อิงฟ้า วราหะ เผยปีนี้คิวงานแน่นแล้ว พร้อมแจงดราม่า! ทำไมเป็นนางงามต้องขายของ เพราะมองเรื่องธุรกิจ
หลังจากที่บริษัท MGI เข้าตลาดหลักทรัพย์ก็ดูเหมือนจะปังเพิ่มมากขึ้นเพราะล่าสุดหุ้นของ MGI พยานเข้าสู่ 30 บาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว งานนี้สาว“อิงฟ้า วราหะ” ในฐานะกรรมการบริหารบริษัทที่ถือหุ้นกว่า 2,000,000 หุ้น ก็ได้มาเปิดเผยว่าเจ้าตัวได้ทำการขายหุ้นไปแล้วบางส่วนเพื่อทำกำไร พร้อมเผยถึงงานละครที่คิวงานปีนี้ แน่นมากจนไม่สามารถรับงานละครได้แล้ว รวมถึงแจงดราม่าหลังชาวเน็ตสงสัยผู้เข้าประกวดนางงามต้องไลฟ์สดขายสินค้าให้ได้ตามเป้า จนถูกตำหนิว่าเป็นนางงามทำไมต้องมาขายของ เจ้าตัวก็ได้แจ้งถึงเหตุผลนี้ด้วย
อิงฟ้า วราหะ มาร่วมงานแถลงข่าวเปิดตัวคอนเทนต์ OneD Original “ พร้อมให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงหุ้น MGI ตอนนี้ ทะยานสู่ 30 บาทแล้ว ตนบอกว่ามันสามารถพุ่งไปได้เรื่อยๆ เพราะทางองค์กรมีอะไรหล่อเลี้ยง ตลอดไม่ว่าจะเป็นผลงาน หรือสินค้า ซึ่งจากตอนแรกตนมีอยู่ 2,000,000 หุ้น ตอนนี้เหลืออยู่แค่ 1,900,000 หุ้นแล้ว เพราะว่าว่าตนทำการเทรดไปด้วย เพราะหวังกำไร ช่วงที่มันขึ้นตนก็เทรดเพื่อเอาทุนคืน พอได้ปันผลครั้งแรกก็จุกเลย
หลังจากได้ที่เล่นละครครั้งแรก จะมีละครต่อเลยไหมตนก็บอกว่าคิดว่าปีหน้าอาจจะมี แต่คิวในปีนี้แน่นหมดเลย เพราะจะมีทั้งภาพยนตร์และซีรีส์อื่นๆ ที่กำลังจะถ่าย ซึ่งหนังตอนนี้ถ่ายเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้ชมกันสิงหาคมนี้
ถามถึงดราม่าแคมเปญขายของทางมิสแกรนด์ไทยแลนด์ ให้ได้ยอด 1,200,000 บาท เพื่อไปไต้หวัน ซึ่งมีเพียงผู้เข้ารอบแค่สองคน หลายคนติว่าทำไมเป็นนางงามต้องขายของ ในฐานะที่ตนเป็นกรรมการปีนี้ ตนเผยว่า ตนเข้าใจเพราะด้วยความที่เราผ่านการประกวด แต่ในปีนี้แคมเปญมันค่อนข้างค่อนข้างที่จะหนักมากขึ้น ด้วยความที่ MGI มีความก้าวหน้า ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตลาดหลักทรัพย์หรืออะไรก็ตาม
ซึ่งคนที่จะมาอยู่ตรงนี้ต้องสามารถปฏิบัติตามได้จริงๆ ซึ่งตนก็ฝากน้องน้องว่าถึงแม้ยอดจะไม่ถึง แต่เราเห็นถึงความพยายามและความตั้งใจอันนี้ก็เข้าใจได้ และสิ่งที่ตนคิดว่าทางบอสกำลังจะสื่อ คือไม่เห็นความตั้งใจของหลายๆ คนที่จะพยายามทำแคมเปญ อยากให้มองว่าที่ขายของเพราะก็ได้ค่าคอมไปใช้เหมือนกัน บางคนได้เป็น 100,000 บาท อยากให้มองจุดนี้จะได้ไม่เหนื่อย และในปีนี้นี้ที่ตนเป็นกรรมการตัดสินก็คงมองความบิวตี้ควีนเป็นหลัก
