รวบ 7 โจ๋ตาถั่ว คิดว่าเป็น ฟันเฟืองคู่อริ ก่อเหตุปล้น สรุปได้พวงกุญแจ 

1 ก.พ. 67

รวบ 7 โจ๋ตาถั่ว คิดว่าเป็น ฟันเฟืองคู่อริ ก่อเหตุปล้น นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยดัง สรุปได้พวงกุญแจตราสัญลักษณ์คณะ 

วันที่ 31 ม.ค. 67 พ.ต.อ.ไพโรจน์ นาเมืองรักษ์ ผกก.สน.ภาษีเจริญ นำกำลังฝ่ายสืบสวนเข้าจับกุมกลุ่มเยาวชน 7 คน อายุระหว่าง 15-18 ปี โดยทั้งหมดเป็นนักเรียนระดับ ปวช. โรงเรียนแห่งหนึ่ง หลังก่อเหตุใช้อาวุธมีดปล้นทรัพย์พวงกุญแจ ตราสัญลักษณ์ของนักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง 

เหตุเกิดริมถนนเพชรเกษมขาออกปากซอยเพชรเกษม 33/8 แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กทม. เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 30 ม.ค. ที่ผ่านมา ก่อนที่ฝ่ายสืบสวนจะแกะรอยจากกล้องวงจรปิด ติดตามจับกุมตัวมาได้ยกแก๊งพร้อมของกลางพวงกุญแจ 1 อัน 

พ.ต.อ.ไพโรจน์ กล่าวว่า เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 30 ม.ค. 67 ร.ต.อ.ชนินทร์ จิระมหาโภคา รอง สว.(สอบสวน) สน.ภาษีเจริญ ได้รับแจ้งเหตุ วัยรุ่นทะเลาะวิวาทกันริมถนนเพชรเกษมฝั่งขาออก ตรงจุดเกิดเหตุ จึงรีบนำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจและฝ่ายสืบสวนเดินทางไปตรวจสอบ พบนายศรายุธ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ผู้เสียหายซึ่งปัจจุบันเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรี คณะวิศวกรรมอุตสาหการ ยืนรอเจ้าหน้าที่อยู่ข้างถนน ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นของผู้เสียหายจอดอยู่ 1 คัน 

จากการสอบสวน นายศรายุธ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขับ รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายแฟนสาว มาตามถนนเพชรเกษมขาออก โดยขับมาตามปกติ กระทั่งมีกลุ่มนักเรียนช่างกล 7 คน ขับขี่ และซ้อนท้าย รถจักรยานยนต์จำนวน 3 คันติดตามมา ซึ่งเด็กนักเรียนกลุ่มนี้ น่าจะเข้าใจผิดว่า ตนเรียนช่างกลสถาบันคู่อริ เพราะพวงกุญแจรถตนเป็นตราสัญลักษณ์ของคณะที่ตนเรียน ซึ่งมีลักษณะเป็นรูปฟันเฟือง จากนั้นผู้ต้องหาทั้ง 7 คนก็จอดรถลงมาล้อม โดยมีอยู่ 1 คนชักมีดดาบออกมา และทำการดึงพวงกุญแจ รถจักรยานยนต์ของตนก่อนพากันหลบหนีไป โชคดีที่เด็กช่างกลทั้ง 7 คนไม่ได้ทำอันตรายใดๆ กับตนและแฟนสาว 

ต่อมาพนักงานสอบสวนจึงได้เชิญตัว นายศรายุธ เข้าให้ปากคำที่โรงพัก ก่อนที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ภาษีเจริญ จะลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณปากซอยเพรเกษม 33/8 จนทราบ ตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมด และติดตามไปจับกุมได้แบบยกแก๊ง จากการสอบปากคำในเบื้องต้น ยอมรับทำไปเพราะความคึกคะนอง และอยากได้พวงกุญแจของผู้เสียหาย จึงประสานผู้ปกครองและเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพเข้าดำเนินการสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยแจ้งข้อหาปล้นทรัพย์ฯ เพื่อส่งศาลเยาวชนและครอบครัวกลางดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส