษฎรได้มีมติให้ส่งความเห็นของสภาฯ เพื่อให้รัฐบาลรับไปพิจารณาดำเนินการ 2.ประสงค์ให้ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของสภาผู้แทนราษฎร รับไปประกอบการพิจารณาด้วย 

นายจุรินทร์ อภิปรายว่า ตนมีความเห็นต่อพฤติกรรมการคุกคามขบวนเสด็จอย่างน้อย 3 ประการ 1.เป็นการกระทำอันไม่บังควรเป็นอย่างยิ่ง และถือว่าการกระทำที่เกินกว่าที่คนไทยผู้จงรักภักดีทั้งประเทศจะยอมรับได้ เป็นการย่ำยีพระผู้ทรงเป็นหัวใจของประชาชน 2.สะท้อนให้เห็นชัดเจนก็คือว่าการที่ขบวนเสด็จฯ ไม่ปิดถนน ยิ่งสะท้อนพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรโดยชัดแจ้งเป็นประจักษ์ แม้จะต้องทรงงานหนัก ต้องเสด็จให้ทันเวลาก็ตาม 

3.ผู้มีหน้าที่ในการถวายความปลอดภัย นอกจากส่วนราชการในพระองค์แล้ว กลไกสำคัญก็คือรัฐบาล ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้า และมี พ.ร.บ.ถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 โดยเฉพาะระบุไว้ชัดแจ้งใน มาตรา 6 ที่บอกว่าให้หน่วยงานของรัฐทุกแห่งซึ่งประกอบด้วยกระทรวง ทบวง กรม เป็นต้น มีหน้าที่ในการถวายความปลอดภัย หรือร่วมมือในการถวายความปลอดภัย ตนไม่ประสงค์จะทำเรื่องนี้ให้กลายเป็นเรื่องการเมือง แต่ว่านายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาล และในฐานะผู้สั่งปฏิบัติราชการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องยอมรับว่าท่านออกมาส่งสัญญาณแสดงท่าทีความรับผิดชอบค่อนข้างช้าจริงๆ 

นายจุรินทร์ อภิปรายว่า ตนขอเสนอข้อเสนอ 4 ข้อ เพื่อให้สภานี้ได้โปรดพิจารณา และส่งรัฐบาลและกรรมาธิการวิสามัญได้รับไปดำเนินการต่อไป 

ประการที่ 1 รัฐบาลต้องตระหนักในหน้าที่การถวายความปลอดภัย ตามกฎหมายที่กำหนดไว้ รวมทั้งให้เป็นไปด้วยความปลอดภัย สมพระเกียรติ ด้วยความสำนึก กระตือรือร้น จงรักภักดี และควรเร่งรัดดำเนินการทบทวนมาตรการเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมาอีก 

ประการที่ 2 ให้รัฐบาลยึดหลักนิติธรรม บังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด ไม่ว่ากับฝ่ายใด เพื่อทำให้กฎหมายมีความศักดิ์สิทธิ์และไม่เป็นการส่งเสริมการกระทำผิดกฎหมายอีกต่อไปในอนาคต 

ประการที่ 3 ในฐานะที่รัฐบาลมีเสียงข้างมาก ทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและทั้งในกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเรื่องการ ตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม รัฐบาลต้องไม่สนับสนุนให้มีการนิรโทษกรรมความผิดในคดี มาตรา 112 

ประการที่ 4 รัฐบาลควรจะได้ตั้งหลักพิจารณาร่วมกับฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และพิจารณาทุกอย่างอย่างรอบคอบรอบด้านว่า สมควรที่จะมีการปรับปรุง พ.ร.บ.ถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 หรือไม่ โดยเพิ่มเติมให้มีการกำหนดบทลงโทษเป็นการเฉพาะกับผู้ละเมิดพระราชบัญญัติฉบับนี้ 

ขอให้สภาฯได้โปรดพิจารณาส่งความเห็นเหล่านี้ไปยังรัฐบาลเพื่อดำเนินการต่อไปและเพื่อให้ประเทศไทยมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่มีความเข้มแข็งและยั่งยืนสืบไป 

ด้าน นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ได้เสนอญัตติด่วนด้วยวาจาเรื่อง ขอให้รัฐบาลเร่งรัดดำเนินการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมาย ทบทวนระเบียบ แผน และมาตรการถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จให้เหมาะสม ทันสมัย มีการฝึกซ้อม และประชาสัมพันธ์สื่อสารกับประชาชน เพื่อเป็นการถวายความปลอดภัยให้สมพระเกียรติและรักษาไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติ 

นายเอกนัฏ อภิปรายว่า จากเหตุการณ์วันที่ 4 ก.พ. 67 มีการเผยแพร่ทางสื่อมวลชนอย่างกว้างขวาง มีการไปรบกวนก่อกวนขบวนเสด็จ ซึ่งถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความสะเทือนใจให้กับพี่น้องประชาชนคนไทย กรณีนี้หากไม่มีการบริหารจัดการอย่างเร่งด่วน จะทำให้สถานการณ์บานปลาย กระทบต่อความสงบเรียบร้อยศีลธรรมอันดี โดยเฉพาะความมั่นคงของประเทศ จึงตัดสินใจเสนอเป็นญัตติด่วนด้วยวาจา 

นายเอกนัฏ อภิปรายว่า สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ขอเสนอดังนี้ 

1.ขอเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องช่วยบังคับใช้กฎหมายโดยทันที 

2.ใช้พื้นที่ในสภาฯ สะท้อนความคิด อย่างสร้างสรรค์ เพื่อมีข้อสรุปในการทบทวนระเบียบมาตรการต่างๆ รวมถึงแผนการถวายความปลอดภัยแก่ขบวนเสด็จ 

3.การประชาสัมพันธ์ การสื่อสารกับประชาชน ในการถวายความปลอดภัยไม่มีที่ไหนในโลกที่ไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเลย แต่พระมหากรุณาธิคุณ ที่ออกมาคือ ต้องการให้การรบกวนการสัญจรของประชาชนให้น้อยที่สุด ดังนั้นต้องประชาสัมพันธ์กับประชาชน ว่าการถวายความปลอดภัยต่อขบวนเสด็จ สามารถทำอะไรได้บ้าง อาจจะมีผลกระทบอะไรบ้าง และที่สำคัญที่สุดพี่น้องประชาชนจะต้องทำตัวอย่างไร ตนเชื่อว่า มีประชาชนหลายคน ต้องการให้ความร่วมมือและเป็นหูเป็นตาด้วย เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นอีก 

นายเอกนัฏ อภิปรายว่า ตนได้ใช้ตำแหน่ง สส.เปิดพื้นที่แห่งนี้ เพื่อให้มีการอภิปรายอย่างเปิดเผย ได้ส่งสัญญาณผ่านรัฐบาล ไปถึงรัฐบาลถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ทบทวนปรับปรุงสื่อสารแผน และมาตรการต่างๆ เพราะกังวลว่าถ้าเราปล่อยปละละเลย ไม่เข้มงวด จะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว นำไปสู่ความวุ่นวาย เกิดการปะทะกันในหมู่ประชาชน เกิดความแตกแยก 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ ก่อนที่นายเอกนัฏอภิปรายได้มี สส.พรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมใจกันติดริบบิ้นสีม่วง เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดี

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวการเมือง เป็นกระแส