ตำรวจบางเลนรวบแล้ว มือยิงหนุ่ม อายุ 17 ปี กลางที่เปลี่ยวอาการสาหัส เร่งสอบปมก่อเหตุ
จากกรณีคนร้ายขับขี่จักรยานยนต์ประกบยิงนายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ชาวอำเภอบางเลน โดยล่าสุดอาการสาหัส โดยมีการพบร่างของนายเอ นอนแน่นิ่งที่ศีรษะมีร่องรอยบาดแผลฉกรรจ์ ซึ่งเหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกของเช้าวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บริเวณปากทางเข้าวัดลานคา หมู่10 ต.ดอนตูม อ.บางเลน จ.นครปฐม
ล่าสุดวันนี้ 9 กุมภาพันธ์ 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางเลน ได้นำกำลังติดตามแกะร่องรอยหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นวัยรุ่นในพื้นที่และมีปัญหากับผู้ได้รับบาดเจ็บตลอดทั้งคืน กระทั่งช่วงเย็นวันนี้ได้มีการควบคุมตัว คนที่ขับขี่จักรยานยนต์นำมือยิงประกบยิงนายเอ(นามสมมติ)และตัวมือยิงได้ หลังจากสืบค้นจากกล้องวงจรปิด ซึ่งพบรถจักรยานยนต์ รวมถึงผู้ก่อเหตุทั้งสองคนมีการอยู่ที่ร้านค้าของชำใกล้เคียงกัน กระทั่งนำมาสู่การจับกุมและรีบนำตัวมาทำการสอบสวนอย่างเร่งด่วน
โดยจากภาพวงจรปิดที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มา พบว่าผู้ก่อเหตุ 2 คน ได้ขี่รถจักรยานยนต์ โดยมีนายมิ้น (นามสมมติ) อายุ 16 ปีและนายต้า(นามสมมติ) อายุ 16 ปี เป็นผู้ซ้อนท้ายได้ขับขี่มาจอดที่บริเวณหน้าร้านและได้เดินเข้ามาเลือกซื้อของ ไม่นานนายเอ(นามสมมติ) อายุ17ปี ก็ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดเช่นกัน จากนั้นได้เข้าไปเลือกซื้อขนม โดยผ่านคนร้ายทั้งสอง โดยก่อนออกจากร้าน มีลักษณะเหมือนหยุดมองหน้ากัน ซึ่งคนร้ายได้มีการพยักหน้า จากนั้นได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ติดตามออกมาจากร้าน โดยภาพจากกล้องวงจรปิดจับพฤติกรรมในการติดตามตัวได้ก่อนที่จะหายไปในช่วงของทางเปลี่ยว จนไม่นานก็ปรากฏว่าเหยื่อได้ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 ไทยประดิษฐ์เข้าที่ท้ายทอย และนอนแน่นิ่ง ก่อนมีการติดตามตัว จนพบว่าไม่ได้สติดังกล่าว.
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังควบคุมสองผู้ต้องหาสอบปากคำอย่างเคร่งเครียด ซึ่งมีแม่ของนายมิ้นท์ ขี่รถมารอลูกชายด้วยความเครียดและปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงแสดงความไม่พอใจในการติดตามข่าวดังกล่าว ขณะที่ตำรวจได้มีการตรวจสอบข้อมูลว่าผู้ถูกยิงและคนร้ายนั้นเคยมีความบาดหมางส่วนตัว หรือบาดหมางเป็นลักษณะของแก๊งวัยรุ่นที่ไม่ถูกกันมาก่อนหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่การมองหน้าแล้วไม่พอใจกันที่ร้านขายของ ก่อนจะตามยิงในพื้นที่เปลี่ยว ห่างจากร้านค้าประมาณเพียง 500 เมตร เท่านั้น งต้องรอสรุปผลและดูอาการอาการของผู้ที่ถูกยิงอย่างใกล้ชิดเนื่องจากอยู่ในอาการวิกฤติ.
